สำนักพระราชวัง นำภาพพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี กว่า 500 ภาพ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.brh.thaigov.net และwww.palaces.thai.net ให้เข้าชมและโหลดได้ฟรี ส่วนที่หน้าลานคนเมือง กทม.ยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมารับพระบรมฉายาลักษณ์อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่คึกคักเท่าเมื่อวาน
นับเป็นข่าวดีสำหรับประชาชาชาวไทยอีกครั้ง เมื่อทางสำนักพระราชวังได้นำภาพในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน-13 มิถุนายน 2549 ซึ่งเป็นภาพที่มีความละเอียดสูง สามารถนำไปอัดเป็นภาพขนาด 3x5 นิ้ว ถึง 8.5x13 นิ้ว จำนวนกว่า 500 ภาพ ออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักพระราชวัง
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถชมภาพดังกล่าวและดาวน์โหลดได้ที่ www.brh.thaigov.net และ www.palaces.thai.net
สำหรับภาพชุดที่นำออกเผยแพร่ในครั้งนี้ ได้แก่ การบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันที่ 8 มิถุนายน พระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช และเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม วันที่ 9 มิถุนายน พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันที่ 10 มิถุนายน พิธีถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมทั้งการทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา และพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ณ หอประชุมกองทัพเรือ วันที่ 12 มิถุนายน และงานถวายพระกระยาหารค่ำแด่พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร
ส่วนบรรยากาศในวันที่ 2 ที่กรุงเทพมหานครจัดจุดลงนามถวายพระพร และแจกพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังคงมีประชาชนหลั่งไหลมาร่วมงาน แต่ไม่คึกคักเท่าเมื่อวานนี้(3 ก.ค.) และแม้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดกับการแจก แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเวียนรับของที่ระลึกซ้ำได้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังตรวจความเรียบร้อยของการจัดกิจกรรมวันที่ 2 ที่กรุงเทพมหานคร จัดจุดลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมแจกพระบรมฉายาลักษณ์ที่ประกอบด้วย กระแสพระราชดำรัสเรื่องคุณธรรม 4 ประการ ที่พระองค์ทรงพระราชทานแก่พสกนิการทั่วประเทศ ในรูปแบบตั้งโต๊ะ ที่เตรียมแจกในวันนี้จำนวนทั้งสิ้น 100,000 ใบ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาพรวมของการจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดกิจกรรม จะทำการประเมินกระแสตอบรับ และจำนวนที่แจกไปทั้งหมด ก่อนจะตัดสินใจว่าจะมีการพิมพ์เพิ่มและจัดแจกในวันเสาร์-อาทิตย์อย่างที่มีประชาชนเรียกร้องมาหรือไม่
สำหรับพระบรมฉายาลักษณ์ฯ แบบตั้งโต๊ะ ขนาด 8 x 5.5 นิ้ว ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระราชดำรัสในพิธีถวายพระพรชัยมงคล เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2549 ส่วนด้านหลังจัดพิมพ์คุณธรรม 4 ประการ ซึ่งเป็นพระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2549 โดยจะเริ่มแจกตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. ซึ่งผู้ที่ได้รับภาพจะได้ร่วมลงนามถวายพระพรด้วย
ทั้งนี้ บรรยากาศหลังเปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร มีประชาชนจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ข้าราชการของกรุงเทพมหานคร และประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว แต่บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดโดยตั้งใจมารับพระบรมฉายาลักษณ์โดยเฉพาะ โดยการแจกพระบรมฉายาลักษณ์วันนี้แม้จะมีประชาชนไม่คึกคักเท่าเมื่อวาน แต่บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างคึกคัก และแม้เจ้าหน้าที่จะนำตราประทับนิ้วมือคนที่รับของที่ระลึกไปแล้ว เพื่อกันการเวียนเทียนซ้ำ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังมีวิธีเวียนเทียนรับซ้ำได้
ประชาชนส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาพที่แจกสวยงาม มีคุณค่าทางจิตใจ แต่น่าจะให้คนละ 2-3 ชุด จะได้นำไปฝากลูกหลานเก็บเอาไว้บูชา แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันมอบให้เพียงชุดเดียว และเข้มงวดนำตรายางมาประทับบนมือข้างขวา ป้องกันไม่ให้มาเข้าแถวขอภาพซ้ำ
หลายคนบอกว่าต้องการสะสมภาพให้ครบทั้ง 3 แบบ คือ แบบพกพา แบบตั้งโต๊ะ และแบบโปสเตอร์เพื่อนำไปใส่กรอบ เนื่องจากไม่มีจำหน่าย และต่างขอบคุณ กทม. ที่จัดพิมพ์ พร้อมอัญเชิญพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนร่วมถือเป็นคติธรรม
นางสุกานดา นิติศิริ อายุ 65 ปี เดินทางมาจากสุพรรณบุรี ตั้งแต่วานนี้ (3 ก.ค.) เพื่อตั้งใจมารับพระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง 3 แบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อนุเคราะห์ภาพมากกว่า 1 ใบ โดยกล่าวว่ารู้สึกภาคภูมิใจ นำไปบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต เช่นเดียวกับนางสมควร แก้วสุข อายุ 54 ปี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่จะนำภาพที่มีคุณค่าไปบูชา
