ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังฝรั่งเศส ยืนยันแมงกระดานถ้ำ จ.สระบุรี เป็นชนิดใหม่ของโลก มีลักษณะคล้ายตะขาบผสมกั้ง ตั้งชื่อ “แมงกระดานถ้ำโมงนาที” เป็นเกียรติแก่กำนันสมควร โมงนาที ผู้ริเริ่มอย่างจริงจังในการอนุรักษ์เขาหินปูนเขาพระพุทธบาทน้อย
นายบุญมี สรรพคุณ หัวหน้าศูนย์ศึกษาและพัฒนาวนศาสตร์ชุมชนที่ 1 (สระบุรี) สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนายนณณ์ ผาณิตวงศ์ นักวิชาการอิสระ และชาวบ้านในพื้นที่รวม 5 คน ได้เข้าไปสำรวจถ้ำน้ำเขาพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และได้บังเอิญพบแมงที่มีลักษณะแปลก ๆ อาศัยอยู่บนผิวน้ำภายในถ้ำดังกล่าว จากนั้นจึงได้เก็บตัวอย่าง ส่งให้กับ ศ.ไพบูลย์ นัยเนตร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วยตรวจสอบเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานและจัดส่งตัวอย่างให้ ดร.กาย แมกนีส ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในถ้ำของประเทศฝรั่งเศส ช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ล่าสุด เพิ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นแมงกระดานถ้ำชนิดใหม่ของโลก ทั้งนี้ ได้ตีพิมพ์รายงานการค้นพบในวารสาร subterranean biology ฉบับเดือนเมษายน 2549 พร้อมทั้งได้ตั้งชื่อว่า “แมงกระดานถ้ำโมงนาที” เพื่อเป็นเกียรติแก่กำนันสมควร โมงนาที ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มอย่างจริงจังในการอนุรักษ์เขาหินปูนเขาพระพุทธบาทน้อย
“แมงกระดานถ้ำที่พบในจังหวัดสระบุรี เป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก สกุล Stenasellus มีความโดดเด่นและไม่เหมือนกับแมงกระดานถ้ำที่เคยมีรายงานการค้นพบในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคใต้ของไทย โดยจะมีลักษณะคล้ายตะขาบผสมกั้ง ความยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าตัวใหญ่กว่าแมงกระดานถ้ำที่เคยพบมาก่อนทั้ง 5 ชนิดในเมืองไทย โดยพบว่าเมื่ออยู่ในน้ำแมงดังกล่าวลำตัวจะมีสีขาวขุ่น แต่เมื่อจับขึ้นมาพ้นน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มทันที นอกจากนี้ ที่ด้านหางจะมีระยางยืดออกมา มีขา 6 คู่” นายบุญมี กล่าว
นายบุญมี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้กรมป่าไม้รับทราบแล้ว เพื่อได้หามาตรการดูแลไม่ให้สัตว์ชนิดนี้สูญพันธุ์ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ต้องอยู่ในน้ำที่สะอาดภายในถ้ำเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงสภาพ และระบบนิเวศอาจจะกระทบกับสัตว์ได้ พร้อมทั้งเตรียมเสนอตั้งสถานีสำรวจและศึกษาระบบนิเวศเขาพระพุทธบาทน้อย เพื่อเตรียมสำรวจหาสัตว์และพืชพันธุ์ไม้ในเขาหินปูนลูกนี้อย่างละเอียดอีกด้วย รวมทั้งต้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาถ้ำน้ำแห่งนี้มากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ก็เป็นห่วงว่าถ้ามีคนรู้ข่าวแล้วอาจจะพาไปดูของจริงหรือมีการนำสัตว์ออกมาจากถ้ำก็ได้
“ภูเขาหินปูนในพื้นที่ อ.แก่งคอย มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียระบบนิเวศอย่างมาก เนื่องจากมีการให้สัมปทานระเบิดหินไปเกือบหมด เหลือเพียงเขาพระพุทธบาทน้อย ที่ชาวบ้านรอบภูเขาได้ร่วมกันดูแลอย่างเข้มแข็ง จนทำให้มีรายงานการพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ๆ มากมาย เช่น นกจู๋เต้นเขาหินปูนพันธุ์สระบุรี สัตว์เฉพาะถิ่นจำพวกตุ๊กแกตาเขียว หอยทากจิ๋ว เลียงผา เป็นต้น”
