“เมื่อไหร่แฟนจะขอฉันแต่งงานสักที คบกันมานานแสนนานและรักกันเหมือนโลกนี้มีแต่เรา...แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ทีไหร่ก็เอาแต่นิ่ง เงียบทุกที ”
สาวๆ หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ถ้าเขาไม่ขอแต่งงาน สักวันเราคงจะโดนทิ้ง เป็นเพราะเราไม่ใช่ตัวจริงของเขาหรือมีข้อบกพร่องตรงไหน และถ้าไม่รีบแต่งคราวนี้สงสัยจะขึ้นคานแน่ๆ
หากสาวใดมีปัญหาคาใจเหล่านี้และทำให้กังวลใจมากมาย ลองมาฟัง “Trick ให้เขา Marry Me ซะที” ของโรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 พร้อมเคล็ดลับมัดใจชายหนุ่มให้รีบขอแต่งงาน จนถึงขนาดที่ว่า เจ้าชู้แค่ไหนก็ต้องยอมสยบกันดีกว่า
ผู้หญิงแบบไหนที่ “ขุนแผน” ยอมสยบ
คำถามแรกที่เกิดขึ้นก็คือ... ผู้หญิงที่ผู้ชายเลือกแต่งงานด้วยนั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
และจริงหรือไม่ที่พูดๆ กันว่า หากผู้ชายจะเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นภรรยา คู่ชีวิต เป็นแม่ให้ลูก ความสำคัญไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด หุ่นดีที่สุด หรือนิสัยดีที่สุด แต่เป็นผู้หญิงที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่เรื่องมาก จุกจิก อบอุ่น คุยกันรู้เรื่อง เข้าอกเข้าใจ มีความเป็นแม่บ้านอยู่บ้าง ถึงแม้จะทำอาหารไม่เป็นแต่ก็ตั้งใจเรียนรู้ รีดผ้าไม่เนี้ยบแต่ก็เต็มใจที่จะทำให้ มีความเข้าใจในพื้นฐาน ธรรมชาติของแฟนเป็นอย่างดี ฯลฯ
ณรงค์ นิลช่วงศรี วัย 63 ปี อดีตขุนแผนกลับใจซึ่งสารภาพว่า มีเมียมาครึ่งร้อยแต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง มีลูกทั้งหมด 4 คน บอกว่า เขาชอบผู้หญิงที่มีกิริยามารยาท ความเอื้ออาทร รวมทั้งมีวิธีการจัดการกับปัญหาได้อย่างนิ่มนวล ยืดหยุ่น น้ำขุ่นไว้ในใจน้ำใสไว้นอก ซึ่งวิธีปฏิบัตินั้นถือเป็นเสน่ห์ของผู้หญิงมากกว่าความสวยที่หน้าตา
“ผมไม่ได้เลือกผู้หญิงที่สวย รวย ฐานะชาติตระกูลดี แต่ดูที่เขาเข้ากับเราได้มากกว่า ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนก็มีดีมีด้อยคนละแบบ แต่ง่ายไปผมก็ไม่เอา ยากเกินไป วิเศษมากมายแค่ไหนก็ไม่เอา แค่เรารับเขาได้และเรารับเขาได้ก็พอ”
ขณะที่ภูวศักดิ์ สุขศิริอารี วัย 38 ปี อดีตขุนแผนซึ่งปัจจุบันมีภรรยาถึง 3 คน มีลูก 7 คน โดยเป็นไปตามหลักศาสนาอิสลามบอกว่า ในศาสนาอิสลามการมีภรรยาหลายคนไม่ใช่เรื่องแปลก หากแต่ต้องมีความสามารถในการดูแลทั้งกายและใจของภรรยาแต่ละคนให้มีความสุขอย่างเท่าเทียมกันได้ ซึ่งผู้หญิงที่แต่งงานด้วยก็จะสอดคล้องกับหลักการเลือกคู่ครองกับหลักศาสนา เช่น เลือกคนที่เป็นคนดีมีคุณธรรมเป็นมุสลิมเป็นอันดับแรก นอกจากนั้นฐานะหน้าตาชาติตระกูลถ้ามีครบก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร
