พสกนิกรทั่วประเทศร่วมบวชเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี กว่า 8,000 คน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานไตรจีวรให้กับทุกวัดที่มีพิธีอุปสมบทรวม 84 วัด โดยจะมีพิธีลาสิกขาบท และประกาศตนเป็นอุบาสก ในวันที่ 16 มิถุนายน 2549
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล และพิธีบรรพชาอุปสมบท โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 9 วัดทั่วกรุงเทพฯ ที่มีโครงการอุปสมบทในส่วนกลาง โดยวัดพระราม 9 มีผู้ร่วมอุปสมบท 77 คน ขณะที่ผู้อุปสมบทใน 9 วัดทั่วกรุงเทพฯ รวม 644 คน ประกอบด้วย วัดบวรนิเวศวิหาร, วัดชนะสงคราม, วัดปากน้ำ, วัดมกุฏกษัตริยาราม, วัดสัมพันธวงศาราม, วัดเทพศิรินทราวาส, วัดสระเกศ, วัดยานนาวา และวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
โดยพิธีอุปสมบทเริ่มพร้อมกันทุกวัดในเวลา 08.30 น. นอกจากนี้ ในส่วนภูมิภาครวม 76 จังหวัด มีผู้ร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ รวม 8,413 คน ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือ 5,769 คน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานไตรจีวรให้กับทุกวัดที่มีพิธีอุปสมบทรวม 84 วัด โดยจะมีพิธีลาสิกขาบท และประกาศตนเป็นอุบาสก ในวันที่ 16 มิถุนายน 2549
ทั้งนี้ ในเวลา 08.30 น.วันนี้ ที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร หรือวัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานพิธีบรรพชาอุปสมบทตามโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 โดยมี ผู้บริหาร ข้าราชการจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงเทคโนโลยีฯ ญาติพี่น้องของผู้เข้าอุปสมบท และประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีครั้งนี้
นายพินิจ กล่าวว่า โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดโดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และให้พุทธศาสนิกชนประชาชนไทยและข้าราชการ ได้ร่วมบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ บำเพ็ญบุญกุศลในพระพุทธศาสนา เพื่อเฉลิมพระเกียรติเป็นเวลา 15 วัน โดยจัดพิธีอุปสมบทพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2549 และให้หน่วยงานราชการทุกแห่งร่วมกันเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งหมด 5,796 รูป
โดยที่กรุงเทพมหานคร ดำเนินการ 9 วัด วัดละ 69 รูป ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดสระเกศ วัดชนะสงคราม วัดปากน้ำ วัดมกุฏกษัตริยาราม วันสัมพันธวงศ์ วัดเทพศิรินทราวาส วัดยานนาวา และวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวัดในส่วนภูมิภาคอีก 75 จังหวัด จังหวัดละ 69 รูป จัดอบรมพระนวกะหรือพระบวชใหม่เกี่ยวกับพระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ร่วมอธิษฐานเสริมพระบารมีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน 2549 และจัดพิธีลาสิกขา ในวันที่ 16 มิถุนายน 2549
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายและร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดพิธีอุปสมบท จำนวน 69 รูป ที่วัดวัดสัมพันธวงศ์ ผู้เข้าอุปสมบทครั้งนี้เป็นข้าราชการทั้งหมด จากกรมการศาสนา กองทัพบก กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ และกระทรวงศึกษาธิการ
สำหรับวัดสัมพันธวงศาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ริมถนนทรงวาด เหนือวัดปทุมคงคา อำเภอสัมพันธวงศ์ จังหวัดพระนคร เดิมเป็นวัดราษฎร์ มีนามว่าวัดเกาะ หลักฐานในการสร้างวัดแต่เดิมไม่ปรากฎท่านผู้ใดใครเป็นผู้สร้างทราบแต่ว่าเป็นวัดโบราณเก่าแก่ มีมาตั้งแต่สมัยพระนครศรีอยุธยา ก่อนสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี ต่อมาเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรีได้บูรณาการปฏิสังขรณ์ทรงสร้าง ในรัชกาลที่ 3 พระราชทานนามใหม่ว่า วัดสัมพันธวงศาวาส จากนั้นในรัชกาลที่ 4 พระราชทานนามใหม่เป็น “วัดสัมพันธวงษาราม” หรือ วัดสัมพันธวงศาราม แม้ปัจจุบันทางราชการหรือประชาชนส่วนมากจะนิยมเรียกว่า “วัดสัมพันธวงศ์” ปัจจุบันมีสมเด็จพระมหาธีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ปธ.9) เป็นเจ้าอาวาส
