กทม.ส่งทีมเยียวยาเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ และครอบครัวแล้ว พร้อมเตือน ผอ.และคณะครูโรงเรียนหยุดเคลื่อนไหวเพื่อช่วยครูที่ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย
นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเยียวยาเด็กนักเรียนชั้น ป.2 ทั้ง 5 คน ที่ถูกครูโรงเรียนย่านสายไหม 2 คน ล่วงละเมิดทางเพศว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองเด็ก กทม.ในวันนี้ ได้เชิญทีมสหวิชาชีพของ กทม.ประกอบด้วย แพทย์ด้านจิตเวช นักสงคมสงเคราะห์ ผู้ทำงานทางด้านการศึกษา ฯลฯ มาร่วมหารือถึงแนวทางในการเยียวยาเด็กและครอบครัว ซึ่งได้ผลสรุป คือ ทีมสหวิชาชีพของ กทม.ซึ่งมีคณะกรรมการจำนวน 8 ท่าน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำทีมโดยนายแพทย์มานิตย์ ศรีปราโมทย์ ศาสตราจารย์พิเศษ วิทยาลัยแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กทม.จาก กทม.จะเข้าไปทำในฐานะผู้ปฏิบัติงานมีความทำงานด้านวิชาชีพโดยไม่เกี่ยวข้องกับรูปคดีแต่ประการใด
นอกจากนี้ ทีมดังกล่าวจะเข้าไปประสานงานกับทางมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เบื้องต้นทางมูลนิธีปวีณาฯได้ประเมินสถานะของเด็กนักเรียนและสุขภาพกายและจิต ได้ผลสรุป คือ จะต้องมีการดูแลอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งทีมสหวิชาชีพของ กทม.เข้าไปประสานเพื่อจะรับทำเรื่องนี้ต่อไป โดยทาง กทม.พร้อมจะเข้ามาดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ทีมสหวิชาชีพจะเริ่มเข้าไปพูดคุยกับเด็กและครอบครัว
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดูแลเด็กในอนาคตในเรื่องการเรียนของเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ในเบื้องต้นขณะนี้ กทม.จะจัดครูพิเศษไปสอนให้กับเด็กทั้ง 5 คน โดยจะให้เรียนรวมกันไม่ต้องมาที่โรงเรียนในที่ใดที่หนึ่งซึ่งจะมีครูไปสอน
นอกจากนี้ ผู้ปกครองสามารถเลือกได้ว่าจะให้ครูประจำชั้นของโรงเรียนเดิม หรือครูจากส่วนกลางไปจัดการเรียนการสอนให้ จะถือเสมือนว่าได้เรียนในโรงเรียน ส่วนในอนาคตให้ผู้ปกครองสามารถตัดสินใจ โดย กทม.มีทางเลือกให้ 3 กรณี คือ 1.จะให้เด็กศึกษาต่อในโรงเรียนเดิม 2.จะศึกษาในโรงเรียนของ กทม. กทม.ก็จะรับดำเนินการให้ 3.จะศึกษานอกสังกัดของ กทม. กทม.ก็จะประสานให้
อย่างไรก็ตาม นอกจาก กทม.ได้จัดทีมสหวิชาชีพเข้าไปดูแลของเรียนเด็กทั้ง 5 คน รวมทั้งครอบครัว ยังมีทีมสุขภาพจิตจากฝ่ายสุขภาพจิตของสำนักอนามัย กทม.ไปดูแลทางโรงเรียนเพื่อให้กับมาสู่ภาวะปกติ ส่วนในอนาคต ถ้าเด็กต้องไปเรียนโรงเรียนใหม่ ทีมสุขภาพจิตของสำนักอนามัยจะเดินทางไปปรับความรู้สึกด้วย
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า ในฐานะที่ กทม.เป็นต้นสังกัดของโรงเรียนดังกล่าวได้ตักเตือนให้ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูในโรงเรียน ให้ยุติความเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยกซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกกระทบต่อเด็ก
นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเยียวยาเด็กนักเรียนชั้น ป.2 ทั้ง 5 คน ที่ถูกครูโรงเรียนย่านสายไหม 2 คน ล่วงละเมิดทางเพศว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองเด็ก กทม.ในวันนี้ ได้เชิญทีมสหวิชาชีพของ กทม.ประกอบด้วย แพทย์ด้านจิตเวช นักสงคมสงเคราะห์ ผู้ทำงานทางด้านการศึกษา ฯลฯ มาร่วมหารือถึงแนวทางในการเยียวยาเด็กและครอบครัว ซึ่งได้ผลสรุป คือ ทีมสหวิชาชีพของ กทม.ซึ่งมีคณะกรรมการจำนวน 8 ท่าน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำทีมโดยนายแพทย์มานิตย์ ศรีปราโมทย์ ศาสตราจารย์พิเศษ วิทยาลัยแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กทม.จาก กทม.จะเข้าไปทำในฐานะผู้ปฏิบัติงานมีความทำงานด้านวิชาชีพโดยไม่เกี่ยวข้องกับรูปคดีแต่ประการใด
นอกจากนี้ ทีมดังกล่าวจะเข้าไปประสานงานกับทางมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เบื้องต้นทางมูลนิธีปวีณาฯได้ประเมินสถานะของเด็กนักเรียนและสุขภาพกายและจิต ได้ผลสรุป คือ จะต้องมีการดูแลอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งทีมสหวิชาชีพของ กทม.เข้าไปประสานเพื่อจะรับทำเรื่องนี้ต่อไป โดยทาง กทม.พร้อมจะเข้ามาดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ทีมสหวิชาชีพจะเริ่มเข้าไปพูดคุยกับเด็กและครอบครัว
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดูแลเด็กในอนาคตในเรื่องการเรียนของเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ในเบื้องต้นขณะนี้ กทม.จะจัดครูพิเศษไปสอนให้กับเด็กทั้ง 5 คน โดยจะให้เรียนรวมกันไม่ต้องมาที่โรงเรียนในที่ใดที่หนึ่งซึ่งจะมีครูไปสอน
นอกจากนี้ ผู้ปกครองสามารถเลือกได้ว่าจะให้ครูประจำชั้นของโรงเรียนเดิม หรือครูจากส่วนกลางไปจัดการเรียนการสอนให้ จะถือเสมือนว่าได้เรียนในโรงเรียน ส่วนในอนาคตให้ผู้ปกครองสามารถตัดสินใจ โดย กทม.มีทางเลือกให้ 3 กรณี คือ 1.จะให้เด็กศึกษาต่อในโรงเรียนเดิม 2.จะศึกษาในโรงเรียนของ กทม. กทม.ก็จะรับดำเนินการให้ 3.จะศึกษานอกสังกัดของ กทม. กทม.ก็จะประสานให้
อย่างไรก็ตาม นอกจาก กทม.ได้จัดทีมสหวิชาชีพเข้าไปดูแลของเรียนเด็กทั้ง 5 คน รวมทั้งครอบครัว ยังมีทีมสุขภาพจิตจากฝ่ายสุขภาพจิตของสำนักอนามัย กทม.ไปดูแลทางโรงเรียนเพื่อให้กับมาสู่ภาวะปกติ ส่วนในอนาคต ถ้าเด็กต้องไปเรียนโรงเรียนใหม่ ทีมสุขภาพจิตของสำนักอนามัยจะเดินทางไปปรับความรู้สึกด้วย
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า ในฐานะที่ กทม.เป็นต้นสังกัดของโรงเรียนดังกล่าวได้ตักเตือนให้ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูในโรงเรียน ให้ยุติความเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยกซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกกระทบต่อเด็ก