“ผู้หญิงที่เลือกจะเป็นคนที่ไม่ใช่จะเอาแต่ชนะ ผมจะดูว่าคนไหนสามารถที่จะประคับประคองชีวิตคู่ให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นได้ ไม่ใช่เอาแต่จับผิดผู้ชาย ถ้าผู้ชายผิดจริงก็ให้คุยกันดี ๆให้เกียรติแก่กันและไม่ชอบที่สุดคือการไม่เคารพไม่ให้เกียรติกัน ตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่น การเปิดดูกระเป๋าสตางค์หรือเช็กเบอร์โทรการเข้าออกโทรศัพท์มือถือ”
“คนที่เลือกที่จะอยู่ด้วยคือ คนที่อยู่ด้วยแล้วเกิดความสบายใจ ให้เกียรติกัน การที่เราวิ่งตามเขา เขาก็จะวิ่งหนีเรา อันนี้มันเหนื่อย แต่ถ้าเราหยุดมองเขา แล้วเขาก็หยุดมองเรา อันนี้ก็ดี หรือถ้าเราวิ่งหนีเขา เขาก็จะวิ่งตามเรา ส่วนเสน่ห์ของผู้หญิงนั้น อยู่ที่การเป็นคนที่เข้าใจ เข้าถึง และยอมรับในความเป็นตัวตนของผู้ชายได้ มากกว่าความสวยที่หน้าตา”ภูวศักดิ์ให้ความเห็นในทัศนะของตัวเอง
ทั้งๆ ที่ “ใช่” แต่ทำไมไม่แต่งซะที
คำถามที่สองที่ตามมาก็คือ จริงหรือไม่ว่า สิ่งที่ผู้ชายกลัวมากที่สุด และมักไม่ยอมตัดสินใจแต่งงาน คือ พันธะและภาระ
นพ.สันติภาพ ไชยวงศ์เกียรติ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 ขยายความให้สาวๆ เข้าใจว่า สาเหตุที่ผู้ชายไม่อยากมีพันธะและไม่อยากมีความผูกผันไปชั่วชีวิตเป็นเพราะกลัวว่าต่อไปในอนาคตอาจจะไปเจอผู้หญิงที่สวยกว่า ดีกว่า และไม่อยากเจอ “ไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น” รวมทั้งไม่อยากรับภาระผิดชอบชีวิตของผู้หญิงซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
“ลูกชายผมอยู่กับแฟนมาเป็น 10 ปี ยังไม่ได้แต่งงาน โดยให้เหตุผลว่าอยู่อย่างนี้ก็สบายดี ยังรักอิสระ อยากใช้เงินที่หามาได้คนเดียว ไปเที่ยว พักผ่อน อยากซื้ออะไรก็ซื้อ กินอะไรก็กิน ซึ่งวิถีชีวิตหนุ่มสาวทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปเป็นวิถีชีวิตแนวใหม่ที่เรียกว่า Back to Bed พอเรียนจบก็กลับมาบ้านมาอยู่กับแม่ กลับมาสู่วิถีชีวิตเดิมๆ ซึ่งแม่ทำให้ทุกอย่างไม่ว่าจะซักผ้า หุงข้าว ขอเงินใช้ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ดูแลเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ใช่ไม่อยากมีแฟน ผู้หญิงที่คบด้วยก็เหมือนเข้ามาช่วยแม่ล้างจาน ทำกับข้าวโดยไม่ต้องรับภาระใดๆ จะเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งหากจะแต่งงานส่วนมากก็มาจากแรงผลักดันจากภายนอกทั้งแฟน พ่อแม่ ครอบครัว”
