“หมอประเวศ” แนะ 3 ข้อให้ “ทักษิณ” ทำคุณประโยชน์เพื่อแผ่นดิน แค่พูดว่า 1.ผมพอแล้ว 2.บอกคนที่เชียร์หยุดก่อความวุ่นวาย 3.ทำตัวเหมือนบิลล์ เกตส์ ตั้งมูลนิธิช่วยสังคม เรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย ย้ำสรรหา กกต.ต้องทำให้ดีที่สุด อย่าห่วงเรื่องเวลา ถ้าไม่ทันก็ต้องเลื่อนเลือกตั้ง เตือนทักษิณอย่าหวังอะไรอีก เพราะชีวิตนี้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว ชี้คนไม่เชื่อใจนายกฯ เพราะพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง เหน็บมีเงินแสนล้านก็ชื้อไม่ได้

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า การที่ศาลพิพากษาจำคุก 3 กกต.นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ที่ผ่านมาประเทศไทยคนมีอำนาจชะล่าใจมาก เพราะคิดว่าทำผิดก็ไม่ต้องติดคุก เนื่องจากการลงโทษไปไม่ถึง ดังนั้น ต้องมีคนมีอำนาจติดคุกเรื่องถึงจะดีขึ้น ทั้งนี้ มีคำถามว่าอนาคตของประเทศไทยเราจะไปกันอย่างไรต่อไป ตนเห็นว่าก็ต้องมีการทำหลายอย่างด้วยกัน อย่าทำเพียงอย่างเดียว เปรียบเทียบเหมือนกับระบบในร่างกายที่เป็นพหุบท หรือทำงานอย่างประสานและสอดคล้องกัน ดังนั้น แม้ศาลจะตัดสินจำคุก กกต.ไปแล้วก็ต้องคิดถึงทางเดินต่อไป คือ กระบวนการสรรหา กกต.ให้มีคุณภาพ มีความเป็นกลาง เป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจเงิน และอำนาจรัฐ มีความสามารถจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม อย่าสุกเอาเผากิน
นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป กกต.จะเป็นกลาง ไม่เข้าข้างรัฐบาล แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะพรรคไทยรักไทยยังยึดครองอำนาจอยู่ และใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบฝ่ายอื่น แม้จะให้คำมั่นว่าจะไม่ทำ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่า ทรท.จะไม่เอาเปรียบ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาเป็นแบบนั้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องเป็นอิสระอย่างแท้จริง ไม่ตกเป็นเครื่องมือนึกถึงความถูกต้อง รักบ้านเมือง สื่อก็ต้องมีความเป็นกลางหลุดจากอำนาจรัฐ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ควรจะพูดทุกเช้าวันเสาร์อยู่ฝ่ายเดียว ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องถามต่อไป คือ รัฐบาลใช้งบของรัฐไปหาเสียงหรือไม่ ซึ่งการเป็นรัฐบาลทำได้ง่ายมาก ตรงนี้ต้องมีการตรวจสอบ เช่น ศาลอาจจะเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่าไม่ถูกต้องก็ต้องมีการลงโทษ
“ที่สำคัญ ตัวนายกฯ ทักษิณก็ต้องช่วยให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นด้วย วิธีพูดของท่านทำให้เกิดเรื่อง ยิ่งพูดทุกวันก็ยั่วยุให้เกิดเรื่องทุกวัน ดังนั้น ท่านต้องปรับความคิดเสียใหม่ อย่าคิดว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ท่านเป็นศัตรูไปเสียหมด หรือคิดว่าคนที่ไม่เลือกท่านไม่เป็นพวกเดียวกับท่าน เพราะความเป็นผู้นำ ผู้ปกครองต้องไม่คิดแบ่งแยก คิดถึงคนทั้งหมด อย่าพูดว่าคนอื่นทุกวัน ตรงนี้เป็นนิสัยที่นายกฯ ทักษิณไม่รู้ตัว นอกจากนั้นนายกฯ ทักษิณเข้าใจความเป็นประชาธิปไตยผิด ท่านคิดว่าใครที่ค้านท่าน คนนั้นไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ความจริงไม่ใช่ การเดินขบวนประท้วง คัดค้านเป็นเรื่องปกติธรรมดา ประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นประชาธิปไตยประชาชนก็เดินขบวนคัดค้านสิ่งที่ไม่เห็นด้วยเป็นประจำ”
