ขบวนอัญเชิญองค์ท่านท้าวมหาพรหมถึงโรงแรมเอราวัณแล้ว ประชาชนรอสักการะเนืองแน่นนับพันคน ตะลึงเศรษฐีฮ่องกงเช่าเหมาลำเครื่องบินมาร่วมงานโดยเฉพาะ แถมขนดาราฮ่องกงร่วมด้วย ขณะที่ชาวสิงคโปร์ มาเลย์ อินโดฯ บรูไนก็คึกคักไม่แพ้กัน สื่อไทย-ต่างประเทศรุมทำข่าวเพียบ โดยเฉพาะสื่อจากฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน เผยฤกษ์เข้าสู่ศาลาท่านท้าวมหาพรหม เวลา 11.39 น. เป็นเวลาที่องศาของดวงอาทิตย์ส่องตรงศาลพอดี ขณะที่คณะปั้นรูปหล่อองค์ใหม่เผย เคยฝันเห็นท้าวมหาพรหมมาบอกว่าอยากกลับบ้านแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.00 น. ที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม บริเวณพุทธมณฑล ได้มีผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากมารอทำข่าวการเคลื่อนขบวนท่านมหาพรหม โดยสื่อต่างประเทศที่มีจำนวนมาก คือสื่อจากฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ทั้งนี้ เวลา 07.29 น. นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร ได้เป็นประธานในการพรมน้ำมนต์ท่านท้าวมหาพรหมตามฤกษ์ และในเวลา 07.59 น. ขบวนแห่ท่านท้าวมหาพรหมได้เคลื่อนขบวนออกจากสำนักช่างสิบหมู่ โดยมีการนำขบวนโดยวงโยธวาทิต จากโรงเรียนตั้งตรงจิตพณิชยการ จำนวน 50 คน ตามด้วยขบวนสิงโต และรถบุปผชาติอันเป็นรถเชิญ มีสมมติเทวดา 6 องค์ นางฟ้า 4 องค์ โดยเดินทางตามเส้นทางพุทธมณฑล ขึ้นเส้นทางถนนลอยฟ้าตลิ่งชัน ลงปิ่นเกล้า ซึ่งตลอดการเคลื่อนขบวนระหว่างทางมีการโปรยข้าวตอกดอกไม้
และเมื่อเวลา 08.45 น. ได้เดินทางมาถึงศาลหลักเมือง เพื่อนำน้ำพระพุทธมนต์จากศาลหลักเมืองสรงองค์ท่านท้าวมหาพรหม มีประชาชนประมาณ 200 คน รอต้อนรับ และดอกไม้โดยเฉพาะดอกดาวเรืองขายดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนนิยมใช้ถวายและสักการะท่านท้าวมหาพรหม
หลังจากนั้นจะเดินทางไปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูสวัสดิโสภา เพื่อนำน้ำพระพุทธมนต์จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สรงองค์ท่านท้าวมหาพรหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.40 น. ขบวนรถอัญเชิญเคลื่อนมาถึงเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ โดยมีประชาชนกว่า 500 คนรอรับอย่างเนืองแน่น โดยต่างมาออกันที่รถบุปผชาติเพื่อรอรับข้าวตอกดอกไม้และพวงมาลัยที่โปรยอกมาจากรถ ทั้งนี้มีกลุ่มผู้หญิงได้นำกระเป๋าเงินมาแตะที่ฐานองค์ท่านท้าวมหาพรหม และอธิษฐานขอให้เงินไหลมาเทมาจำนวนมาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวถนนถูกปิดชั่วคราว เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก ทั้งนี้การทำพิธีที่นี่จะใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้อนรับ โดยพระครูวามเทพมุนีเชิญน้ำเทพมนต์สรงองค์ท่านท้าวมหาพรหม ก่อนจะเข้าสู่ศาลาท่านท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณต่อไป
ทั้งนี้ ฤกษ์การบวงสรวงองค์ท่านท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณนั้นคือเวลา 11.39 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แสงจากดวงอาทิตย์ตรงกับศาลพระพรหมพอดี