นายบุญมี สรรพคุณ หัวหน้าศูนย์ศึกษาและพัฒนาวนศาสตร์ชุมชนที่ 1 (สระบุรี) สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนายนณณ์ ผาณิตวงศ์ นักวิชาการอิสระ และชาวบ้านในพื้นที่รวม 5 คน ได้เข้าไปสำรวจถ้ำน้ำเขาพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และได้บังเอิญพบแมงที่มีลักษณะแปลก ๆ อาศัยอยู่บนผิวน้ำภายในถ้ำดังกล่าว จากนั้นจึงได้เก็บตัวอย่าง ส่งให้กับ ศ.ไพบูลย์ นัยเนตร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วยตรวจสอบเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานและจัดส่งตัวอย่างให้ ดร.กาย แมกนีส ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในถ้ำของประเทศฝรั่งเศส ช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ล่าสุด เพิ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นแมงกระดานถ้ำชนิดใหม่ของโลก ทั้งนี้ ได้ตีพิมพ์รายงานการค้นพบในวารสาร subterranean biology ฉบับเดือนเมษายน 2549 พร้อมทั้งได้ตั้งชื่อว่า “แมงกระดานถ้ำโมงนาที” เพื่อเป็นเกียรติแก่กำนันสมควร โมงนาที ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มอย่างจริงจังในการอนุรักษ์เขาหินปูนเขาพระพุทธบาทน้อย
“แมงกระดานถ้ำที่พบในจังหวัดสระบุรี เป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก สกุล Stenasellus มีความโดดเด่นและไม่เหมือนกับแมงกระดานถ้ำที่เคยมีรายงานการค้นพบในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคใต้ของไทย โดยจะมีลักษณะคล้ายตะขาบผสมกั้ง ความยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าตัวใหญ่กว่าแมงกระดานถ้ำที่เคยพบมาก่อนทั้ง 5 ชนิดในเมืองไทย โดยพบว่าเมื่ออยู่ในน้ำแมงดังกล่าวลำตัวจะมีสีขาวขุ่น แต่เมื่อจับขึ้นมาพ้นน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มทันที นอกจากนี้ ที่ด้านหางจะมีระยางยืดออกมา มีขา 6 คู่” นายบุญมี กล่าว
นายบุญมี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้กรมป่าไม้รับทราบแล้ว เพื่อได้หามาตรการดูแลไม่ให้สัตว์ชนิดนี้สูญพันธุ์ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ต้องอยู่ในน้ำที่สะอาดภายในถ้ำเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงสภาพ และระบบนิเวศอาจจะกระทบกับสัตว์ได้ พร้อมทั้งเตรียมเสนอตั้งสถานีสำรวจและศึกษาระบบนิเวศเขาพระพุทธบาทน้อย เพื่อเตรียมสำรวจหาสัตว์และพืชพันธุ์ไม้ในเขาหินปูนลูกนี้อย่างละเอียดอีกด้วย รวมทั้งต้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาถ้ำน้ำแห่งนี้มากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ก็เป็นห่วงว่าถ้ามีคนรู้ข่าวแล้วอาจจะพาไปดูของจริงหรือมีการนำสัตว์ออกมาจากถ้ำก็ได้
“ภูเขาหินปูนในพื้นที่ อ.แก่งคอย มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียระบบนิเวศอย่างมาก เนื่องจากมีการให้สัมปทานระเบิดหินไปเกือบหมด เหลือเพียงเขาพระพุทธบาทน้อย ที่ชาวบ้านรอบภูเขาได้ร่วมกันดูแลอย่างเข้มแข็ง จนทำให้มีรายงานการพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ๆ มากมาย เช่น นกจู๋เต้นเขาหินปูนพันธุ์สระบุรี สัตว์เฉพาะถิ่นจำพวกตุ๊กแกตาเขียว หอยทากจิ๋ว เลียงผา เป็นต้น”