xs
xsm
sm
md
lg

แถลงการณ์ฉบับที่ 4 คณะแพทย์เผย “ในหลวง” พระอาการดีขึ้นมาก มีเพียงพระอาการเจ็บแผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อเวลา 18.15 น. มีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 4 เรื่องการถวายการรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีใจความว่า...

วันนี้คณะแพทย์ได้ถวายการตรวจพระวรกายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อติดตามผลของการผ่าตัดรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2549 ปรากฏว่ามีเพียงพระอาการเจ็บแผล ส่วนพระอาการอื่นๆ เช่น ระบบการหายใจ ความเข้นของออกซิเจนในพระโลหิต หลังจากถวายออกซิเจน ความดันพระโลหิต การทำงานของพระหทัย รวมทั้งการทำงานของพระอันตะ (ลำไส้) เป็นปกติ จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตหยุดการใช้เครื่องมือบันทึกการตรวจสัญญาณชีพผ่านทางจอภาพ

คณะแพทย์ขอพระราชทานให้ทรงพระบรรทมหงายเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ เป็นทรงพระบรรทมตะแคงเป็นครั้งคราว มีการถวายการรักษาทางกายภาพบำบัด ช่วยระบบหายใจ และการถวายน้ำเกลือร่วมกับพระโอสถ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง 21 กรกฎาคม 2549

เมื่อเวลาประมาณ 17.15 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพระดำเนินจากอาคารเฉลิมพระเกียรติสู่โถงใต้อาคาร โดยทรงมีปฏิสันถารกับประชาชนที่มาเข้าเฝ้าฯ อย่างใก้ลชิดเป็นเวลากว่า 15 นาที โดยพระองค์ทรงทักทายประชาชนที่นั่งอยู่ทุกๆ มุมของโถงอาคาร สร้างความปลื้มปีติให้แก่ประชาชนในบริเวณอย่างมาก อีกทั้งได้ส่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ไม่ขาดสาย โดยทูลกระหม่อมหญิงฯ โบกพระหัตถ์แก่ประชาชนทุกคน ทรงมีพระราชดำรัสถึงพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ทรงมีพระอาการดีขึ้น ทรงเสวยพระกระยาหารแบบอ่อนได้ และทรงมีพระราชดำรัสได้ ทั้งยังทรงพระราชดำรัสว่าทรงปลื้มพระทัยที่ประชาชนมาร่วมถวายพระพรเป็นจำนวนมาก

จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทุกพระองค์ทรงฉลองพระองค์สีเหลือง เสด็จพระราชดำเนินยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยทูลกระหม่อมหญิงพระราชทานจุมพิตที่พระปรางของสมเด็จพระบรมฯ ก่อนจะเสด็จพระดำเนินกลับจากโรงพยาบาลศิริราช

***************

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวังได้มีแถลงการณ์ เรื่องการถวายรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแล้ว 3 ฉบับ โดย ฉบับที่ 3 มีใจความว่า....

หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับอยู่ในห้องพักฟื้นเพื่อคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสังเกตพระอาการอย่างใกล้ชิดแล้ว ปรากฏว่าพระอาการดีขึ้นตามลำดับ คณะแพทย์จึงขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 22 นาฬิกา 24 นาที จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง 20 กรกฎาคม 2549

สำหรับแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่องการถวายรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับที่ 2 ความว่า....

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินถึงอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เวลา 14 นาฬิกา 12 นาที และเสด็จพระราชดำเนินไปยังตึกสยามินทร์ พระราชทานให้คณะแพทย์ถวายการผ่าตัด รักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) เวลา 16 นาฬิกา 05 นาที เสร็จเมื่อเวลา 20 นาฬิกา 53 นาที คณะแพทย์ผู้ถวายการผ่าตัดขยายช่องทางเดินเส้นประสาทระดับบันพระองค์รายงานว่า การผ่าตัดมีผลดีเป็นที่พอใจ และขอพระราชทานให้ประทับอยู่ในห้องพักฟื้นเพื่อสังเกตพระอาการอย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนจึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง 20 กรกฎาคม 2549