เวลา 11.00 น. ขบวนอัญเชิญองค์ท่านท้าวมหาพรหมมาถึงยังบริเวณศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ โดยมีประชาชนนับพันคนรอรับอย่างเนืองแน่น ซึ่งขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงแล้ว โดยอยู่ระหว่างการรอฤกษ์เพื่อประกอบพิธีต่อไป ทั้งนี้มีรายงานว่าชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวฮ่องกงได้เช่าเหมาเครื่องบิน 2 ลำเพื่อมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ โดยมีนักแสดงชาวฮ่องกงเดินทางมาร่วมด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ขณะเดียวกัน ชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไนก็มาร่วมพิธีอัญเชิญนี้จำนวนมากเช่นกัน
ด้านนางแจ่มศรี ลายมา อายุ 57 ปี ชาวกทม. ที่มารอรับท่านท้าวมหาพรหมที่บริเวณศษลหลักเมือง กล่าวว่า เดินทางมาจากรังสิต และมาถึงที่ศาลหลักเมืองประมาณ 06.30 น. เพื่อมาสักการะท่านท้าวมหาพรหมโดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็มีความศรัทธาองค์ท่านท้าวมหาพรหมมาก เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการอัญเชิญจึงมารอรับ และสำหรับการทำลายองค์พระพรหมที่ผ่านมานั้น ก็ถือว่าเป็นกรรมของคนที่ลงมือทำ
ขณะที่แหล่งข่าวในกระทรวงวัฒนธรรมเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้คณะทำงานปั้นรูปหล่อพระพรหมองค์ใหม่ได้ฝันถึงท่านท้าวมหาพรหมว่าท่านได้บอกว่าอยากกลับบ้านแล้ว และในวันนี้ (21 พ.ค.) ก็เป็นเวลา 2 เดือนพอดีนับตั้งแต่องค์ท่านท้าวมหาพรหมถูกชายสติไม่ดีทำลาย และในส่วนของการหล่อรูปองค์ใหม่ ได้ทำการหล่อด้วยปูนพลาสเตอร์เสริมใยเหล็ก เชื่อมด้วยน้ำประสาน ซึ่งจะแข็งแรงกว่าองค์เดิม โดยได้มีการนำชิ้นส่วนที่เหลือจากการถูกทำลาย ที พระเศียร พระพาหา และพระกรทั้ง 8 ข้าง หล่อรวมไว้ในองค์ใหม่ด้วย โดยหลังจากนี้จะมีการจัดเวรยามตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าองค์ท่านท้าวมหาพรหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.00 น. ที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม บริเวณพุทธมณฑล ได้มีผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากมารอทำข่าวการเคลื่อนขบวนท่านมหาพรหม โดยสื่อต่างประเทศที่มีจำนวนมาก คือสื่อจากฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ทั้งนี้ เวลา 07.29 น. นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร ได้เป็นประธานในการพรมน้ำมนต์ท่านท้าวมหาพรหมตามฤกษ์ และในเวลา 07.59 น. ขบวนแห่ท่านท้าวมหาพรหมได้เคลื่อนขบวนออกจากสำนักช่างสิบหมู่ โดยมีการนำขบวนโดยวงโยธวาทิต จากโรงเรียนตั้งตรงจิตพณิชยการ จำนวน 50 คน ตามด้วยขบวนสิงโต และรถบุปผชาติอันเป็นรถเชิญ มีสมมติเทวดา 6 องค์ นางฟ้า 4 องค์ โดยเดินทางตามเส้นทางพุทธมณฑล ขึ้นเส้นทางถนนลอยฟ้าตลิ่งชัน ลงปิ่นเกล้า ซึ่งตลอดการเคลื่อนขบวนระหว่างทางมีการโปรยข้าวตอกดอกไม้
และเมื่อเวลา 08.45 น. ได้เดินทางมาถึงศาลหลักเมือง เพื่อนำน้ำพระพุทธมนต์จากศาลหลักเมืองสรงองค์ท่านท้าวมหาพรหม มีประชาชนประมาณ 200 คน รอต้อนรับ และดอกไม้โดยเฉพาะดอกดาวเรืองขายดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนนิยมใช้ถวายและสักการะท่านท้าวมหาพรหม
