ผู้จัดการ กยศ.ส่งสัญญาณถึงเด็กกู้ยืมเงิน กยศ.หรือกำลังยื่นขอกู้ กยศ., กรอ., กองทุนเงินให้เปล่า, กองทุนหวย 2 ตัว 3 ตัว ที่เล่นพนันบอลจะยุติให้ทุนที่ได้อยู่ หรือถูกตัดสิทธิได้ทุนทันที เผย กำลังขอรายชื่อเด็กถูกจับพนันบอลจากตำรวจมาตรวจสอบ ขณะที่ยอดนิสิตมศว.ขอกู้กรอ.ลด โอดดอกเบี้ยแพงมาก
นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นประธานพิธีจับรางวัลโครงการรับชำระหนี้นาทีทองปี 2549 ซึ่งมอบรางวัลให้แก่ผู้กู้ยืมที่ปิดบัญชีเงินกู้ กยศ.ภายในวันที่ 15 มี.ค. - 15 พ.ค.โดยมีผู้กู้ยืมปิดบัญชีจำนวน 1,039 ราย เป็นเงิน 22.6 ล้านบาท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ชำระหนี้คืนให้รุ่นน้องได้กู้ยืมต่อไป โดยมีรางวัล 36 รางวัล รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล เป็นเงินสด 50,000 บาท รางวัลที่ 2 มี 3 รางวัล เป็นเงินสดรางวัลละ 30,000 บาท และรางวัลที่ 3 มี 32 รางวัล เป็นเงินสดรางวัลละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 300,000 บาท
ทั้งนี้ นายเปรมประชา กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้กู้ที่ครบกำหนดต้องชำระหนี้คืน กยศ.จำนวน 1.2 ล้านคน และผู้ที่จบการศึกษาปี 2547 จะต้องชำระคืนปีนี้มีจำนวนประมาณ 280,000 คน ตนเป็นห่วงมาก เพราะเป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลก เกรงว่า เด็กจะเอาเงินไปเล่นพนันบอล แทนที่จะชำระหนี้ หรือเด็กที่ได้รับทุนอยู่นำเงินไปพนันบอล ต้องการให้ครอบครัวดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับเด็กที่กู้เงินจาก กยศ.อยู่ถ้าพบไปเล่นพนันบอลจะยุติทุนทันที รวมทั้งเด็กที่กำลังยื่นขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) จะถูกตัดสิทธิเช่นกัน
“ถ้าหากเราจับได้ว่าเล่นพนันบอล เราจะมีมาตรการเด็ดขาด คือ เราจะยุติให้กู้ยืมในปีนี้ทันที และเงินเก่าๆ ที่ยังค้างอยู่ก็จะเรียกคืนทันทีด้วย และผู้ที่ตำรวจจับในขณะนี้ผมกำลังขอรายชื่อจากตำรวจอยู่ว่ามีผู้กู้เราอยู่ในรายชื่อนั้นหรือไม่ ถ้าจับได้เราต้องดำเนินมาตรการเด็ดขาด ส่วนผู้ที่กำลังจะกู้ กยศ.หรือ กรอ.เหมือนกันถ้าจับได้ก็ตัดสิทธิทันที และยังมีผู้ที่จะมาขอกองทุนเงินให้เปล่า กองทุนจากการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ถ้าจับได้ก็จะไม่ให้ทุน เพราะคือว่าผิดคุณสมบัติของการให้ทุน” ผู้จัดการ กยศ.กล่าว
สำหรับจำนวนนักเรียน นักศึกษา ที่กู้ยืมเงินจาก กยศ.มีทั้งสิ้นประมาณ 2.5 ล้านคน เป็นเงินจำนวน 216,825 ล้านบาท การชำระคืนของผู้กู้จะมีประมาณร้อยละ 70 และมีหนี้ที่ไม่มาชำระคืนประมาณร้อยละ 30 ซึ่งพบว่าผู้ที่ไม่มาชำระคืนเพราะยังไม่มีงานทำเป็นส่วนใหญ่
ส่วนผลการจับรางวัลปรากฏว่า รางวัลที่ 1 ได้แก่ น.ส.ปิ่นอนงค์ แสนคำพา ซึ่งปิดบัญชีด้วยเงิน 7,680 บาท ส่วนการปิดบัญชีนั้นมีผู้ที่ชำระหนี้คืนสูงสุดจำนวน 420,000 บาท