ส่วนแถลงการณ์สำนักพระราชวังเรื่องการถวายการรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับที่ 1 ความว่า ใน พ.ศ.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการทรงก้าวพระบาทขวาไม่ถนัด ขณะทรงพระดำเนินเป็นครั้งคราว คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ ได้ถวายการตรวจพระวรกาย และตรวจด้วยเอกซเรย์ พบว่า พระปิฐิกัณฐกัฐิ หรือกระดูกสันหลัง ระดับบั้นพระองค์ (Lumbar Spine) มีการเปลี่ยนแปลงตามพระชนมายุ การตรวจเส้นประสาทและกล้ามเนื้อด้วยกระแสไฟฟ้า พบว่า มีการกดทับเล็กน้อยของเส้นประสาทที่แยกออกจากไขสันหลังระดับบั้นพระองค์ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวในขณะที่ทรงพระดำเนิน คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถ พระอาการดีขึ้น

ต่อมา ใน พ.ศ.2546 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร มีพระอาการก้าวพระบาทข้างขวาไม่ถนัด คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ถวายตรวจพระวรกาย และถวายตรวจทางรังสีวิทยาคลื่นสนามแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging:MRI) และด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้รังสีเอ็กซ์ (Computerize Tomography-CT) พบว่า ช่องทางเดินของเส้นประสาทไขสันหลังระหว่างปล้องของพระปิฐิกัณฐกัฐิ ตรงตำแหน่งดังกล่าวแคบลง (Lumbar spinal stenosis)

ใน พ.ศ.2548 คณะแพทย์ได้ปรึกษากันและได้ถวายการตรวจอีกครั้งหนึ่ง มีความเห็นว่า ควรถวายการรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัดก่อน หากไม่ได้ผลควรต้องพิจารณาวิธีรักษาด้วยการผ่าตัดขยายช่องทางเดินประสาท

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2549 คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลศิริราช และจากสถาบันการแพทย์อื่นได้ร่วมประชุมปรึกษากัน และเห็นพ้องต้องกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ในการนี้ต้องถวายพระโอสถก่อนการผ่าตัดสักระยะเวลาหนึ่ง และหลังจากการผ่าตัดจำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อการบริหารพระกล้ามเนื้อเพื่อเสริมสมรรถภาพ จึงเห็นสมควรถวายการผ่าตัด หลังจากงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี คณะแพทย์จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ถวายการผ่าตัดขยายช่องทางเดินประสาทของพระปิฐิกัณฐกัฐิ (Lumbar Spine) ระดับบั้นพระองค์ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ (Microsurgical decompression) ณ โรงพยาบาลศิริราช ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2549 จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2549




***
ศิริราช-ศาลาสหทัยสมาคมแน่น พสกนิกรร่วมลงนามถวายพระพร

***ประมวลภาพถวายพระพรแด่ในหลวง

***แพทย์เผยผลการรักษา “ในหลวง” เป็นที่น่าพอใจ และไม่มีภาวะแทรกซ้อน

***คณะแพทย์เผยพระอาการ “ในหลวง” ดีขึ้นตามลำดับ

***“ในหลวง” ทรงเข้ารับถวายการผ่าตัด คาดทราบผล 20.00 น.

***พระเจ้าอยู่หัว” เสด็จฯถึงโรงพยาบาลศิริราช ทรงฉายภาพประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ

***กทม.ตั้งโต๊ะชวนประชาชนลงนามถวายพระพร 21 ก.ค.นี้

***“ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” รอรับเสด็จในหลวง คณะแพทย์ศิริราชพร้อมถวายการรักษาเต็มที่

***พสกนิกรพร้อมใจใส่เสื้อเหลือง รอรับเสด็จในหลวงที่ศิริราช

*** “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” เสด็จฯทรงตรวจสถานที่ถวายการรักษาในหลวง

***แพทย์ใช้เครื่องมือพิเศษถวายการรักษาในหลวง ม.จ.ภีศเดช ยันปลอดภัย

***สำนักพระราชวังเปิดศาลาสหทัยสมาคมให้ประชาชนถวายพระพรในหลวง

***คณะแพทย์ศิริราชถวายการผ่าตัด “กระดูกสันหลัง” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 20 ก.ค.นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น