หลังจากนั้นจะเดินทางไปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูสวัสดิโสภา เพื่อนำน้ำพระพุทธมนต์จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สรงองค์ท่านท้าวมหาพรหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.40 น. ขบวนรถอัญเชิญเคลื่อนมาถึงเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ โดยมีประชาชนกว่า 500 คนรอรับอย่างเนืองแน่น โดยต่างมาออกันที่รถบุปผชาติเพื่อรอรับข้าวตอกดอกไม้และพวงมาลัยที่โปรยอกมาจากรถ ทั้งนี้มีกลุ่มผู้หญิงได้นำกระเป๋าเงินมาแตะที่ฐานองค์ท่านท้าวมหาพรหม และอธิษฐานขอให้เงินไหลมาเทมาจำนวนมาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวถนนถูกปิดชั่วคราว เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก ทั้งนี้การทำพิธีที่นี่จะใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้อนรับ โดยพระครูวามเทพมุนีเชิญน้ำเทพมนต์สรงองค์ท่านท้าวมหาพรหม ก่อนจะเข้าสู่ศาลาท่านท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณต่อไป
ทั้งนี้ ฤกษ์การบวงสรวงองค์ท่านท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณนั้นคือเวลา 11.39 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แสงจากดวงอาทิตย์ตรงกับศาลพระพรหมพอดี
เวลา 11.00 น. ขบวนอัญเชิญองค์ท่านท้าวมหาพรหมมาถึงยังบริเวณศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ โดยมีประชาชนนับพันคนรอรับอย่างเนืองแน่น ซึ่งขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงแล้ว โดยอยู่ระหว่างการรอฤกษ์เพื่อประกอบพิธีต่อไป ทั้งนี้มีรายงานว่าชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวฮ่องกงได้เช่าเหมาเครื่องบิน 2 ลำเพื่อมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ โดยมีนักแสดงชาวฮ่องกงเดินทางมาร่วมด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ขณะเดียวกัน ชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไนก็มาร่วมพิธีอัญเชิญนี้จำนวนมากเช่นกัน
ด้านนางแจ่มศรี ลายมา อายุ 57 ปี ชาวกทม. ที่มารอรับท่านท้าวมหาพรหมที่บริเวณศษลหลักเมือง กล่าวว่า เดินทางมาจากรังสิต และมาถึงที่ศาลหลักเมืองประมาณ 06.30 น. เพื่อมาสักการะท่านท้าวมหาพรหมโดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็มีความศรัทธาองค์ท่านท้าวมหาพรหมมาก เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการอัญเชิญจึงมารอรับ และสำหรับการทำลายองค์พระพรหมที่ผ่านมานั้น ก็ถือว่าเป็นกรรมของคนที่ลงมือทำ
ขณะที่แหล่งข่าวในกระทรวงวัฒนธรรมเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้คณะทำงานปั้นรูปหล่อพระพรหมองค์ใหม่ได้ฝันถึงท่านท้าวมหาพรหมว่าท่านได้บอกว่าอยากกลับบ้านแล้ว และในวันนี้ (21 พ.ค.) ก็เป็นเวลา 2 เดือนพอดีนับตั้งแต่องค์ท่านท้าวมหาพรหมถูกชายสติไม่ดีทำลาย และในส่วนของการหล่อรูปองค์ใหม่ ได้ทำการหล่อด้วยปูนพลาสเตอร์เสริมใยเหล็ก เชื่อมด้วยน้ำประสาน ซึ่งจะแข็งแรงกว่าองค์เดิม โดยได้มีการนำชิ้นส่วนที่เหลือจากการถูกทำลาย ที พระเศียร พระพาหา และพระกรทั้ง 8 ข้าง หล่อรวมไว้ในองค์ใหม่ด้วย โดยหลังจากนี้จะมีการจัดเวรยามตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าองค์ท่านท้าวมหาพรหม
