สสส.เปิดข้อมูล แพร่ครองแชมป์กินเหล้ามากที่สุดในประเทศไทย ส่วนตราดดื่มทุกวัน เจาะลึกตำบลศรีษะเกษ จ.น่าน ปีเดียวผลาญค่าน้ำเมาเกือบ 4 ล้าน เครือข่ายองค์กรงดเหล้าชวน “เลิกเหล้า เลิกจน เริ่มต้นเข้าพรรษานี้ ทำความดีถวายในหลวง” ด้าน ธ.ก.ส.ร่วมใจให้เครดิต คนเลิกสุราเป็นลูกค้าชั้นดี
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม รองประธานคนที่ 2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า จังหวัดที่มีร้อยละของประชากรที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.แพร่ 60% 2.อุตรดิตถ์ 46.6% 3.พะเยา/เชียงราย 46.2% จังหวัดที่ดื่มน้อยคือนอกจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามและมีประชากรที่ดื่มต่ำกว่าร้อยละ 0.1 แล้ว ได้แก่จังหวัด 1.พังงา 0.16% 2.กระบี่ 7.2% 3.ฉะเชิงเทรา 8.3%
และเฉพาะการเก็บข้อมูลใน ต.ศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน ที่มี 14 หมู่บ้าน ประชาชน 7,430 คน ดื่มเหล้า 2,519 คน พบว่า แค่ช่วงเดือนมกราคม 2548-มกราคม 2549 ต้องสูญเงินไปเพื่อดื่มเหล้าสูงถึง 3 ล้าน 9 แสนบาท ในหลายพื้นที่จ่ายเงินไปกับค่าเหล้ามากกว่าที่จะใช้เพื่อการศึกษาของลูกหลานเสียอีก
“เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และรณรงค์ในจังหวัดเป็นรูปธรรม สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจึงร่วมกับประชาคมสุขภาพ 20 จังหวัดนำร่อง เช่น จังหวัดน่าน เชียงใหม่ กาฬสินธุ์ สุรินทร์ นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ วางแผนปฏิบัติการให้เกิดนโยบายสาธารณะในชุมชน เช่น งานเลี้ยง งานบุญไม่มีเหล้า พื้นที่สาธารณะปลอดเหล้า และขอเชิญชวนประชาชนไทยร่วมกันลด ละ เลิก เหล้า ในโครงการ “เลิกเหล้า เลิกจน เริ่มต้นเข้าพรรษานี้ ทำความดีถวายในหลวง” ขอรับใบปฏิญาณตนได้ที่ www.stopdrink.com หรือ www.thaihealth.co.th โดยผู้ต้องการเลิกเหล้า ติดต่อได้ที่สายด่วนเลิกเหล้า 0-2379-1020” ศ.นพ.อุดมศิลป์ กล่าว
ด้าน นายทรงพล ทรัพย์ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบริหารอัตรากำลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ธ.ก.ส. ร่วมกับศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ (ศตจ.) รณรงค์ให้ชาวบ้านจัดทำบัญชีครัวเรือน เพื่อจะได้รู้รายรับรายจ่ายของตน และพิจารณาลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ช่วยให้มีเงินออมมากขึ้น โดยได้แจกจ่ายไปแล้วกว่า 5 ล้านเล่ม และกำหนดเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้ยืมกับ ธ.ก.ส. หากจดบัญชีครัวเรือนเป็นประจำ และถ้าเป็นผู้เลิกเหล้าจะได้รับการพิจารณาเป็นลูกค้าชั้นดี อาจมีสิทธิพิเศษมอบให้ ซึ่งพนักงาน ธ.ก.ส.13,028 คน จะร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า รณรงค์ “เลิกเหล้า เลิกจน เริ่มต้นเข้าพรรษานี้ ทำความดีถวายในหลวง” โดยสามารถร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษาได้ที่ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ
ขณะที่ นายเกษตร ยศบุญเรือง กำนันตำบลศรีษะเกษ จ.น่าน กล่าวว่า จากการทำแผนแม่บทชุมชน ทำให้รู้รายรับรายจ่ายทั้งตำบล พบว่าค่าซื้อเหล้าของชาวบ้านในชุมชนมากกว่าค่าซื้อข้าวสาร จึงรณรงค์ผู้นำ 14 ตำบลให้เป็นตัวอย่างงดเหล้าเข้าพรรษา และนำไปรณรงค์ต่อในหมู่บ้านของตัวเอง และยังมีศูนย์เรียนรู้ข้อมูลประจำตำบล จัดเวทีวิจารณ์แก้ปัญหาทุกเดือน ชี้ให้เห็นว่าเงินที่เหลือจากการซื้อเหล้าสามารถนำมาลงทุนทำกินได้อีก จนกระทั่งตอนนี้คน 80% ไม่ยุ่งกับเหล้าแล้ว และเมื่อร่วมโครงการกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ได้ใช้กลยุทธ์กรอกใบสมัครปฏิญาณ และมีการจับรางวัลเป็นการจูงใจในระยะเริ่มต้นก็ได้ผลดี เพราะเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวบ้านเลิกเหล้าได้อย่างถาวร ส่วนคนที่ยังไม่เลิกจะได้ทดลองเก็บค่าเหล้าตลอด 3 เดือนดูด้วย การรณรงค์ในชุมชนครั้งนี้ได้ประสานร่วมงานกับ อบต. อสม. และโรงพยาบาลอีกด้วย
พระครูสุภกิจมงคล ตัวแทนเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา กล่าวว่า เครือข่ายได้จัดตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิตโนนมะเขือและบ้านโนนดอกแก้ว ให้ประชาชนมาเป็นสมาชิก ชวนงดเหล้า ละอบายมุข นำเงินมาสะสม ให้สมาชิกกู้ยืมไปประกอบอาชีพ นำดอกผลมาจัดสวัสดิการดูแลตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต มีระเบียบร่วมกัน อาทิ หากใครป่วย หรือประสบอุบัติเหตุจากการดื่มเหล้า จะไม่จ่ายสวัสดิการให้ รณรงค์ให้ร้านค้าบ้านโนนมะเขือ 4 ร้าน เลิกจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงทำให้งานบุญทุกชนิดปลอดเหล้า ทำให้เป็นวัดปลอดเหล้า ซึ่งวัดปลอดเหล้านี้ได้ขยายการดำเนินงานใน 36 จังหวัด 732 กลุ่มสมาชิก และตัวอย่างชาวบ้าน ได้ปฏิญาณตนงดเหล้าเริ่มต้นเข้าพรรษาทุกคนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หมายเหตุ : 20 จังหวัดนำร่องที่ร่วมโครงการ ได้แก่ 1.น่าน 2. ลำปาง 3.ระยอง 4.เชียงใหม่ 5.ขอนแก่น 6.อุดรราชธานี 7.มุกดาหาร 8.กาฬสินธุ์ 9.อุบลราชธานี 10.สุรินทร์ 11.นครราชสีมา 12.สกลนคร 13.ปราจีนบุรี 14.นครปฐม 15.ราชบุรี 16.สมุทรปราการ 17.นครศรีธรรมราช 19.หนองคาย 20.ชัยภูมิ
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม รองประธานคนที่ 2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า จังหวัดที่มีร้อยละของประชากรที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.แพร่ 60% 2.อุตรดิตถ์ 46.6% 3.พะเยา/เชียงราย 46.2% จังหวัดที่ดื่มน้อยคือนอกจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามและมีประชากรที่ดื่มต่ำกว่าร้อยละ 0.1 แล้ว ได้แก่จังหวัด 1.พังงา 0.16% 2.กระบี่ 7.2% 3.ฉะเชิงเทรา 8.3%
และเฉพาะการเก็บข้อมูลใน ต.ศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน ที่มี 14 หมู่บ้าน ประชาชน 7,430 คน ดื่มเหล้า 2,519 คน พบว่า แค่ช่วงเดือนมกราคม 2548-มกราคม 2549 ต้องสูญเงินไปเพื่อดื่มเหล้าสูงถึง 3 ล้าน 9 แสนบาท ในหลายพื้นที่จ่ายเงินไปกับค่าเหล้ามากกว่าที่จะใช้เพื่อการศึกษาของลูกหลานเสียอีก
“เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และรณรงค์ในจังหวัดเป็นรูปธรรม สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจึงร่วมกับประชาคมสุขภาพ 20 จังหวัดนำร่อง เช่น จังหวัดน่าน เชียงใหม่ กาฬสินธุ์ สุรินทร์ นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ วางแผนปฏิบัติการให้เกิดนโยบายสาธารณะในชุมชน เช่น งานเลี้ยง งานบุญไม่มีเหล้า พื้นที่สาธารณะปลอดเหล้า และขอเชิญชวนประชาชนไทยร่วมกันลด ละ เลิก เหล้า ในโครงการ “เลิกเหล้า เลิกจน เริ่มต้นเข้าพรรษานี้ ทำความดีถวายในหลวง” ขอรับใบปฏิญาณตนได้ที่ www.stopdrink.com หรือ www.thaihealth.co.th โดยผู้ต้องการเลิกเหล้า ติดต่อได้ที่สายด่วนเลิกเหล้า 0-2379-1020” ศ.นพ.อุดมศิลป์ กล่าว