ขณะที่รศ.สุมาลี เหลืองสกุล รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)เปิดเผยว่าจำนวนนิสิตมศวที่ขอกู้ยืมเงินกองทุนที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)มีจำนวนทั้งสิ้น 652 คน โดยแยกเป็นคณะต่างๆ ดังนี้ วิศวกรรมศาสตร์ 153 คน สหเวชศาสตร์ 21 คน เภสัชศาสตร์ 7 คน แพทยศาสตร์ 7 คน ทันตแพทยศาสตร์ 5 คน พยาบาลศาสตร์ 45 คน พลศึกษา 46 คน มนุษยศาสตร์ 41 คน สังคมศาสตร์ 141 คน ศิลปกรรมศาสตร์ 54 คน วิทยาศาสตร์ 124 คน และวิทยาลัยนานาชาติและความยั่งยืน 8 คน แม้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดสรรจำนวนผู้มีสิทธิ์กู้ในส่วนของ มศว จำนวน 4,000 กว่าคน แต่ มศวก็ไม่ได้สนับสนุนให้เด็กกู้ทุกคน นโยบายมหาวิทยาลัยก็คือ ให้คนที่มีความจำเป็นจริงๆ มากู้ นอกจากนี้ก็ได้ให้เด็กเป็นคนตัดสินใจ เนื่องจากการกู้ยืมเงินกรอ.นั้นไม่ได้ให้ฟรี เมื่อกู้แล้วมีภาระผูกพันที่ต้องใช้คืนในอนาคตด้วย
นาวสาวนิภาวรรณ ไวทยวิสุทธิพงศ์ นิสิตชั้นปีที่ 1 วิชาเอกวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการคณะวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่ตนไม่ได้เข้าร่วมการ ปฐมนิเทศเกี่ยวกับการกู้กรอ. ซึ่งกองกิจการนิสิตเป็นคนจัด แต่มายื่นคำร้องขอกู้โดยที่ไม่ผ่านการฟังรายละเอียดต่างๆ ถ้าได้ฟังคงไม่คิดกู้ เนื่องจากดอกเบี้ยแพงมาก นอกจากนี้ดอกเบี้ยต่างๆ เริ่มนับตั้งแต่วันที่เราทำเรื่องกู้ โดยส่วนตัวอยากให้ดอกเบี้ยที่ระบุว่าคิดตามอัตราเงินเฟ้อนั้น ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถือว่าแพง ลดลงอาจจะระบุเหมือนกยศ.คือดอกเบี้ยร้อยละ 1 และอยากให้เริ่มคิดดอกเบี้ยหลังจากที่เด็กจบการศึกษา ไม่ควรเริ่มนับตั้งแต่วันนี้ คิดว่าจะกู้เพียงเทอมเดียว หลังจากนี้คงไม่กู้อีกแล้ว เพราะไม่อยากสร้างหนี้สินมากเกินไป
นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นประธานพิธีจับรางวัลโครงการรับชำระหนี้นาทีทองปี 2549 ซึ่งมอบรางวัลให้แก่ผู้กู้ยืมที่ปิดบัญชีเงินกู้ กยศ.ภายในวันที่ 15 มี.ค. - 15 พ.ค.โดยมีผู้กู้ยืมปิดบัญชีจำนวน 1,039 ราย เป็นเงิน 22.6 ล้านบาท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ชำระหนี้คืนให้รุ่นน้องได้กู้ยืมต่อไป โดยมีรางวัล 36 รางวัล รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล เป็นเงินสด 50,000 บาท รางวัลที่ 2 มี 3 รางวัล เป็นเงินสดรางวัลละ 30,000 บาท และรางวัลที่ 3 มี 32 รางวัล เป็นเงินสดรางวัลละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 300,000 บาท
ทั้งนี้ นายเปรมประชา กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้กู้ที่ครบกำหนดต้องชำระหนี้คืน กยศ.จำนวน 1.2 ล้านคน และผู้ที่จบการศึกษาปี 2547 จะต้องชำระคืนปีนี้มีจำนวนประมาณ 280,000 คน ตนเป็นห่วงมาก เพราะเป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลก เกรงว่า เด็กจะเอาเงินไปเล่นพนันบอล แทนที่จะชำระหนี้ หรือเด็กที่ได้รับทุนอยู่นำเงินไปพนันบอล ต้องการให้ครอบครัวดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับเด็กที่กู้เงินจาก กยศ.อยู่ถ้าพบไปเล่นพนันบอลจะยุติทุนทันที รวมทั้งเด็กที่กำลังยื่นขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) จะถูกตัดสิทธิเช่นกัน