นพ.ประเวศ กล่าวว่า มีคนหวังดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกเยอะ เขาพยายามช่วยท่านอยู่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องยอมรับว่าตัวเองผ่านจุดสูงสุดของชีวิตที่มีทั้งอำนาจ และมีคนเชื่อถือสูงสุดมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถใช้สิ่งที่มีอยู่แก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ทำให้ ณ วันนี้มีคนไม่เชื่อถือและไม่ไว้ใจนายกฯมากขึ้น ตนเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ดังนั้น อย่าคิดว่า 16 ล้านคนที่เลือกท่านมาจะอยู่ข้างท่านตลอด คนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องชนะใจคนทั้งหมด ขอเตือนนายกฯ ทักษิณอย่าไปหวังอะไรอีก ตนคิดว่าตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรทำอยู่ 3 ประการเพื่อเป็นคุณประโยชน์กับประเทศชาติ คือ
1.พ.ต.ท.ทักษิณ ควรพูดว่าผมพอแล้ว
2.พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องบอกกับคนที่สนับสนุนท่านให้มาร่วมมือแก้ปัญหาประเทศอย่างสันติวิธีดีกว่าการก่อความวุ่นวาย ทำร้ายคนอื่น อย่าออกมาต่อต้านศาล เพราะศาลได้ทำหน้าที่ตามพระปรมาภิไธยของในหลวงที่ได้ลงนามไว้ และ 3.ต้องทำตัวเหมือนบิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ใช้ทุนที่มีอยู่ไปตั้งมูลนิธิขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนเรื่องดีงามในสังคม
“ส่วนที่มีการกลัวกันว่านายกฯ ทักษิณจะใช้อำนาจแทรกแซงศาลอีกนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนต้องกลัว เพราะความทรงจำที่ผ่านมาทำให้คนไม่ไว้ใจท่านอีกต่อไป ดังนั้น ความเชื่อถือไว้วางใจเป็นทุนที่สำคัญและยิ่งใหญ่กว่าเงินมาก ใช้เงินเป็นแสนล้านมาซื้อก็ไม่ได้ ถ้าไม่มีตรงนี้คนก็สงสัยไปทุกอย่าง ถึงแม้ไม่ได้ทำก็สงสัย มีเจตนาดียังไงคนก็สงสัย ไม่เชื่อใจ ส่วนการเลือกตั้งนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าควรเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่เราควรเน้นตรงที่การสรรหา กกต.ให้มีคุณภาพที่สุด ใช้เวลาตรงนี้อย่างเต็มที่ ถ้าทันก็ทัน ไม่ทันก็เลื่อน” นพ.ประเวศ กล่าว และว่าตนพูดหลายครั้งเรื่องนี้ก็เพราะมีความหวังดีและอยากช่วยท่าน แต่ที่ผ่านมาท่านก็ไม่เชื่อเสียที
ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า การที่ศาลพิพากษาจำคุก 3 กกต.นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ที่ผ่านมาประเทศไทยคนมีอำนาจชะล่าใจมาก เพราะคิดว่าทำผิดก็ไม่ต้องติดคุก เนื่องจากการลงโทษไปไม่ถึง ดังนั้น ต้องมีคนมีอำนาจติดคุกเรื่องถึงจะดีขึ้น ทั้งนี้ มีคำถามว่าอนาคตของประเทศไทยเราจะไปกันอย่างไรต่อไป ตนเห็นว่าก็ต้องมีการทำหลายอย่างด้วยกัน อย่าทำเพียงอย่างเดียว เปรียบเทียบเหมือนกับระบบในร่างกายที่เป็นพหุบท หรือทำงานอย่างประสานและสอดคล้องกัน ดังนั้น แม้ศาลจะตัดสินจำคุก กกต.ไปแล้วก็ต้องคิดถึงทางเดินต่อไป คือ กระบวนการสรรหา กกต.ให้มีคุณภาพ มีความเป็นกลาง เป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อำนาจเงิน และอำนาจรัฐ มีความสามารถจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม อย่าสุกเอาเผากิน
นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป กกต.จะเป็นกลาง ไม่เข้าข้างรัฐบาล แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะพรรคไทยรักไทยยังยึดครองอำนาจอยู่ และใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบฝ่ายอื่น แม้จะให้คำมั่นว่าจะไม่ทำ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่า ทรท.จะไม่เอาเปรียบ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาเป็นแบบนั้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องเป็นอิสระอย่างแท้จริง ไม่ตกเป็นเครื่องมือนึกถึงความถูกต้อง รักบ้านเมือง สื่อก็ต้องมีความเป็นกลางหลุดจากอำนาจรัฐ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ควรจะพูดทุกเช้าวันเสาร์อยู่ฝ่ายเดียว ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องถามต่อไป คือ รัฐบาลใช้งบของรัฐไปหาเสียงหรือไม่ ซึ่งการเป็นรัฐบาลทำได้ง่ายมาก ตรงนี้ต้องมีการตรวจสอบ เช่น ศาลอาจจะเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่าไม่ถูกต้องก็ต้องมีการลงโทษ