นพ.สันติภาพบอกอีกว่า ปัจจัยสำคัญในการเลือกผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่อยู่ตรงที่การผู้หญิงคนนั้นรวย สวย หรือฐานะชาติตระกูลดี แต่ต้องเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่ที่ดีของลูก สามารถเลี้ยงลูกของเราได้ดี เมื่อมีลูกผู้หญิงไม่จำเป็นต้องทำงานเลยขอให้รักลูกดูแลครอบครัวให้ดีก็เพียงพอแล้ว นอกจากนั้นก็อาจต้องเข้าใจกันมีรสนิยมใกล้เคียงกัน ส่วนหน้าตาไม่มีปัญหา สำคัญที่นิสัยดีเป็นพอ
ทั้งนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่จะอยากแต่งงานอายุประมาณ 30-35 ปี เพราะเป็นจังหวะชีวิตที่สมควรจะมีทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูลได้แล้ว
ด้าน วุฒิพันธ์ ศุภจัตุรัส ผู้จัดการฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 เสริมว่า ผู้ชายกลัวการแต่งงานอยู่ 2 อย่าง คือ กลัวชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปมากและกลัวจะดูแลผู้หญิงไม่ได้ พร้อมกับมีความรู้สึกว่าบางครั้งตัวเราเองยังดูแลตัวเองได้ไม่ดีพอ ทำให้หากจะต้องแต่งงานคงจะต้องคิดนาน และหากเราเลือกแล้วคู่ของเราเพียงแค่อยู่ด้วยความเข้าใจ ปรึกษาหารือได้ทุกเรื่องสำคัญมากกว่าสิ่งใดๆ ทั้งหมด
เคล็ดมัดใจชายให้ขอแต่งงาน
ส่วนเคล็ดลับมัดใจชายหนุ่มให้รีบขอแต่งงานนั้นขึ้นอยู่กับผู้หญิงแต่ละคนเป็นสำคัญ
สมบัติ บำรุงแนะว่า ผู้หญิงต้องรู้จักเอาอกเอาใจ รู้จักใช้เสน่ห์ปลายจวัก ทั้งสามีและแม่สามี ซึ่งวิธีการมัดใจแม่สามีเคล็ดลับง่ายๆ ก็คือการจริงใจ การแสดงออกนุ่นนวล อ่อนโยน ให้ความเคารพอย่างจริงใจซึ่งจะแสดงออกมาทางสายตาผู้ใหญ่จะดูออก รวมถึงกิริยามารยาทสมเป็นกุลสตรี
นอกจากนี้ ผู้หญิงจะดูมีค่าในสายตาของเขา หากทำให้เขารู้สึกว่ายาก แต่ก็ไม่ควรเล่นตัวมากจนเกินไป ควรมีหยอดบ้าง เช่น เขาชวนออกไปข้างนอก ก็อาจจะบอกว่าขอโทษวันนี้งานยุ่งมาก ขอเป็นวันหลังแล้วกัน แต่ไม่ต้องสัญญาว่าจะเป็นเมื่อไหร่
ส่วนเขาจะขอแต่งงานหรือไม่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ให้ถามไปตรงๆ พูดคุยกันด้วยเหตุและผลไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง เช่น ควรบอกกับเขาว่า “เราก็คบกันมานาน เราจะเอายังไงกับอนาคตดี เพราะหนูเป็นผู้หญิง เป็นฝ่ายเสียเปรียบ อยากให้เขาทำให้เรามีศักดิ์ศรี มีหลักประกันอะไรบ้างให้เราไม่เสียชื่อเสียง ไม่โดนชาวบ้านนินทา พ่อแม่หนูเป็นห่วง อยากเห็นหนูเป็นฝั่งเป็นฝา เราอาจจะแค่จดทะเบียนกันหรือทำบุญตักบาตร หรือทำอะไรนิดหน่อยภายในครอบครัวบ้าง”