“ถ้าหากเราจับได้ว่าเล่นพนันบอล เราจะมีมาตรการเด็ดขาด คือ เราจะยุติให้กู้ยืมในปีนี้ทันที และเงินเก่าๆ ที่ยังค้างอยู่ก็จะเรียกคืนทันทีด้วย และผู้ที่ตำรวจจับในขณะนี้ผมกำลังขอรายชื่อจากตำรวจอยู่ว่ามีผู้กู้เราอยู่ในรายชื่อนั้นหรือไม่ ถ้าจับได้เราต้องดำเนินมาตรการเด็ดขาด ส่วนผู้ที่กำลังจะกู้ กยศ.หรือ กรอ.เหมือนกันถ้าจับได้ก็ตัดสิทธิทันที และยังมีผู้ที่จะมาขอกองทุนเงินให้เปล่า กองทุนจากการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ถ้าจับได้ก็จะไม่ให้ทุน เพราะคือว่าผิดคุณสมบัติของการให้ทุน” ผู้จัดการ กยศ.กล่าว
สำหรับจำนวนนักเรียน นักศึกษา ที่กู้ยืมเงินจาก กยศ.มีทั้งสิ้นประมาณ 2.5 ล้านคน เป็นเงินจำนวน 216,825 ล้านบาท การชำระคืนของผู้กู้จะมีประมาณร้อยละ 70 และมีหนี้ที่ไม่มาชำระคืนประมาณร้อยละ 30 ซึ่งพบว่าผู้ที่ไม่มาชำระคืนเพราะยังไม่มีงานทำเป็นส่วนใหญ่
ส่วนผลการจับรางวัลปรากฏว่า รางวัลที่ 1 ได้แก่ น.ส.ปิ่นอนงค์ แสนคำพา ซึ่งปิดบัญชีด้วยเงิน 7,680 บาท ส่วนการปิดบัญชีนั้นมีผู้ที่ชำระหนี้คืนสูงสุดจำนวน 420,000 บาท
ขณะที่รศ.สุมาลี เหลืองสกุล รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)เปิดเผยว่าจำนวนนิสิตมศวที่ขอกู้ยืมเงินกองทุนที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)มีจำนวนทั้งสิ้น 652 คน โดยแยกเป็นคณะต่างๆ ดังนี้ วิศวกรรมศาสตร์ 153 คน สหเวชศาสตร์ 21 คน เภสัชศาสตร์ 7 คน แพทยศาสตร์ 7 คน ทันตแพทยศาสตร์ 5 คน พยาบาลศาสตร์ 45 คน พลศึกษา 46 คน มนุษยศาสตร์ 41 คน สังคมศาสตร์ 141 คน ศิลปกรรมศาสตร์ 54 คน วิทยาศาสตร์ 124 คน และวิทยาลัยนานาชาติและความยั่งยืน 8 คน แม้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดสรรจำนวนผู้มีสิทธิ์กู้ในส่วนของ มศว จำนวน 4,000 กว่าคน แต่ มศวก็ไม่ได้สนับสนุนให้เด็กกู้ทุกคน นโยบายมหาวิทยาลัยก็คือ ให้คนที่มีความจำเป็นจริงๆ มากู้ นอกจากนี้ก็ได้ให้เด็กเป็นคนตัดสินใจ เนื่องจากการกู้ยืมเงินกรอ.นั้นไม่ได้ให้ฟรี เมื่อกู้แล้วมีภาระผูกพันที่ต้องใช้คืนในอนาคตด้วย
นาวสาวนิภาวรรณ ไวทยวิสุทธิพงศ์ นิสิตชั้นปีที่ 1 วิชาเอกวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการคณะวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่ตนไม่ได้เข้าร่วมการ ปฐมนิเทศเกี่ยวกับการกู้กรอ. ซึ่งกองกิจการนิสิตเป็นคนจัด แต่มายื่นคำร้องขอกู้โดยที่ไม่ผ่านการฟังรายละเอียดต่างๆ ถ้าได้ฟังคงไม่คิดกู้ เนื่องจากดอกเบี้ยแพงมาก นอกจากนี้ดอกเบี้ยต่างๆ เริ่มนับตั้งแต่วันที่เราทำเรื่องกู้ โดยส่วนตัวอยากให้ดอกเบี้ยที่ระบุว่าคิดตามอัตราเงินเฟ้อนั้น ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถือว่าแพง ลดลงอาจจะระบุเหมือนกยศ.คือดอกเบี้ยร้อยละ 1 และอยากให้เริ่มคิดดอกเบี้ยหลังจากที่เด็กจบการศึกษา ไม่ควรเริ่มนับตั้งแต่วันนี้ คิดว่าจะกู้เพียงเทอมเดียว หลังจากนี้คงไม่กู้อีกแล้ว เพราะไม่อยากสร้างหนี้สินมากเกินไป