กทม.ทำพิธีการบวงสรวงต้นสักทองเพื่อนำไปบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า พร้อมดำเนินการตัดไม้สักทองทั้ง 6 ต้น รวมทั้งแกะสลักกระจัง ก่อนนำมาประกอบเป็นเสาชิงช้าตัวใหม่ คาดแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชย์ครบ 60 ปี รวมทั้งเพาะชำกล้าไม้ 1 ล้าน 9 ต้น คืนสู่ธรรมชาติ
เช้าที่ผ่านมา วันนี้ (19 พ.ค.) ณ บริเวณหน่วยประสานงานป้องกันรักษาป่า อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้มีพิธีการบวงสรวงต้นสักทอง เพื่อนำไปบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า โดยในช่วงเช้ามีพิธีการทางสงฆ์ ขณะที่บริเวณใกล้เคียงได้มีชาวบ้านตั้งศาลเพียงตาขึ้นด้วย
พิธีเริ่มต้นด้วยการที่นายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระมหาโพธิวงศาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารเป็นประธานในพิธีสงฆ์ หลังจากเจริญพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัย พระสงฆ์อนุโมทนา เรียบร้อย พระมหาโพธิวงศาจารย์ ได้ประพรมน้ำมนต์แล้วเจิมที่ต้นสักทอง
หลังจากประกอบพิธีการทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว พราหมณ์จากเทวะสถานโบสถ์พราหมณ์ กทม.ได้นำเครื่องไหว้สักการบูชามาจัดเตรียมที่บริเวณต้นสักทอง ประกอบด้วย ขนมหวาน ผลไม้นานาชนิด บายศรี ธัญพืช ได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ บัตรพระเกตุ บัตรเจ้ากรุงพาลี บัตรพระภูมิ เป็นต้น
จากนั้นในเวลา 12.24 น.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.และนายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าฯ แพร่ จุดธูปเทียนบูชาเทพเทวดา รุกขเทวดา ร่วมกับผู้เข้าร่วมพิธี โดยพระราชครูวามเทพมุนี กล่าวนำอธิษฐานและประกอบพิธีบูชาฤกษ์ขออนุญาตพลีต้นไม้เพื่อนำไปบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า หลังจากนั้นผู้ว่าฯ กทม.และ ผู้ว่าฯ แพร่ โปรยข้าวตอกดอกไม้ บนเครื่องสังเวย และเครื่องมือตัดไม้
ต่อมาพระราชครูวามเทพมุนี รดน้ำเทพมนต์ที่ดวงตราประทับไม้ เครื่องมือ เจ้าหน้าที่ และต้นสักและเจิมเครื่องมือการทำไม้ จากนั้นจึงพรมน้ำอบที่ต้นสัก นำพวงมาลัยดอกไม้ไปผูกขวัญให้กับต้นสัก ผู้เข้าร่วมพิธีตั้งจิตอธิษฐานขออัญเชิญต้นสักไปบูรณปฏิสังขรณ์ และในขั้นตอนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ใช้ดวงตราประทับไม้ดำเนินการประทับตราบนต้นไม้ เป็นอันเสร็จพิธี โดยบริเวณนี้เป็นต้นสักทอง ต้นที่ 1 ที่จะนำไปทำเสาชิงช้าหลักที่ 1
จากนั้นผู้ว่าฯ กทม.ได้เดินทางไปบริเวณริมทางหลวงหมายเลข 101 กม.ที่ 104+166 เพื่อร่วมพิธีบวงสรวงบูชาเทพยดา เจ้าป่าเจ้าเขา พรมน้ำอบ ดอกไม้ประทับตราต้นไม้บริเวณที่ 2 และบริเวณที่ 3 ที่สวนป่าห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า หลังจากพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้นแล้ว ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) จนถึง 22 พ.ค. จะดำเนินการตัดไม้สักทองทั้ง 6 ต้นให้แล้วเสร็จจากนั้นเข้าสู่กระบวนการจัดการไม้โดยเจ้าหน้าที่จากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) เป็นผู้ดำเนินการซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะนำไม้ไปไว้ที่โรงงานของ ออป.จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการอบเกลาไม้ให้มีความแข็งแรงทนทาน รวมทั้งแกะสลักกระจัง ซึ่งเป็นยอดของเสาชิงช้าให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะนำมาประกอบเป็นเสาชิงช้าอันใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชย์ครบ 60 ปี
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะนำเนื้อเยื่อไม้สักทองไปเพาะชำเป็นกล้าไม้อีก 1 ล้านต้น หลังจากที่ได้ร่วมกันปลูกในวันนี้จำนวน 9 ต้น รวมเป็น 1 ล้าน 9 ต้น ทั้งนี้ เมื่อกล้าไม้สักทองเจริญเติบโตได้ขนาดที่พอเหมาะจึงจะนำมาปลูกคืนที่ จ.แพร่ และ กทม.บางส่วน รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ ที่มีความเหมาะสมต่อไป