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล และพิธีบรรพชาอุปสมบท โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 9 วัดทั่วกรุงเทพฯ ที่มีโครงการอุปสมบทในส่วนกลาง โดยวัดพระราม 9 มีผู้ร่วมอุปสมบท 77 คน ขณะที่ผู้อุปสมบทใน 9 วัดทั่วกรุงเทพฯ รวม 644 คน ประกอบด้วย วัดบวรนิเวศวิหาร, วัดชนะสงคราม, วัดปากน้ำ, วัดมกุฏกษัตริยาราม, วัดสัมพันธวงศาราม, วัดเทพศิรินทราวาส, วัดสระเกศ, วัดยานนาวา และวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
โดยพิธีอุปสมบทเริ่มพร้อมกันทุกวัดในเวลา 08.30 น. นอกจากนี้ ในส่วนภูมิภาครวม 76 จังหวัด มีผู้ร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ รวม 8,413 คน ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือ 5,769 คน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานไตรจีวรให้กับทุกวัดที่มีพิธีอุปสมบทรวม 84 วัด โดยจะมีพิธีลาสิกขาบท และประกาศตนเป็นอุบาสก ในวันที่ 16 มิถุนายน 2549
ทั้งนี้ ในเวลา 08.30 น.วันนี้ ที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร หรือวัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานพิธีบรรพชาอุปสมบทตามโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 โดยมี ผู้บริหาร ข้าราชการจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงเทคโนโลยีฯ ญาติพี่น้องของผู้เข้าอุปสมบท และประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีครั้งนี้
นายพินิจ กล่าวว่า โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดโดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และให้พุทธศาสนิกชนประชาชนไทยและข้าราชการ ได้ร่วมบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ บำเพ็ญบุญกุศลในพระพุทธศาสนา เพื่อเฉลิมพระเกียรติเป็นเวลา 15 วัน โดยจัดพิธีอุปสมบทพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2549 และให้หน่วยงานราชการทุกแห่งร่วมกันเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งหมด 5,796 รูป
โดยที่กรุงเทพมหานคร ดำเนินการ 9 วัด วัดละ 69 รูป ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดสระเกศ วัดชนะสงคราม วัดปากน้ำ วัดมกุฏกษัตริยาราม วันสัมพันธวงศ์ วัดเทพศิรินทราวาส วัดยานนาวา และวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวัดในส่วนภูมิภาคอีก 75 จังหวัด จังหวัดละ 69 รูป จัดอบรมพระนวกะหรือพระบวชใหม่เกี่ยวกับพระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ร่วมอธิษฐานเสริมพระบารมีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน 2549 และจัดพิธีลาสิกขา ในวันที่ 16 มิถุนายน 2549
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายและร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดพิธีอุปสมบท จำนวน 69 รูป ที่วัดวัดสัมพันธวงศ์ ผู้เข้าอุปสมบทครั้งนี้เป็นข้าราชการทั้งหมด จากกรมการศาสนา กองทัพบก กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ และกระทรวงศึกษาธิการ
สำหรับวัดสัมพันธวงศาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ริมถนนทรงวาด เหนือวัดปทุมคงคา อำเภอสัมพันธวงศ์ จังหวัดพระนคร เดิมเป็นวัดราษฎร์ มีนามว่าวัดเกาะ หลักฐานในการสร้างวัดแต่เดิมไม่ปรากฎท่านผู้ใดใครเป็นผู้สร้างทราบแต่ว่าเป็นวัดโบราณเก่าแก่ มีมาตั้งแต่สมัยพระนครศรีอยุธยา ก่อนสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี ต่อมาเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรีได้บูรณาการปฏิสังขรณ์ทรงสร้าง ในรัชกาลที่ 3 พระราชทานนามใหม่ว่า วัดสัมพันธวงศาวาส จากนั้นในรัชกาลที่ 4 พระราชทานนามใหม่เป็น “วัดสัมพันธวงษาราม” หรือ วัดสัมพันธวงศาราม แม้ปัจจุบันทางราชการหรือประชาชนส่วนมากจะนิยมเรียกว่า “วัดสัมพันธวงศ์” ปัจจุบันมีสมเด็จพระมหาธีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ปธ.9) เป็นเจ้าอาวาส