“ซู่ๆ ซ่าๆ ปาทังก้า ปาทังกี้ ซู่ๆ ซี่ๆ ปาทังกี้ ปาทังก้า สีฟ้าซู่ซ่า นักกีฬาเซ็กซี่ กองเชียร์ดี้ ดี เซ็กซี่ ซู่ซ่าส์ เอ้า หวีดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บึ้ม หวีดๆๆๆๆๆๆๆๆๆบึ้ม 123 123 12 12 1”

เชื่อแน่ว่าทุกๆ คนก็คงจะเคยร้องเพลงเชียร์กีฬาเพลงนี้พร้อมกับเหล่าผองเพื่อนสมัยประถมฯ ยันมัธยมฯ จนถึงมหาวิทยาลัย ยามที่ต้องแข่งขันกีฬาสีประจำสถาบันของแต่ละคน และเมื่อผ่านพ้นวัยดังกล่าวคงเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคนที่อยากจะไปออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เหมือนสมัยที่ยังตัวกระเปี๊ยก เนื่องจากเหตุผลบางประการไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ออกกำลังกายที่อยู่ไกลบ้าน หรืออยู่ใกล้แต่มีราคาแพงด้วยค่าสมัครสมาชิกที่สูงลิ่วของศูนย์ออกกำลังกาย
....

แต่วันนี้ จะขอแนะนำสถานที่ออกกำลังกายที่อยู่ใกล้บ้าน กับบรรยากาศอันสุดแสนจะสบายท่ามกลางแมกไม้ สายน้ำ การเดินทางก็สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า นั้นก็คือ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ ศูนย์กีฬาแห่งใหม่ของชาวกทม.นั้นเอง
อนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) บอกว่า ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 30 ไร่ โดยได้รับการปรับปรุงและก่อสร้างมีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัย ได้มาตรฐานตามนโยบายของอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯให้ได้รับบริการที่ทันสมัย สะดวกสบาย สามารถเข้ารับบริการได้ทุกเพศ ทุกวัย อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

ทั้งนี้ ศูนย์กีฬาแห่งนี้ ประกอบด้วย สำนักงาน ห้องฟิตเนส ห้องฝึกโยคะ ห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา สระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร สนามเทนนิส 7 สนาม มีสนามกลาง(Center Court) 1 สนาม และสนามฟุตซอล 4 สนาม มีสนามกลาง(Center Court) 1 สนาม โดยสนามเทนนิส และสนามฟุตซอลที่ได้มาตรฐานจะเป็นสนามรองรับการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 ที่ กทม.เป็นเจ้าภาพซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 -29 สิงหาคม 2549 ที่จะถึงนี้อีกด้วย

ด้านผู้ว่าฯ อภิรักษ์ บอกว่า เป็นการนำนโยบายที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวกทม.มาสานต่อให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนโดยจะให้ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ เป็นศูนย์กลางส่งเสริมการออกกำลังกาย เล่นกีฬา สำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชนทุกเพศทุกวัย และคนพิการ และเป็นศูนย์กีฬาต้นแบบที่จะมีการปรับปรุงก่อสร้างกระจายไปตามที่ต่างๆของกทม. เพื่อคนกทม.ทุกคนรวมทั้งคนต่างจังหวัดที่เข้ามาอาศัยในกทม.จะได้รับบริการที่ดีเป็นที่พึงพอใจของทุกคนในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีสนามกีฬา วัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและทันสมัยแล้ว ยังมีวิทยากรหรือผู้ฝึกสอนคอยให้คำแนะนำแก่ผู้ที่สนใจ รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อส่งเสริมสมาชิกและครอบครัวให้ประกอบกิจกรรมต่างๆร่วมกันซึ่งจะช่วยสานสัมพันธ์ในครอบครัวให้มีความเข้มแข็งด้วย
“ศูนย์กีฬาแห่งนี้ได้มาตรฐานสากลเทียบเท่ากับศูนย์กีฬาของภาคเอกชนที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ดังนั้น ผมจึงขออยากเชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาออกกำลังกาย หรือมาเล่นกีฬากันเยอะๆ เพื่อสุขภาพกาย ใจ ที่แข็งแรง”

สำหรับบริการของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ ประกอบด้วย การสอนกีฬาขั้นพื้นฐาน การจัดการแข่งขันกีฬา จัดกิจกรรมพิเศษตามความสนใจของสมาชิก จัดอบรมความรู้ด้านการกีฬา การออกกำลังกาย และวิทยาศาสตร์การกีฬา มีกิจกรรมเด่นคือ การฝึกสอนเรือใบ เรือคายัค เทนนิส ขี่จักรยานขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น. สามารถสมัครสมาชิกโดยเสียค่าสมาชิกเด็กอายุ 5-18 ปี ค่าสมาชิก 10 ต่อปี อายุ 19 ปีขึ้นไป ค่าสมาชิก 40 บาทต่อปี นอกจากนี้ ศูนย์กีฬาฯกำลังเปิดสอนการเล่นเทนนิสและว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน
สำหรับเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป หลักสูตร 3 เดือน เรียนวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา
10.00-15.00 น. สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2272-4844
เชื่อแน่ว่าทุกๆ คนก็คงจะเคยร้องเพลงเชียร์กีฬาเพลงนี้พร้อมกับเหล่าผองเพื่อนสมัยประถมฯ ยันมัธยมฯ จนถึงมหาวิทยาลัย ยามที่ต้องแข่งขันกีฬาสีประจำสถาบันของแต่ละคน และเมื่อผ่านพ้นวัยดังกล่าวคงเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคนที่อยากจะไปออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เหมือนสมัยที่ยังตัวกระเปี๊ยก เนื่องจากเหตุผลบางประการไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ออกกำลังกายที่อยู่ไกลบ้าน หรืออยู่ใกล้แต่มีราคาแพงด้วยค่าสมัครสมาชิกที่สูงลิ่วของศูนย์ออกกำลังกาย
....
แต่วันนี้ จะขอแนะนำสถานที่ออกกำลังกายที่อยู่ใกล้บ้าน กับบรรยากาศอันสุดแสนจะสบายท่ามกลางแมกไม้ สายน้ำ การเดินทางก็สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า นั้นก็คือ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ ศูนย์กีฬาแห่งใหม่ของชาวกทม.นั้นเอง
อนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) บอกว่า ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 30 ไร่ โดยได้รับการปรับปรุงและก่อสร้างมีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัย ได้มาตรฐานตามนโยบายของอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯให้ได้รับบริการที่ทันสมัย สะดวกสบาย สามารถเข้ารับบริการได้ทุกเพศ ทุกวัย อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
ทั้งนี้ ศูนย์กีฬาแห่งนี้ ประกอบด้วย สำนักงาน ห้องฟิตเนส ห้องฝึกโยคะ ห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา สระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร สนามเทนนิส 7 สนาม มีสนามกลาง(Center Court) 1 สนาม และสนามฟุตซอล 4 สนาม มีสนามกลาง(Center Court) 1 สนาม โดยสนามเทนนิส และสนามฟุตซอลที่ได้มาตรฐานจะเป็นสนามรองรับการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 ที่ กทม.เป็นเจ้าภาพซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 -29 สิงหาคม 2549 ที่จะถึงนี้อีกด้วย
ด้านผู้ว่าฯ อภิรักษ์ บอกว่า เป็นการนำนโยบายที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวกทม.มาสานต่อให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนโดยจะให้ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ เป็นศูนย์กลางส่งเสริมการออกกำลังกาย เล่นกีฬา สำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชนทุกเพศทุกวัย และคนพิการ และเป็นศูนย์กีฬาต้นแบบที่จะมีการปรับปรุงก่อสร้างกระจายไปตามที่ต่างๆของกทม. เพื่อคนกทม.ทุกคนรวมทั้งคนต่างจังหวัดที่เข้ามาอาศัยในกทม.จะได้รับบริการที่ดีเป็นที่พึงพอใจของทุกคนในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีสนามกีฬา วัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและทันสมัยแล้ว ยังมีวิทยากรหรือผู้ฝึกสอนคอยให้คำแนะนำแก่ผู้ที่สนใจ รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อส่งเสริมสมาชิกและครอบครัวให้ประกอบกิจกรรมต่างๆร่วมกันซึ่งจะช่วยสานสัมพันธ์ในครอบครัวให้มีความเข้มแข็งด้วย
“ศูนย์กีฬาแห่งนี้ได้มาตรฐานสากลเทียบเท่ากับศูนย์กีฬาของภาคเอกชนที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ดังนั้น ผมจึงขออยากเชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาออกกำลังกาย หรือมาเล่นกีฬากันเยอะๆ เพื่อสุขภาพกาย ใจ ที่แข็งแรง”
สำหรับบริการของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ ประกอบด้วย การสอนกีฬาขั้นพื้นฐาน การจัดการแข่งขันกีฬา จัดกิจกรรมพิเศษตามความสนใจของสมาชิก จัดอบรมความรู้ด้านการกีฬา การออกกำลังกาย และวิทยาศาสตร์การกีฬา มีกิจกรรมเด่นคือ การฝึกสอนเรือใบ เรือคายัค เทนนิส ขี่จักรยานขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น. สามารถสมัครสมาชิกโดยเสียค่าสมาชิกเด็กอายุ 5-18 ปี ค่าสมาชิก 10 ต่อปี อายุ 19 ปีขึ้นไป ค่าสมาชิก 40 บาทต่อปี นอกจากนี้ ศูนย์กีฬาฯกำลังเปิดสอนการเล่นเทนนิสและว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน
สำหรับเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป หลักสูตร 3 เดือน เรียนวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา
10.00-15.00 น. สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2272-4844
คู่มือการใช้บริการ |
ค่าบริการ กิจกรรมทุกอย่างให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้น ว่ายน้ำ 1 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 15 บาท เด็กอายุไม่เกิน 18 ปี 5 บาท เทนนิส 35 บาท/ชม. ประเภทกีฬาและกิจกรรมกีฬาที่เปิดให้บริการ oเทนนิส-เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น. อัตราค่าบริการ 35 บาท/ชม. oว่ายน้ำ-เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ผู้ใหญ่ 15 บาท เด็กอายุไม่เกิน 18 ปี 5 บาท oเปตอง-เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ไม่เสียค่าบริการ oบาสเกตบอล-เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ไม่เสียค่าบริการ oเดิน/วิ่ง เพื่อสุขภาพ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04.30-21.00 น. oแอโรบิก-เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.30-18.30 น. เรือใบ-เปิดให้บริการวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น.ไม่เสียค่าบริการ oเรือคยัค-เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 15.30-18.00 น.ไม่เสียค่าบริการ oเซปักตระกร้อ-เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. รำกระบองชีวจิต-จัดกิจกรรมทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. oขี่จักรยานเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.30-21.00 น. ฟุตบอล เปิดให้บริการวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น. ไม่เสียค่าบริการ การจองสนาม สำหรับผู้ใช้บริการระหว่างเวลา 06.00-12.00 น. สามารถจองและเล่นได้เลยเมื่อมาถึง สำหรับผู้ใช้บริการระหว่างเวลา 12.00-20.00 น. เปิดให้จองเวลา 10.00 น. |