xs
xsm
sm
md
lg

แชทไลน์ ภัยร้ายที่ควบคุมได้ โดยสามัญสำนึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สืบเนื่องจากกรณีเด็กถูกล่อลวงจากการเข้ามาใช้บริการแชทไลน์ ในระบบออดิโอเท็กซ์ ทำให้ผู้บริหาร ของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ส่งผลทำให้ทีโอเอเรียกบริษัทคู่สัญญาที่ร่วมดำเนินการบริการแชทไลน์ ในระบบออดิโอเท็กซ์ จำนวน 13 ราย เข้าประชุม เพื่อร่วมหารือมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาแชทไลน์ ในระบบออดิโอเท็กซ์ (1900XXX XXXX) ที่ไม่เหมาะสม

จากนั้นก็มีมาตรการออกมา 4 ข้อ ดังนี้ 1.ควบคุมการให้บริการแชทไลน์ โดยให้ระงับบริการพูดคุยระหว่างผู้ใช้บริการด้วยกันโดยตรง และให้คงไว้เฉพาะการพูดคุยกับพนักงานของบริษัทผู้ให้บริการเพียงอย่างเดียว 2.การลงสื่อโฆษณา ให้คู่สัญญาทุกรายตรวจสอบสื่อโฆษณาทุกรายการก่อนเผยแพร่สู่สายตาประชาชน 3.บทลงโทษ ในกรณีที่ตรวจพบหรือได้รับการร้องเรียนหรือมีผู้เสียหายจากการใช้บริการแชทไลน์ ทีโอที สามารถที่จะยกเลิกสัญญาได้ 4.ทีโอทีจะตั้งคณะทำงานเพื่อทำหน้าที่สอดส่องดูแล การให้บริการแชทไลน์ รวมถึงการติดตามการลงสื่อโฆษณาต่างๆ ด้วย

แต่สิ่งที่น่าขบคิดก็คือ มาตรการที่ ทีโอที มีออกมานั้น กลับไม่มีมาตรการใดที่สามารถนำมาใช้ตรวจสอบอายุของผู้เข้ามาใช้บริการได้อย่างแท้จริง

ธิติมา หมีปาน จากศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มาตรการที่ ทีโอทีออกมานั้นเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะเรื่อง ทั้งที่จริง ทีโอทีควรจะมองถึงผลเสียทั้งหมดของการเปิดให้บริการแชทไลน์มากกว่าจะมาคอยนั่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทุกๆ ครั้งที่เกิดเรื่อง เพราะการให้บริการแชทไลน์ยังมีปัญหาอื่นๆ ที่ยังรอคอยการแก้ไขอยู่ รวมถึงเนื้อหาของการโฆษณาที่มีการใช้รูปภาพและถ้อยคำที่เป็นการหมิ่นเหม่ ต่อศีลธรรมอันดีที่ควรมี ซึ่งในเรื่องนี้ทาง ทีโอที ให้นโยบายว่าจะเข้าไปควบคุมสื่อโฆษณาต่างๆ มิให้เผยแพร่อย่างที่เป็นอยู่ แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบรูปภาพและถ้อยคำที่เป็นการเชิญชวนในลักษณะลามกอนาจาร และแอบแฝงเรื่องทางกามารมณ์ ซึ่งยังคงปรากฏอยู่อย่างกลาดเกลื่อน ตามสื่อต่างๆ อยู่เช่นเดิม

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงรูปแบบ และวิธีการโฆษณาชวนเชื่อให้เข้าไปใช้บริการแชทไลน์ในปัจจุบัน พบว่า รายละเอียดในสื่อโฆษณาต่างๆ นั้น เข้าข่าย หมิ่นเหม่ ต่อศีลธรรม ถึงขั้นลามกอนาจารเลยทีเดียว จากการโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าว ผู้ให้สัมปทาน คือ บริษัททีโอที และผู้ประกอบการ ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีข้อหลีกเลี่ยง

นอกจากนี้ ทีโอทีน่าจะรู้ถึงรูปแบบการให้บริการแชทไลน์ ที่มีเนื้อหาของการสนทนาอันเข้าข่ายเป็นการส่งเสริมและยั่วยุเชิงกามารมณ์ ซึ่งลักษณะดังกล่าวเปรียบเสมือนการให้บริการเซ็กซ์โฟน นั่นหมายความว่า การเปิดแชทไลน์ในปัจจุบันนั้น เป็นการเปิดสายเซ็กซ์โฟน โดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะรูปแบบของการโฆษณาชวนเชื่อนี้เอง ที่แสดงถึงสรรพคุณการให้บริการค้าประเวณีด้วยเสียง อย่างโจ่งแจ้ง โดยไม่ต้องมีข้อแก้ตัวใดๆ

ธิติมากล่าวต่อว่า มีผู้เคยเข้าไปทดลองใช้บริการและพบว่า ในการสนทนามีการใช้ถ้อยคำที่เป็นการพูดสองแง่ สองง่าม ถึงขนาดมีการบอกและบรรยายวิธีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองให้คู่สนทนาอีกฝ่ายฟัง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการให้บริการเซ็กซ์โฟนในรูปแบบหนึ่งที่มีความหมิ่นเหม่ ต่อศีลธรรมอันดีงามของสังคมและชาติ แต่เป็นการให้บริการเซ็กซ์โฟนที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการเปิดให้บริการโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย ที่ยังไม่สามารถเข้ามาควบคุมดูแลในเรื่องดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง

แต่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ผู้ให้สัมปทานในการจัดบริการแชทไลน์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่เกิดจากเงินภาษีของประชาชน ควรจะมีสามัญสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องนี้มากกว่าใคร ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาเรื่องแชทไลน์ เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมต่อไป

ที่สำคัญ มูลค่าของผลกำไรในแต่ละปีที่ ทีโอที ได้รับจากสัมปทานออดิโอเท็กซ์ คงเทียบไม่ได้กับมูลค่าทางจริยธรรมและศีลธรรมอันดีงามของสังคม และประเทศชาติ ซึ่งในเรื่องนี้ คงต้องฝากถามไปยังผู้บริหารของทีโอทีว่า จะเลือกเอาสิ่งไหน ระหว่างผลกำไรทางธุรกิจกับศีลธรรมของสังคม
กำลังโหลดความคิดเห็น