xs
xsm
sm
md
lg

ฟันขาวทำอย่างไร - ทพ.ญ.พิรมล เทพมงคล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์...สายตรงสุขภาพกับศิริราช
ฟันคนเราปกติจะมีสีขาวเป็นมันวาว แต่บางคนจะมีฟันออกสีเหลือง หรือดำคล้ำ แลดูไม่สวยงาม โดยอาจเป็นเพียงบางซี่ หรือทุกๆ ซี่ก็ได้ ซึ่งแน่นอนที่ใครๆ ก็อยากมีฟันที่ขาว สะอาด เพื่ออวดยิ้มได้อย่างมั่นใจ

สาเหตุฟันไม่ขาว มีมากมายคือ

1. การรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ การอมลูกอม สูบบุหรี่ ร่วมกับการที่แปรงฟันไม่สะอาดพอ จึงทำให้มีคราบอาหาร คราบแบคทีเรีย และหินปูนมาเกาะติดสะสมทีละน้อย จนเห็นเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีดำติดบนพื้นผิวของตัวฟันและในซอกฟัน ซึ่งเป็นสีที่เกิดนอกเนื้อฟัน

2. ฟันผุ หรือฟันผุที่ได้รับการบูรณะแล้ว แต่วัสดุอุดเสื่อมสภาพ มีรอยแตก รั่ว เปลี่ยนสีซึ่งมักมีสีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาล โดยเฉพาะฟันที่อยู่ด้านหน้า ทำให้มองเห็นได้ชัดเจน

3. ฟันตาย หมายถึง ฟันที่ไม่มีเลือด และประสาทฟันมาหล่อเลี้ยง ทำให้ฟันมีสี ทึบ ไม่โปร่งเหมือนฟันที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับฟันที่ผุมากๆ และทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานจนฟันผุลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน หรืออาจเกิดขึ้นกับฟันที่ได้รับอุบัติเหตุ หรือถูกกระแทกอย่างแรง จนมีการฉีกขาดของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงฟัน เมื่อทิ้งไว้นานๆ โดยไม่มีการดึงประสาทฟันออก ฟันจะยิ่งมีสีคล้ำมากขึ้น

4. ฟันมีสีผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด เนื่องจากโรคบางอย่าง หรือได้รับยาบางชนิดมากเกินไป เช่น ยาเตตราซัยคริน ซึ่งมีผลต่อสีของฟัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการก่อตัวหรือสร้างฟัน คือ ฟันน้ำนม ในเด็กอายุ 3-9 เดือน และฟันแท้ในเด็กอายุ 3 - 12 ปี ทำให้ฟันแทบทุกซี่มีสีค่อนข้างเหลือง หรือเป็นสีเทาดำ

5. ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป จะมีจุดสีน้ำตาลบนฟัน ที่เรียกว่า ฟันตกกระ

เทคนิคทำให้ฟันขาว
วิธีที่จะทำให้ฟันขาวนั้นมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและลักษณะของสีฟันที่ผิดปกติไป

1. วิธีแรกที่ง่ายมากคือ การแปรงฟันให้สะอาดอย่างทั่วถึงหลังอาหารทุกมื้อร่วมกับการไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อขูดหินปูนและขัดฟัน ซึ่งจะสามารถกำจัดสีที่เกิดนอกเนื้อฟันได้เท่านั้น และการขัดฟันจะไม่ทำให้ฟันบางลงอย่างที่เข้าใจ ถ้ามีฟันหน้าผุ ทันตแพทย์จะกรอส่วนที่ผุ มีสีดำ หรือสีเหลืองออก แล้วอุดด้วยวัสดุที่มีสีเหมือนฟัน เท่านี้ฟันก็จะมีสีขาวสะอาดได้เหมือนปกติ

2. การฟอกสีฟัน ปัจจุบันมีการฟอกสีฟันทั้งปาก เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม และมีวิวัฒนาการของยาที่ฟอกสีฟัน ทำให้ใช้ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การฟอกสีฟันทั้งปาก ทำได้ 2 วิธี คือ

1. จะต้องทำในคลินิก โดยทันตแพทย์จะใช้สารฟอกสี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารประเภท Peroxide ที่มีความเข้มข้น 30-35% โดยใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง

2. ผู้ป่วยสามารถนำสารฟอกสีกลับไปทำเองที่บ้าน โดยทันตแพทย์จะเตรียมอุปกรณ์ให้ แต่ผู้ป่วยต้องกลับมาตรวจเป็นระยะตามที่นัด สารฟอกสีที่ใช้จะเป็นประเภทเดียวกับที่ทำในคลินิก แต่จะมีความเข้มข้นน้อยกว่า คือประมาณ 2-10% ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย วิธีฟอกก็ไม่ยาก เพียงแต่บีบสารฟอกสีลงในถาดฟันยางที่ทันตแพทย์ทำเฉพาะไว้สำหรับแต่ละคน จำนวนน้ำยาที่ใส่ลงในถาดก็ประมาณเพียง 1 ใน 3 ของถาด แล้วสวมฟันยางไว้ วันละ 1-2 ชม. ทุกวันและจะต้องกลับไปพบทันตแพทย์ตามที่นัดไว้

ระยะเวลาในการรักษา

ขึ้นอยู่กับสีและความคล้ำของฟัน ถ้าฟันมีสีเหลืองไม่มาก อาจฟอกให้ขาวได้ในเวลา 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าหากฟันมีสีเหลืองเข้ม หรือสีเทาดำ อาจต้องใช้ระยะเวลานานในการฟอกให้ขาว ประมาณ 4 - 5 สัปดาห์

