จุฬาฯ แนะไม่ควรเพิ่มสัดส่วนการใช้ ผลการเรียนเฉลี่ยเดิมจนกว่าโรงเรียนทุกแห่งจะมีมาตรฐานทางการเรียนเท่ากัน ซึ่งจะเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุม ทปอ. 17 มิ.ย.นี้
คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตนได้ขอให้คณบดีคณะต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ไปตกลงหารือกันภายในวันที่ 14 มิ.ย. เกี่ยวกับเรื่องการประเมินการใช้ระบบแอดมิชชั่นในการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่การเรียนการสอนระดับอุดมศึกษาว่ามีความเหมาะสมอย่างไร ควรปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในส่วนใดบ้าง
ทั้งนี้ จะได้นำไปเป็นข้อมูลในการร่วมประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในวันที่ 17 มิ.ย. ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
สำหรับจุฬาฯ มีเห็นว่าควรที่จะมีการทบทวนระบบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) และระบบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (A-NET) เนื่องจากการใช้ระบบดังกล่าวที่ผ่านมา มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย จึงอยากให้มีการทบทวนในเรื่องสัดส่วนของคะแนนที่ใช้ในระบบแอดมิชชั่น
คุณหญิงสุชาดา กล่าวต่อว่า ยังไม่เห็นด้วยกับการที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้ ผลการเรียนเฉลี่ยรายวิชา(GPA) และผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย (GPAX) เป็น 40% ในปีการศึกษา 2550 จนกว่าโรงเรียนทุกแห่งจะมีมาตรฐานทางการเรียนเท่าเทียมแล้วจึงค่อยขยับไปใช้คะแนน GPA และ GPAX ในระดับสูงได้ ในส่วนแอดมิชชั่นในปีการศึกษา 2550 เห็นควรใช้คะแนนทั้งสองในสัดส่วนเท่าเดิมเหมือนปีการศึกษา 2549 คือ 30% ไปก่อน
“จุฬาฯ เป็นห่วงในเรื่องระบบแอดมิชชั่น เพราะจุฬาฯ รับนักศึกษาผ่านระบบดังกล่าวสูงถึง 70% และรับตรงโดยมหาวิทยาลัยเพียง 30% อย่างไรก็ตาม ทางจุฬาฯ ก็ไม่อยากจะแก้ปัญหาโดยใช้วิธีรับตรงมากขึ้น หากกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำแบบลงโทษเด็ก ทางจุฬาฯ รู้สึกเห็นใจนักเรียนและผู้ปกครองมากที่จะต้องวิ่งไปสมัครสอบตรงในหลาย ๆ สถาบัน การวิ่งลอกสอบจะทำให้เสียทั้งเงินและเวลา และที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยมีปัญหาเกี่ยวกับการเปิดรับตรง เด็กบางคนเด็กหลายที่แล้วเกิดการสละสิทธิ์ในภายหลัง ทำให้มีที่นั่งว่างแล้วต้องมาเปิดรับกันใหม่”
คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตนได้ขอให้คณบดีคณะต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ไปตกลงหารือกันภายในวันที่ 14 มิ.ย. เกี่ยวกับเรื่องการประเมินการใช้ระบบแอดมิชชั่นในการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่การเรียนการสอนระดับอุดมศึกษาว่ามีความเหมาะสมอย่างไร ควรปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในส่วนใดบ้าง
ทั้งนี้ จะได้นำไปเป็นข้อมูลในการร่วมประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในวันที่ 17 มิ.ย. ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
สำหรับจุฬาฯ มีเห็นว่าควรที่จะมีการทบทวนระบบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) และระบบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (A-NET) เนื่องจากการใช้ระบบดังกล่าวที่ผ่านมา มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย จึงอยากให้มีการทบทวนในเรื่องสัดส่วนของคะแนนที่ใช้ในระบบแอดมิชชั่น
คุณหญิงสุชาดา กล่าวต่อว่า ยังไม่เห็นด้วยกับการที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้ ผลการเรียนเฉลี่ยรายวิชา(GPA) และผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย (GPAX) เป็น 40% ในปีการศึกษา 2550 จนกว่าโรงเรียนทุกแห่งจะมีมาตรฐานทางการเรียนเท่าเทียมแล้วจึงค่อยขยับไปใช้คะแนน GPA และ GPAX ในระดับสูงได้ ในส่วนแอดมิชชั่นในปีการศึกษา 2550 เห็นควรใช้คะแนนทั้งสองในสัดส่วนเท่าเดิมเหมือนปีการศึกษา 2549 คือ 30% ไปก่อน
“จุฬาฯ เป็นห่วงในเรื่องระบบแอดมิชชั่น เพราะจุฬาฯ รับนักศึกษาผ่านระบบดังกล่าวสูงถึง 70% และรับตรงโดยมหาวิทยาลัยเพียง 30% อย่างไรก็ตาม ทางจุฬาฯ ก็ไม่อยากจะแก้ปัญหาโดยใช้วิธีรับตรงมากขึ้น หากกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำแบบลงโทษเด็ก ทางจุฬาฯ รู้สึกเห็นใจนักเรียนและผู้ปกครองมากที่จะต้องวิ่งไปสมัครสอบตรงในหลาย ๆ สถาบัน การวิ่งลอกสอบจะทำให้เสียทั้งเงินและเวลา และที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยมีปัญหาเกี่ยวกับการเปิดรับตรง เด็กบางคนเด็กหลายที่แล้วเกิดการสละสิทธิ์ในภายหลัง ทำให้มีที่นั่งว่างแล้วต้องมาเปิดรับกันใหม่”