เช้าที่ผ่านมา วันนี้ (19 พ.ค.) ณ บริเวณหน่วยประสานงานป้องกันรักษาป่า อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้มีพิธีการบวงสรวงต้นสักทอง เพื่อนำไปบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า โดยในช่วงเช้ามีพิธีการทางสงฆ์ ขณะที่บริเวณใกล้เคียงได้มีชาวบ้านตั้งศาลเพียงตาขึ้นด้วย
พิธีเริ่มต้นด้วยการที่นายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระมหาโพธิวงศาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารเป็นประธานในพิธีสงฆ์ หลังจากเจริญพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัย พระสงฆ์อนุโมทนา เรียบร้อย พระมหาโพธิวงศาจารย์ ได้ประพรมน้ำมนต์แล้วเจิมที่ต้นสักทอง
หลังจากประกอบพิธีการทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว พราหมณ์จากเทวะสถานโบสถ์พราหมณ์ กทม.ได้นำเครื่องไหว้สักการบูชามาจัดเตรียมที่บริเวณต้นสักทอง ประกอบด้วย ขนมหวาน ผลไม้นานาชนิด บายศรี ธัญพืช ได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ บัตรพระเกตุ บัตรเจ้ากรุงพาลี บัตรพระภูมิ เป็นต้น
จากนั้นในเวลา 12.24 น.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.และนายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าฯ แพร่ จุดธูปเทียนบูชาเทพเทวดา รุกขเทวดา ร่วมกับผู้เข้าร่วมพิธี โดยพระราชครูวามเทพมุนี กล่าวนำอธิษฐานและประกอบพิธีบูชาฤกษ์ขออนุญาตพลีต้นไม้เพื่อนำไปบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า หลังจากนั้นผู้ว่าฯ กทม.และ ผู้ว่าฯ แพร่ โปรยข้าวตอกดอกไม้ บนเครื่องสังเวย และเครื่องมือตัดไม้
ต่อมาพระราชครูวามเทพมุนี รดน้ำเทพมนต์ที่ดวงตราประทับไม้ เครื่องมือ เจ้าหน้าที่ และต้นสักและเจิมเครื่องมือการทำไม้ จากนั้นจึงพรมน้ำอบที่ต้นสัก นำพวงมาลัยดอกไม้ไปผูกขวัญให้กับต้นสัก ผู้เข้าร่วมพิธีตั้งจิตอธิษฐานขออัญเชิญต้นสักไปบูรณปฏิสังขรณ์ และในขั้นตอนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ใช้ดวงตราประทับไม้ดำเนินการประทับตราบนต้นไม้ เป็นอันเสร็จพิธี โดยบริเวณนี้เป็นต้นสักทอง ต้นที่ 1 ที่จะนำไปทำเสาชิงช้าหลักที่ 1
จากนั้นผู้ว่าฯ กทม.ได้เดินทางไปบริเวณริมทางหลวงหมายเลข 101 กม.ที่ 104+166 เพื่อร่วมพิธีบวงสรวงบูชาเทพยดา เจ้าป่าเจ้าเขา พรมน้ำอบ ดอกไม้ประทับตราต้นไม้บริเวณที่ 2 และบริเวณที่ 3 ที่สวนป่าห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า หลังจากพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้นแล้ว ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) จนถึง 22 พ.ค. จะดำเนินการตัดไม้สักทองทั้ง 6 ต้นให้แล้วเสร็จจากนั้นเข้าสู่กระบวนการจัดการไม้โดยเจ้าหน้าที่จากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) เป็นผู้ดำเนินการซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะนำไม้ไปไว้ที่โรงงานของ ออป.จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการอบเกลาไม้ให้มีความแข็งแรงทนทาน รวมทั้งแกะสลักกระจัง ซึ่งเป็นยอดของเสาชิงช้าให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะนำมาประกอบเป็นเสาชิงช้าอันใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชย์ครบ 60 ปี
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะนำเนื้อเยื่อไม้สักทองไปเพาะชำเป็นกล้าไม้อีก 1 ล้านต้น หลังจากที่ได้ร่วมกันปลูกในวันนี้จำนวน 9 ต้น รวมเป็น 1 ล้าน 9 ต้น ทั้งนี้ เมื่อกล้าไม้สักทองเจริญเติบโตได้ขนาดที่พอเหมาะจึงจะนำมาปลูกคืนที่ จ.แพร่ และ กทม.บางส่วน รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ ที่มีความเหมาะสมต่อไป