...อ่านแล้วเห็นด้วยหรือไม่ ก็คงต้องลองพิจารณากันเอาเองก็แล้วกัน
สาวๆ หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ถ้าเขาไม่ขอแต่งงาน สักวันเราคงจะโดนทิ้ง เป็นเพราะเราไม่ใช่ตัวจริงของเขาหรือมีข้อบกพร่องตรงไหน และถ้าไม่รีบแต่งคราวนี้สงสัยจะขึ้นคานแน่ๆ
หากสาวใดมีปัญหาคาใจเหล่านี้และทำให้กังวลใจมากมาย ลองมาฟัง “Trick ให้เขา Marry Me ซะที” ของโรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 พร้อมเคล็ดลับมัดใจชายหนุ่มให้รีบขอแต่งงาน จนถึงขนาดที่ว่า เจ้าชู้แค่ไหนก็ต้องยอมสยบกันดีกว่า
ผู้หญิงแบบไหนที่ “ขุนแผน” ยอมสยบ
คำถามแรกที่เกิดขึ้นก็คือ... ผู้หญิงที่ผู้ชายเลือกแต่งงานด้วยนั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
และจริงหรือไม่ที่พูดๆ กันว่า หากผู้ชายจะเลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นภรรยา คู่ชีวิต เป็นแม่ให้ลูก ความสำคัญไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด หุ่นดีที่สุด หรือนิสัยดีที่สุด แต่เป็นผู้หญิงที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่เรื่องมาก จุกจิก อบอุ่น คุยกันรู้เรื่อง เข้าอกเข้าใจ มีความเป็นแม่บ้านอยู่บ้าง ถึงแม้จะทำอาหารไม่เป็นแต่ก็ตั้งใจเรียนรู้ รีดผ้าไม่เนี้ยบแต่ก็เต็มใจที่จะทำให้ มีความเข้าใจในพื้นฐาน ธรรมชาติของแฟนเป็นอย่างดี ฯลฯ
ณรงค์ นิลช่วงศรี วัย 63 ปี อดีตขุนแผนกลับใจซึ่งสารภาพว่า มีเมียมาครึ่งร้อยแต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง มีลูกทั้งหมด 4 คน บอกว่า เขาชอบผู้หญิงที่มีกิริยามารยาท ความเอื้ออาทร รวมทั้งมีวิธีการจัดการกับปัญหาได้อย่างนิ่มนวล ยืดหยุ่น น้ำขุ่นไว้ในใจน้ำใสไว้นอก ซึ่งวิธีปฏิบัตินั้นถือเป็นเสน่ห์ของผู้หญิงมากกว่าความสวยที่หน้าตา
“ผมไม่ได้เลือกผู้หญิงที่สวย รวย ฐานะชาติตระกูลดี แต่ดูที่เขาเข้ากับเราได้มากกว่า ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนก็มีดีมีด้อยคนละแบบ แต่ง่ายไปผมก็ไม่เอา ยากเกินไป วิเศษมากมายแค่ไหนก็ไม่เอา แค่เรารับเขาได้และเรารับเขาได้ก็พอ”
ขณะที่ภูวศักดิ์ สุขศิริอารี วัย 38 ปี อดีตขุนแผนซึ่งปัจจุบันมีภรรยาถึง 3 คน มีลูก 7 คน โดยเป็นไปตามหลักศาสนาอิสลามบอกว่า ในศาสนาอิสลามการมีภรรยาหลายคนไม่ใช่เรื่องแปลก หากแต่ต้องมีความสามารถในการดูแลทั้งกายและใจของภรรยาแต่ละคนให้มีความสุขอย่างเท่าเทียมกันได้ ซึ่งผู้หญิงที่แต่งงานด้วยก็จะสอดคล้องกับหลักการเลือกคู่ครองกับหลักศาสนา เช่น เลือกคนที่เป็นคนดีมีคุณธรรมเป็นมุสลิมเป็นอันดับแรก นอกจากนั้นฐานะหน้าตาชาติตระกูลถ้ามีครบก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร
“ผู้หญิงที่เลือกจะเป็นคนที่ไม่ใช่จะเอาแต่ชนะ ผมจะดูว่าคนไหนสามารถที่จะประคับประคองชีวิตคู่ให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นได้ ไม่ใช่เอาแต่จับผิดผู้ชาย ถ้าผู้ชายผิดจริงก็ให้คุยกันดี ๆให้เกียรติแก่กันและไม่ชอบที่สุดคือการไม่เคารพไม่ให้เกียรติกัน ตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่น การเปิดดูกระเป๋าสตางค์หรือเช็กเบอร์โทรการเข้าออกโทรศัพท์มือถือ”
“คนที่เลือกที่จะอยู่ด้วยคือ คนที่อยู่ด้วยแล้วเกิดความสบายใจ ให้เกียรติกัน การที่เราวิ่งตามเขา เขาก็จะวิ่งหนีเรา อันนี้มันเหนื่อย แต่ถ้าเราหยุดมองเขา แล้วเขาก็หยุดมองเรา อันนี้ก็ดี หรือถ้าเราวิ่งหนีเขา เขาก็จะวิ่งตามเรา ส่วนเสน่ห์ของผู้หญิงนั้น อยู่ที่การเป็นคนที่เข้าใจ เข้าถึง และยอมรับในความเป็นตัวตนของผู้ชายได้ มากกว่าความสวยที่หน้าตา”ภูวศักดิ์ให้ความเห็นในทัศนะของตัวเอง
ทั้งๆ ที่ “ใช่” แต่ทำไมไม่แต่งซะที
คำถามที่สองที่ตามมาก็คือ จริงหรือไม่ว่า สิ่งที่ผู้ชายกลัวมากที่สุด และมักไม่ยอมตัดสินใจแต่งงาน คือ พันธะและภาระ
นพ.สันติภาพ ไชยวงศ์เกียรติ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 ขยายความให้สาวๆ เข้าใจว่า สาเหตุที่ผู้ชายไม่อยากมีพันธะและไม่อยากมีความผูกผันไปชั่วชีวิตเป็นเพราะกลัวว่าต่อไปในอนาคตอาจจะไปเจอผู้หญิงที่สวยกว่า ดีกว่า และไม่อยากเจอ “ไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น” รวมทั้งไม่อยากรับภาระผิดชอบชีวิตของผู้หญิงซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
“ลูกชายผมอยู่กับแฟนมาเป็น 10 ปี ยังไม่ได้แต่งงาน โดยให้เหตุผลว่าอยู่อย่างนี้ก็สบายดี ยังรักอิสระ อยากใช้เงินที่หามาได้คนเดียว ไปเที่ยว พักผ่อน อยากซื้ออะไรก็ซื้อ กินอะไรก็กิน ซึ่งวิถีชีวิตหนุ่มสาวทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปเป็นวิถีชีวิตแนวใหม่ที่เรียกว่า Back to Bed พอเรียนจบก็กลับมาบ้านมาอยู่กับแม่ กลับมาสู่วิถีชีวิตเดิมๆ ซึ่งแม่ทำให้ทุกอย่างไม่ว่าจะซักผ้า หุงข้าว ขอเงินใช้ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ดูแลเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ใช่ไม่อยากมีแฟน ผู้หญิงที่คบด้วยก็เหมือนเข้ามาช่วยแม่ล้างจาน ทำกับข้าวโดยไม่ต้องรับภาระใดๆ จะเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งหากจะแต่งงานส่วนมากก็มาจากแรงผลักดันจากภายนอกทั้งแฟน พ่อแม่ ครอบครัว”
