xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์ชี้เนื้องอกที่ตับ “เจ๊หน่อย” ไม่อันตราย น่าจะเป็นแค่ซีสต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพทย์เผยเนื้องอกที่ตับมีหลายชนิด ทั้งที่ทำให้เป็นมะเร็งตับซึ่งมีการเสียชีวิตสูง ส่วนที่ “คุณหญิงหน่อย” เป็นไม่มีอันตรายถึงขั้นมะเร็ง น่าจะเป็นแค่ซีสต์ธรรมดา ไม่มีอาการ ทำตัวตามปกติ และไม่จำเป็นต้องตัดออก เปรียบเหมือนปานแดงที่ตับ

นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เนื้องอกในตับมีหลายชนิด ที่เป็นมะเร็งมี 2 ชนิด คือ 1.มะเร็งเซลล์ตับ (Livercell carcinoma) 2.มะเร็งท่อน้ำดี (Cholangio carcinoma) ซึ่งทั้ง 2 ชนิด เป็นมะเร็งที่มีอันตรายสูง กระจายไปได้เร็ว ส่วนที่เป็นเนื้องอกที่ไม่ใช่เนื้อร้ายนั้น อาจจะเป็นซีสต์ หรืออาจจะเป็นอื่นๆที่พบได้บ่อย เช่น Hemangioma ซึ่งกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจพบนั้นไม่ใช่มะเร็งแน่นอน อาจจะเป็นแค่เนื้องอกที่เป็นซีสต์ธรรมดาเท่านั้น

“ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับเป็นก้อนเลือดธรรมดา เหมือนที่เราเป็นปานแดงที่หน้า ไม่เป็นอันตรายอะไร แต่ทำให้ไม่สวย ต้องไปตัดออก กรณีนี้ก็เหมือนปานแดงที่ไปอยู่ในตับ ตรวจพบเจอก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องทำอะไรมาก อยู่ได้สบาย ไปตรวจปีละครั้ง หรือ 2 ปีครั้งก็พอ เพียงแค่เฝ้าดูอาการว่าโตขึ้นหรือไม่ เปลี่ยนแปลงหรือไม่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องไปตัดออก เพราะการตัดเอาเนื้องอกที่ตับออกจะยุ่งยากมาก ไม่เหมือนผ่าตัดเอาเนื้องอกที่อื่นออก เพราะเนื้อเยื่อตับมีเลือดไปเลี้ยงเยอะ”

นพ.ชาตรี กล่าวต่อว่า สาเหตุที่เป็นซีสต์ในตับนั้น อาจเป็นมาแต่กำเนิดก็มี หรือเกิดจากเซลล์ท่อน้ำดีอุดตันบางส่วนจนทำให้น้ำดีไปขังในตับก็มี ไม่ทราบสาเหตุก็มี โดยจะไม่มีอาการบ่งบอกอะไร และไม่มีอันตรายใดๆจึงไม่จำเป็นต้องตัดออก แต่ถ้ามีชนิดที่โตมากจนเบียดท่อน้ำดี ก็อาจจะต้องเจาะออก ไม่ต้องตัดก็ได้

“แต่ถ้าเป็นเนื้องอกชนิดที่เป็นเนื้อร้าย คือ เป็นมะเร็ง ทั้งมะเร็งเซลล์ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี อันตรายมาก โดยเฉพาะมะเร็งเซลล์ตับถ้าตรวจพบมักจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน การผ่าตัดก็ได้ผลไม่มาก อัตราส่วนหลังผ่าตัดมีชีวิตอยู่ได้เกิน 5 ปี มีแค่ 10 % เท่านั้น ขณะที่มะเร็งท่อน้ำดี แม้จะโตช้า แต่ก็พบว่าอัตราส่วนหลังผ่าตัดมีชีวิตอยู่ได้เกิน 5 ปี แค่ 30 %”

นพ.ชาตรี กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นมะเร็งเซลล์ตับ คือ ตับอักเสบ โดยเฉพาะชนิด บี การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ทำให้ตับอักเสบ กลายเป็นมะเร็ง หรือการรับสารอัลฟ่าท็อกซิน เช่น เชื้อราในถั่ว พริกแห้ง กระเทียมที่เก็บไว้นาน ก็เป็นสาเหตุสำคัญ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็งท่อน้ำดีนั้น ที่สำคัญคือ พยาธิใบไม้ในตับประเภท Opisthocis พบมากแถวภาคอีสาน คนที่ชอบรับประทานก้อยปลา ปลาดิบ เข้าไป พยาธิที่อยู่ในปลาก็เข้าไปอยู่ในท่อน้ำดีของตับ เมื่อมีสารก่อมะเร็งไปเสริม เช่น ไนโตรซามีนหรือดินประสิว ซึ่งใช้ผสมในอาหารหมักดอง เช่น ปลาเค็ม แหนม กุนเชียง เข้าไปผสมมาก ไนโตรซามีนจะกระตุ้นทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดีได้ ซึ่งอาการของคนที่เป็นมะเร็งตับ จะคลำก้อนพบใต้ชายโครงด้านขวา น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ผอมลง ตัวเหลือง ตาเหลือง มีไข้
กำลังโหลดความคิดเห็น