“ที่สำคัญ ตัวนายกฯ ทักษิณก็ต้องช่วยให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นด้วย วิธีพูดของท่านทำให้เกิดเรื่อง ยิ่งพูดทุกวันก็ยั่วยุให้เกิดเรื่องทุกวัน ดังนั้น ท่านต้องปรับความคิดเสียใหม่ อย่าคิดว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ท่านเป็นศัตรูไปเสียหมด หรือคิดว่าคนที่ไม่เลือกท่านไม่เป็นพวกเดียวกับท่าน เพราะความเป็นผู้นำ ผู้ปกครองต้องไม่คิดแบ่งแยก คิดถึงคนทั้งหมด อย่าพูดว่าคนอื่นทุกวัน ตรงนี้เป็นนิสัยที่นายกฯ ทักษิณไม่รู้ตัว นอกจากนั้นนายกฯ ทักษิณเข้าใจความเป็นประชาธิปไตยผิด ท่านคิดว่าใครที่ค้านท่าน คนนั้นไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ความจริงไม่ใช่ การเดินขบวนประท้วง คัดค้านเป็นเรื่องปกติธรรมดา ประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นประชาธิปไตยประชาชนก็เดินขบวนคัดค้านสิ่งที่ไม่เห็นด้วยเป็นประจำ”
นพ.ประเวศ กล่าวว่า มีคนหวังดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกเยอะ เขาพยายามช่วยท่านอยู่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องยอมรับว่าตัวเองผ่านจุดสูงสุดของชีวิตที่มีทั้งอำนาจ และมีคนเชื่อถือสูงสุดมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถใช้สิ่งที่มีอยู่แก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ทำให้ ณ วันนี้มีคนไม่เชื่อถือและไม่ไว้ใจนายกฯมากขึ้น ตนเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ดังนั้น อย่าคิดว่า 16 ล้านคนที่เลือกท่านมาจะอยู่ข้างท่านตลอด คนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องชนะใจคนทั้งหมด ขอเตือนนายกฯ ทักษิณอย่าไปหวังอะไรอีก ตนคิดว่าตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรทำอยู่ 3 ประการเพื่อเป็นคุณประโยชน์กับประเทศชาติ คือ
1.พ.ต.ท.ทักษิณ ควรพูดว่าผมพอแล้ว
2.พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องบอกกับคนที่สนับสนุนท่านให้มาร่วมมือแก้ปัญหาประเทศอย่างสันติวิธีดีกว่าการก่อความวุ่นวาย ทำร้ายคนอื่น อย่าออกมาต่อต้านศาล เพราะศาลได้ทำหน้าที่ตามพระปรมาภิไธยของในหลวงที่ได้ลงนามไว้ และ 3.ต้องทำตัวเหมือนบิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ใช้ทุนที่มีอยู่ไปตั้งมูลนิธิขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนเรื่องดีงามในสังคม
“ส่วนที่มีการกลัวกันว่านายกฯ ทักษิณจะใช้อำนาจแทรกแซงศาลอีกนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนต้องกลัว เพราะความทรงจำที่ผ่านมาทำให้คนไม่ไว้ใจท่านอีกต่อไป ดังนั้น ความเชื่อถือไว้วางใจเป็นทุนที่สำคัญและยิ่งใหญ่กว่าเงินมาก ใช้เงินเป็นแสนล้านมาซื้อก็ไม่ได้ ถ้าไม่มีตรงนี้คนก็สงสัยไปทุกอย่าง ถึงแม้ไม่ได้ทำก็สงสัย มีเจตนาดียังไงคนก็สงสัย ไม่เชื่อใจ ส่วนการเลือกตั้งนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าควรเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่เราควรเน้นตรงที่การสรรหา กกต.ให้มีคุณภาพที่สุด ใช้เวลาตรงนี้อย่างเต็มที่ ถ้าทันก็ทัน ไม่ทันก็เลื่อน” นพ.ประเวศ กล่าว และว่าตนพูดหลายครั้งเรื่องนี้ก็เพราะมีความหวังดีและอยากช่วยท่าน แต่ที่ผ่านมาท่านก็ไม่เชื่อเสียที