นพ.สันติภาพบอกอีกว่า ปัจจัยสำคัญในการเลือกผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่อยู่ตรงที่การผู้หญิงคนนั้นรวย สวย หรือฐานะชาติตระกูลดี แต่ต้องเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่ที่ดีของลูก สามารถเลี้ยงลูกของเราได้ดี เมื่อมีลูกผู้หญิงไม่จำเป็นต้องทำงานเลยขอให้รักลูกดูแลครอบครัวให้ดีก็เพียงพอแล้ว นอกจากนั้นก็อาจต้องเข้าใจกันมีรสนิยมใกล้เคียงกัน ส่วนหน้าตาไม่มีปัญหา สำคัญที่นิสัยดีเป็นพอ
ทั้งนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่จะอยากแต่งงานอายุประมาณ 30-35 ปี เพราะเป็นจังหวะชีวิตที่สมควรจะมีทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูลได้แล้ว
ด้าน วุฒิพันธ์ ศุภจัตุรัส ผู้จัดการฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 เสริมว่า ผู้ชายกลัวการแต่งงานอยู่ 2 อย่าง คือ กลัวชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปมากและกลัวจะดูแลผู้หญิงไม่ได้ พร้อมกับมีความรู้สึกว่าบางครั้งตัวเราเองยังดูแลตัวเองได้ไม่ดีพอ ทำให้หากจะต้องแต่งงานคงจะต้องคิดนาน และหากเราเลือกแล้วคู่ของเราเพียงแค่อยู่ด้วยความเข้าใจ ปรึกษาหารือได้ทุกเรื่องสำคัญมากกว่าสิ่งใดๆ ทั้งหมด
เคล็ดมัดใจชายให้ขอแต่งงาน
ส่วนเคล็ดลับมัดใจชายหนุ่มให้รีบขอแต่งงานนั้นขึ้นอยู่กับผู้หญิงแต่ละคนเป็นสำคัญ
สมบัติ บำรุงแนะว่า ผู้หญิงต้องรู้จักเอาอกเอาใจ รู้จักใช้เสน่ห์ปลายจวัก ทั้งสามีและแม่สามี ซึ่งวิธีการมัดใจแม่สามีเคล็ดลับง่ายๆ ก็คือการจริงใจ การแสดงออกนุ่นนวล อ่อนโยน ให้ความเคารพอย่างจริงใจซึ่งจะแสดงออกมาทางสายตาผู้ใหญ่จะดูออก รวมถึงกิริยามารยาทสมเป็นกุลสตรี
นอกจากนี้ ผู้หญิงจะดูมีค่าในสายตาของเขา หากทำให้เขารู้สึกว่ายาก แต่ก็ไม่ควรเล่นตัวมากจนเกินไป ควรมีหยอดบ้าง เช่น เขาชวนออกไปข้างนอก ก็อาจจะบอกว่าขอโทษวันนี้งานยุ่งมาก ขอเป็นวันหลังแล้วกัน แต่ไม่ต้องสัญญาว่าจะเป็นเมื่อไหร่
ส่วนเขาจะขอแต่งงานหรือไม่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ให้ถามไปตรงๆ พูดคุยกันด้วยเหตุและผลไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง เช่น ควรบอกกับเขาว่า “เราก็คบกันมานาน เราจะเอายังไงกับอนาคตดี เพราะหนูเป็นผู้หญิง เป็นฝ่ายเสียเปรียบ อยากให้เขาทำให้เรามีศักดิ์ศรี มีหลักประกันอะไรบ้างให้เราไม่เสียชื่อเสียง ไม่โดนชาวบ้านนินทา พ่อแม่หนูเป็นห่วง อยากเห็นหนูเป็นฝั่งเป็นฝา เราอาจจะแค่จดทะเบียนกันหรือทำบุญตักบาตร หรือทำอะไรนิดหน่อยภายในครอบครัวบ้าง”
...อ่านแล้วเห็นด้วยหรือไม่ ก็คงต้องลองพิจารณากันเอาเองก็แล้วกัน
