กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาประกาศศึกขั้นเด็ดขาด ให้ผู้กู้ที่เรียนจบปีการศึกษา 2546 รีบมาติดต่อชำระหนี้ก่อนวันที่ 5 ก.ค. เผยรอบนี้มีผู้อยู่ในข่ายทั้งสิ้น 286,330 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 434.84 ล้านบาท ระบุติดต่อช้าเจอดอกร้อยละ 18 ต่อปี พร้อมระบุตั้งแต่เปิดทำการมีคนเบี้ยวหนี้ไปแล้ว 4 แสนราย ลั่นงานนี้ส่งฟ้องลูกเดียว
ดร.เปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากใกล้ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระเงินคืน กองทุนฯ จึงขอแจ้งเตือนให้ผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้ ซึ่งเป็นผู้ที่เรียนจบปีการศึกษา 2546 ให้รีบมาติดต่อชำระหนี้ก่อนถึงวันดังกล่าว โดยในปี 2549 นี้ กองทุนฯ มีผู้ที่ครบกำหนดชำระเงินคืนงวดแรก 286,330 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 434.84 ล้านบาท
ส่วนจำนวนผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระเงินคืนกองทุนฯ ต่อเนื่องตั้งแต่รุ่นแรงหรือปี 2542 มีทั้งสิ้น 1,214,183 ราย ทั้งนี้ มีผู้มาติดต่อผ่อนชำระเงินคืนแล้วจำนวน 814,089 ราย โดยมีผู้มาชำระก่อนกำหนดแล้วจำนวน 10,909 ราย ทำให้มีผู้ค้างชำระอีกประมาณ 400,000 ราย
“อยากขอความร่วมมือผู้ปกครองหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับจดหมายแจ้งยอดหนี้ กรุณาบอกต่อให้ผู้ค้างชำระได้รับทราบด้วย เพราะหากติดต่อล่าช้าจะต้องเสียเบี้ยปรับถึงร้อยละ 18 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 1 ต่อปี”
ดร.เปรมประชากล่าวต่อว่า ในช่วงนี้มีมหกรรมฟุตบอลโลก จึงขอฝากเตือนผู้กู้ยืมที่กำลังศึกษาอยู่รวมทั้งผู้กู้ยืมที่เรียนจบแล้วว่า อย่านำเงินไปใช้ในทางที่ผิดเพราะเป็นเงินที่ได้มาจากภาษีอากรของประชาชน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มีจุดประสงค์เพื่อนำมาสร้างโอกาสทางการศึกษา และยังมีรุ่นน้องที่ยังรอโอกาสทางการศึกษาอีกจำนวนมาก จึงขอให้ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้กู้ยืมทุกคนที่จะต้องใช้เงินให้เกิดประโยชน์กับการศึกษาเล่าเรียนให้มากที่สุด และถ้ามีงานทำ มีรายได้แล้ว ต้องรีบติดต่อชำระเงินคืนตามสัญญาเพื่อรุ่นน้องจะได้กู้ไปเรียนบ้าง
ทั้งนี้ ในกรณีผู้กู้ที่เรียนจบแล้วยังไม่มีการติดต่อชำระเงินคืนกองทุนฯ เกินกว่า 5 ปี สัญญากู้ยืมจะถูกยกเลิกและผู้กู้จะถูกฟ้องร้อง โดยขณะนี้กองทุนฯ ได้มีการฟ้องร้องผู้กู้ที่ไม่มาติดต่อคืนเงินตามสัญญาจำนวนหลายหมื่นราย ดังนั้น ถ้าผู้กู้ค้างชำระหนี้ที่ยังไม่มีรายได้ก็อย่าเพิกเฉย ควรไปติดต่อขอผ่อนผันการพักชำระหนี้ออกไปก่อน
อนึ่ง ผู้กู้สามารถติดต่อชำระเงินคืนกองทุนฯ หรือขอผ่อนผันได้ที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ สายด่วน กยศ.1597 หรือ 0-2643-1461-7 หรือ www.studentloan.or.th
ดร.เปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากใกล้ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระเงินคืน กองทุนฯ จึงขอแจ้งเตือนให้ผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้ ซึ่งเป็นผู้ที่เรียนจบปีการศึกษา 2546 ให้รีบมาติดต่อชำระหนี้ก่อนถึงวันดังกล่าว โดยในปี 2549 นี้ กองทุนฯ มีผู้ที่ครบกำหนดชำระเงินคืนงวดแรก 286,330 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 434.84 ล้านบาท
ส่วนจำนวนผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระเงินคืนกองทุนฯ ต่อเนื่องตั้งแต่รุ่นแรงหรือปี 2542 มีทั้งสิ้น 1,214,183 ราย ทั้งนี้ มีผู้มาติดต่อผ่อนชำระเงินคืนแล้วจำนวน 814,089 ราย โดยมีผู้มาชำระก่อนกำหนดแล้วจำนวน 10,909 ราย ทำให้มีผู้ค้างชำระอีกประมาณ 400,000 ราย
“อยากขอความร่วมมือผู้ปกครองหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับจดหมายแจ้งยอดหนี้ กรุณาบอกต่อให้ผู้ค้างชำระได้รับทราบด้วย เพราะหากติดต่อล่าช้าจะต้องเสียเบี้ยปรับถึงร้อยละ 18 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 1 ต่อปี”
ดร.เปรมประชากล่าวต่อว่า ในช่วงนี้มีมหกรรมฟุตบอลโลก จึงขอฝากเตือนผู้กู้ยืมที่กำลังศึกษาอยู่รวมทั้งผู้กู้ยืมที่เรียนจบแล้วว่า อย่านำเงินไปใช้ในทางที่ผิดเพราะเป็นเงินที่ได้มาจากภาษีอากรของประชาชน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มีจุดประสงค์เพื่อนำมาสร้างโอกาสทางการศึกษา และยังมีรุ่นน้องที่ยังรอโอกาสทางการศึกษาอีกจำนวนมาก จึงขอให้ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้กู้ยืมทุกคนที่จะต้องใช้เงินให้เกิดประโยชน์กับการศึกษาเล่าเรียนให้มากที่สุด และถ้ามีงานทำ มีรายได้แล้ว ต้องรีบติดต่อชำระเงินคืนตามสัญญาเพื่อรุ่นน้องจะได้กู้ไปเรียนบ้าง
ทั้งนี้ ในกรณีผู้กู้ที่เรียนจบแล้วยังไม่มีการติดต่อชำระเงินคืนกองทุนฯ เกินกว่า 5 ปี สัญญากู้ยืมจะถูกยกเลิกและผู้กู้จะถูกฟ้องร้อง โดยขณะนี้กองทุนฯ ได้มีการฟ้องร้องผู้กู้ที่ไม่มาติดต่อคืนเงินตามสัญญาจำนวนหลายหมื่นราย ดังนั้น ถ้าผู้กู้ค้างชำระหนี้ที่ยังไม่มีรายได้ก็อย่าเพิกเฉย ควรไปติดต่อขอผ่อนผันการพักชำระหนี้ออกไปก่อน
อนึ่ง ผู้กู้สามารถติดต่อชำระเงินคืนกองทุนฯ หรือขอผ่อนผันได้ที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ สายด่วน กยศ.1597 หรือ 0-2643-1461-7 หรือ www.studentloan.or.th