“อย.” เข้มห้ามขายยาแอสไพริน เพื่อแก้ไข้ให้เด็กอีกต่อไป แต่ของผู้ใหญ่อนุญาตให้จำหน่ายได้ แจงให้มีขายเฉพาะในร้ายขายยาเท่านั้น ร้านโชวห่วยห้ามขาย เชื่อต้องทำความเข้าใจมาก เพราะผู้ปกครองมักคิดว่าใช้สำหรับเด็ก แต่ไม่ใช่ จึงต้องให้ อสม.ช่วยชี้แจง ระบุจะต้องแก้ข้อห้าม เพราะเดิมห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี แต่ต่อไปจะทบทวนเพิ่มอายุในการห้ามใช้ให้มากขึ้น ชี้ อาจจะไม่ให้ใช้ยาแอสไพรินสำหรับแก้ไข้ในเด็ก เพราะมีผลกระทบสูง ทั้งจะตัดชื่อยาแอสไพรินออกจากยาสามัญประจำบ้าน เพราะทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าไม่มีอันตราย
สืบเนื่องจาก กรณีเด็กอายุ 9 ขวบ ใน จ.ลพบุรี เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ โดยคาดว่าการเสียชีวิตมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานยาแอสไพรินเกินขนาด และเกิดอาการ Reye’s syndrome ทำให้ตับอักเสบและตับล้มเหลว กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หาแนวทางในการควบคุมการจำหน่ายยาแอสไพริน ไม่ให้ใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะการใช้เป็นยาลดไข้ในเด็กนั้น
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการศึกษาและเฝ้าระวังอันตรายจากการใช้ยา อยู่ระหว่างการทบทวนคำเตือนเกี่ยวกับอายุของเด็กที่ห้ามใช้แอสไพริน เนื่องจากปัจจุบันห้ามใช้ในเด็กอายุ 1 ขวบ ซึ่งต้องขยายอายุเพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างสอบถามความคิดเห็นไปยังราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ นอกจากนี้ อย.จะดำเนินการทบทวนทะเบียนตำรับยาแอสไพรินโดยคณะอนุกรรมการทบทวนทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 24 ส.ค.นี้ โดยจะทบทวนในประเด็นหลัก คือ ข้อบ่งใช้หรือสรรพคุณของยาแอสไพริน โดยเฉพาะการใช้ลดไข้ในเด็ก ข้อความคำเตือนของยา รูปแบบยา ทบทวนมาตรการการควบคุมการจำหน่ายยาแอสไพรินโดยจะต้องไม่มีการจำหน่ายยารูปแบบซองในร้านชำและซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงทบทวนตัดยาแอสไพรินออกจากรายการประกาศฯ เรื่องยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันด้วย
ศ.ดร.ภักดี กล่าวต่อว่า อย.ได้ส่งหนังสือถึงผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันให้ทราบปัญหาดังกล่าว และให้เตรียมการรองรับหากมีการทบทวนหรือเพิกถอนทะเบียนตำรับยาของบริษัท รวมทั้งส่งหนังสือถึงสมาคมเภสัชกรรมชุมชนแห่งประเทศไทย สมาคมร้านขายยา ชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข โดยผู้ที่จะซื้อยาลดไข้สำหรับเด็กแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง และไม่จำหน่ายยาแอสไพรินชนิดซองสำหรับลดไข้ในเด็กอีกต่อไป แต่ผู้ใหญ่ยังให้ใช้อยู่ รวมทั้งจัดให้มีเภสัชกรอยู่ประจำร้านตลอดเวลาเปิดทำการ เพื่อให้คำแนะนำการใช้ยาที่ถูกต้องแก่ผู้ซื้อยา และขอให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพช่วยประชาสัมพันธ์ให้อสม.ที่มีอยู่กว่า 7 แสนคนทั่วประเทศ สอดส่องดูแลการซื้อยาผงแก้ปวดลดไข้เด็กชนิดซอง ซึ่งผู้ปกครองมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นยาที่เหมาะสมสำหรับเด็ก แต่ต่อไปคือห้ามขายเพื่อแก้ไข้สำหรับเด็ก
“นโยบายดังกล่าวเป็นเรื่องของการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีความสำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงนี้มีการแพร่ระบาดทั้งโรคไข้หวัดนกและโรคไข้เลือดออก การใช้ยาจึงต้องระมัดระวังและควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง และห้ามใช้ยาแอสไพรินกับผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ โดยเด็ดขาด อย่าคิดว่ายาแอสไพรินเป็นเพียงยาสามัญประจำบ้านที่ไม่มีอันตราย เพราะขึ้นชื่อว่ายามีทั้งคุณและโทษ” เลขาธิการ อย.กล่าว