นับเป็นข่าวดีสำหรับประชาชาชาวไทยอีกครั้ง เมื่อทางสำนักพระราชวังได้นำภาพในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน-13 มิถุนายน 2549 ซึ่งเป็นภาพที่มีความละเอียดสูง สามารถนำไปอัดเป็นภาพขนาด 3x5 นิ้ว ถึง 8.5x13 นิ้ว จำนวนกว่า 500 ภาพ ออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักพระราชวัง
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถชมภาพดังกล่าวและดาวน์โหลดได้ที่ www.brh.thaigov.net และ www.palaces.thai.net
สำหรับภาพชุดที่นำออกเผยแพร่ในครั้งนี้ ได้แก่ การบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันที่ 8 มิถุนายน พระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช และเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม วันที่ 9 มิถุนายน พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันที่ 10 มิถุนายน พิธีถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมทั้งการทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา และพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ณ หอประชุมกองทัพเรือ วันที่ 12 มิถุนายน และงานถวายพระกระยาหารค่ำแด่พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร
ส่วนบรรยากาศในวันที่ 2 ที่กรุงเทพมหานครจัดจุดลงนามถวายพระพร และแจกพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังคงมีประชาชนหลั่งไหลมาร่วมงาน แต่ไม่คึกคักเท่าเมื่อวานนี้(3 ก.ค.) และแม้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดกับการแจก แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเวียนรับของที่ระลึกซ้ำได้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังตรวจความเรียบร้อยของการจัดกิจกรรมวันที่ 2 ที่กรุงเทพมหานคร จัดจุดลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมแจกพระบรมฉายาลักษณ์ที่ประกอบด้วย กระแสพระราชดำรัสเรื่องคุณธรรม 4 ประการ ที่พระองค์ทรงพระราชทานแก่พสกนิการทั่วประเทศ ในรูปแบบตั้งโต๊ะ ที่เตรียมแจกในวันนี้จำนวนทั้งสิ้น 100,000 ใบ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาพรวมของการจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดกิจกรรม จะทำการประเมินกระแสตอบรับ และจำนวนที่แจกไปทั้งหมด ก่อนจะตัดสินใจว่าจะมีการพิมพ์เพิ่มและจัดแจกในวันเสาร์-อาทิตย์อย่างที่มีประชาชนเรียกร้องมาหรือไม่
สำหรับพระบรมฉายาลักษณ์ฯ แบบตั้งโต๊ะ ขนาด 8 x 5.5 นิ้ว ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระราชดำรัสในพิธีถวายพระพรชัยมงคล เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2549 ส่วนด้านหลังจัดพิมพ์คุณธรรม 4 ประการ ซึ่งเป็นพระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2549 โดยจะเริ่มแจกตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. ซึ่งผู้ที่ได้รับภาพจะได้ร่วมลงนามถวายพระพรด้วย
ทั้งนี้ บรรยากาศหลังเปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร มีประชาชนจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ข้าราชการของกรุงเทพมหานคร และประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว แต่บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดโดยตั้งใจมารับพระบรมฉายาลักษณ์โดยเฉพาะ โดยการแจกพระบรมฉายาลักษณ์วันนี้แม้จะมีประชาชนไม่คึกคักเท่าเมื่อวาน แต่บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างคึกคัก และแม้เจ้าหน้าที่จะนำตราประทับนิ้วมือคนที่รับของที่ระลึกไปแล้ว เพื่อกันการเวียนเทียนซ้ำ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังมีวิธีเวียนเทียนรับซ้ำได้
ประชาชนส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาพที่แจกสวยงาม มีคุณค่าทางจิตใจ แต่น่าจะให้คนละ 2-3 ชุด จะได้นำไปฝากลูกหลานเก็บเอาไว้บูชา แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันมอบให้เพียงชุดเดียว และเข้มงวดนำตรายางมาประทับบนมือข้างขวา ป้องกันไม่ให้มาเข้าแถวขอภาพซ้ำ
หลายคนบอกว่าต้องการสะสมภาพให้ครบทั้ง 3 แบบ คือ แบบพกพา แบบตั้งโต๊ะ และแบบโปสเตอร์เพื่อนำไปใส่กรอบ เนื่องจากไม่มีจำหน่าย และต่างขอบคุณ กทม. ที่จัดพิมพ์ พร้อมอัญเชิญพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนร่วมถือเป็นคติธรรม
นางสุกานดา นิติศิริ อายุ 65 ปี เดินทางมาจากสุพรรณบุรี ตั้งแต่วานนี้ (3 ก.ค.) เพื่อตั้งใจมารับพระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง 3 แบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อนุเคราะห์ภาพมากกว่า 1 ใบ โดยกล่าวว่ารู้สึกภาคภูมิใจ นำไปบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต เช่นเดียวกับนางสมควร แก้วสุข อายุ 54 ปี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่จะนำภาพที่มีคุณค่าไปบูชา