อันตรายของสารฟอกสี

อันตรายหรือผลข้างเคียงต่อเหงือกและฟันของสารฟอกสีมีบ้าง โดยเฉพาะชนิดที่ทำในคลินิก เพราะมีความเข้มข้นสูง ซึ่งทันตแพทย์จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ส่วนชนิดทำที่บ้านนั้น จะมีความเข้มข้นน้อย จึงไม่ค่อยมีอันตรายแม้จะกลืนสารฟอกสีไปบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะสารดังกล่าวจะสลายตัวกลายเป็นน้ำได้ง่าย

ส่วนอาการที่เกิดขึ้น อาจแสบที่เหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก เนื่องจากการระคายเคืองโดยตรงที่สัมผัสกับน้ำยา และอีกอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ คือ การเสียวฟันหลังจากฟอกสี แต่ทั้งนี้ประสาทฟันจะมีการป้องกันตัวเองโดยธรรมชาติ ซึ่งอาการจะค่อยๆ ทุเลาลงและหมดไปเมื่อหยุดฟอกสี นอกจากนี้ทันตแพทย์อาจเคลือบฟลูออไรด์ช่วยอีกทาง

อย่างไรก็ตาม การฟอกสีฟันทั้งปากไม่ได้ทำให้ฟันสึกกร่อนหรืออ่อนแอลงอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ

ทำแล้ว ทำอีกได้หรือไม่

ถ้าเดิมสีค่อนข้างคล้ำก่อนฟอก โอกาสคืนกลับสู่สีเดิมจะเป็นไปได้สูงในเวลา 1-2 ปี แต่การฟอกสีฟันที่สีเหลืองอ่อน จะขาวได้นานประมาณ 3-4 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความระมัดระวังป้องกันการติดสีจากคราบอาหารด้วย และเมื่อสีฟันคล้ำลงอีกก็สามารถใช้ยาฟอกสีฟันซ้ำได้อีก

การทำฟันขาวถาวร ด้วยวิธีอื่นๆ
1. การเคลือบฟัน ทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันด้านหน้าออกเล็กน้อย แล้วปิดทับด้วยวัสดุอุดสีขาว หรือสีเหมือนฟัน ตบแต่งให้ได้รูปร่างสวยงาม ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ฟันขาวค่อนข้างถาวรกว่าการฟอกสี แต่ยังมีโอกาสเสื่อมได้ คือ อาจจะมีรอยแตก กะเทาะของวัสดุที่ทำเคลือบเมื่อใช้ไม่ระมัดระวัง แต่สามารถซ่อมแซมหรือทำใหม่ได้ไม่ยากนัก แต่วิธีนี้ ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการฟอกสีฟัน

2. การครอบฟัน ทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันออกทั้งซี่ให้เหลือเป็นแกน แล้วทำฟันปลอมครอบทับลงไปติดแน่นด้วยซีเมนต์ทันตกรรม ฟันที่ดำหรือแตก บิ่น สามารถทำครอบให้มีสีและรูปร่างที่สวยงามได้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนสีฟันอย่างถาวร แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการทำเคลือบฟันและการฟอกสีฟัน

เด็กสามารถทำได้หรือไม่

ในเด็กก็สามารถทำได้ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องทำ ปกติเด็กจะมีฟันแท้ขึ้นเมื่ออายุประมาณ 6 - 7 ขวบ ฟันแท้ที่ขึ้นมามักจะมีสีเหลืองกว่าฟันน้ำนมอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็เป็นสีที่เป็นธรรมชาติ จึงไม่จำเป็นต้องฟอกสีฟัน นอกจากรายที่มีความผิดปกติจริงๆ เท่านั้น

กรณีใดทำไม่ได้

ไม่มี แต่บางทีการตัดสินใจว่าจะฟอกสีฟันใหม่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความจำเป็นด้วย บางรายคิดว่าตัวเองมีฟันสีเหลือง แต่จริงๆ แล้วก็เป็นสีโทนปกติของฟัน

การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่มีขายตามท้องตลาดสามารถทำเองได้หรือไม่

ยาฟอกสีฟันชนิดที่วางขายตามร้านค้า บุคคลทั่วไปสามารถซื้อไปฟอกเองที่บ้านได้ และยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวก็มีออกมาสู่ท้องตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นประเภทที่นอกเหนือจากการดูแลของทันตแพทย์ จึงยังไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป

แต่ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีใด ก็ต้องใส่ใจรักษาสุขอนามัยของช่องปากและฟันให้มากขึ้น ดีไม่ดี ทำแล้วละเลย อาจต้องเสียมากกว่าเก่าก็ได้

--------------------------------------------------------------

ต้องการแสดงความคิดเห็นหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ pobmor_siriraj@yahoo.com

ร่วมงานชุมนุมเด็กดาวน์ฟรี
ศิริราช เชิญชวนผู้ปกครองร่วมงานชุมนุมเด็กกลุ่มอาการดาวน์ครั้งที่ 15 ณ ตึกอานันทมหิดล ชั้น 10 รพ.ศิริราช รับความรู้จากวิทยากรเรื่อง การศึกษาพิเศษ การพัฒนาเด็กและครอบครัว ตลอดจนความสามารถทางกีฬา และร่วมแบ่งปันประสบการณ์การดูแล พบกัน 18 พ.ค. นี้ เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป

กำลังโหลดความคิดเห็น