ด้าน นายทรงพล ทรัพย์ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบริหารอัตรากำลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ธ.ก.ส. ร่วมกับศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ (ศตจ.) รณรงค์ให้ชาวบ้านจัดทำบัญชีครัวเรือน เพื่อจะได้รู้รายรับรายจ่ายของตน และพิจารณาลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ช่วยให้มีเงินออมมากขึ้น โดยได้แจกจ่ายไปแล้วกว่า 5 ล้านเล่ม และกำหนดเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้ยืมกับ ธ.ก.ส. หากจดบัญชีครัวเรือนเป็นประจำ และถ้าเป็นผู้เลิกเหล้าจะได้รับการพิจารณาเป็นลูกค้าชั้นดี อาจมีสิทธิพิเศษมอบให้ ซึ่งพนักงาน ธ.ก.ส.13,028 คน จะร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า รณรงค์ “เลิกเหล้า เลิกจน เริ่มต้นเข้าพรรษานี้ ทำความดีถวายในหลวง” โดยสามารถร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษาได้ที่ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ
ขณะที่ นายเกษตร ยศบุญเรือง กำนันตำบลศรีษะเกษ จ.น่าน กล่าวว่า จากการทำแผนแม่บทชุมชน ทำให้รู้รายรับรายจ่ายทั้งตำบล พบว่าค่าซื้อเหล้าของชาวบ้านในชุมชนมากกว่าค่าซื้อข้าวสาร จึงรณรงค์ผู้นำ 14 ตำบลให้เป็นตัวอย่างงดเหล้าเข้าพรรษา และนำไปรณรงค์ต่อในหมู่บ้านของตัวเอง และยังมีศูนย์เรียนรู้ข้อมูลประจำตำบล จัดเวทีวิจารณ์แก้ปัญหาทุกเดือน ชี้ให้เห็นว่าเงินที่เหลือจากการซื้อเหล้าสามารถนำมาลงทุนทำกินได้อีก จนกระทั่งตอนนี้คน 80% ไม่ยุ่งกับเหล้าแล้ว และเมื่อร่วมโครงการกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ได้ใช้กลยุทธ์กรอกใบสมัครปฏิญาณ และมีการจับรางวัลเป็นการจูงใจในระยะเริ่มต้นก็ได้ผลดี เพราะเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวบ้านเลิกเหล้าได้อย่างถาวร ส่วนคนที่ยังไม่เลิกจะได้ทดลองเก็บค่าเหล้าตลอด 3 เดือนดูด้วย การรณรงค์ในชุมชนครั้งนี้ได้ประสานร่วมงานกับ อบต. อสม. และโรงพยาบาลอีกด้วย
พระครูสุภกิจมงคล ตัวแทนเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา กล่าวว่า เครือข่ายได้จัดตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิตโนนมะเขือและบ้านโนนดอกแก้ว ให้ประชาชนมาเป็นสมาชิก ชวนงดเหล้า ละอบายมุข นำเงินมาสะสม ให้สมาชิกกู้ยืมไปประกอบอาชีพ นำดอกผลมาจัดสวัสดิการดูแลตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต มีระเบียบร่วมกัน อาทิ หากใครป่วย หรือประสบอุบัติเหตุจากการดื่มเหล้า จะไม่จ่ายสวัสดิการให้ รณรงค์ให้ร้านค้าบ้านโนนมะเขือ 4 ร้าน เลิกจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงทำให้งานบุญทุกชนิดปลอดเหล้า ทำให้เป็นวัดปลอดเหล้า ซึ่งวัดปลอดเหล้านี้ได้ขยายการดำเนินงานใน 36 จังหวัด 732 กลุ่มสมาชิก และตัวอย่างชาวบ้าน ได้ปฏิญาณตนงดเหล้าเริ่มต้นเข้าพรรษาทุกคนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หมายเหตุ : 20 จังหวัดนำร่องที่ร่วมโครงการ ได้แก่ 1.น่าน 2. ลำปาง 3.ระยอง 4.เชียงใหม่ 5.ขอนแก่น 6.อุดรราชธานี 7.มุกดาหาร 8.กาฬสินธุ์ 9.อุบลราชธานี 10.สุรินทร์ 11.นครราชสีมา 12.สกลนคร 13.ปราจีนบุรี 14.นครปฐม 15.ราชบุรี 16.สมุทรปราการ 17.นครศรีธรรมราช 19.หนองคาย 20.ชัยภูมิ