“สุรเกียรติ์” เป็นประธานพิธีบวงสรวงและขอขมาองค์ท้าวมหาพรหม ถือฤกษ์เวลา 15.59 น. พระราชครูวามเทพมุนีให้ เสนอแนะย่อยองค์ท้าวมหาพรหมเดิมเป็นเม็ดทรายเล็ก ๆ เป็นอณูเดียวกันเพิ่มพลังและระลึกถึงความดีขององค์ท้าวมหาพรหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.59 น. วันนี้ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้จัดพิธีบวงสรวงและขอขมาต่อองค์ท้าวมหาพรหมที่สำนักช่างสิบหมู่ จังหวัดนครปฐม โดยมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีพระราชครูวามเทพมุนี เป็นผู้นำประกอบพิธี พร้อมทั้งมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรม อาทิ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และ นายอารัก สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร ผู้แทนจาก มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ และข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมในการประกอบพิธีครั้งนี้
หลังจากบวงสรวงแล้ว ได้นำช่างสิบหมู่ประมาณ 30 คน ประกอบด้วย ช่างเขียน ช่างไม้ประณีต ช่างแกะสลัก ช่างมุก ช่างลายรดน้ำ ช่างโลหะ ช่างปั้นหล่อหุ่นและลาย ช่างกระจกและช่างปิดทอง ช่างประณีตศิลป์ และช่างศิราภรณ์ ช่างพุทธศิลปสถาปัตย์ เข้าขอขมาต่อชิ้นส่วนองค์ท้าวมหาพรหม ซึ่งถูกห่อไว้ในผ้าทอง 4 ห่อ และฐานถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาว ก่อนจะเริ่มลงมือบูรณะปฏิสังขรณ์ ทั้งนี้ พระราชครูวามเทพมุนี ได้กล่าวขออนุญาตถอดพิมพ์องค์ท้าวมหาพรหมและขออนุญาตเททองหล่อองค์ใหม่ โดยขอพรให้กับช่างทุกคนดำเนินงานโดยสำเร็จทุกประการ
พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวว่า ได้เสนอแนะกับผู้จัดทำองค์ท้าวมหาพรหมไปว่าควรย่อยองค์เดิมให้เป็นเม็ดทรายอณูเล็ก ๆ และใส่ภาชนะอันหนึ่งแล้วใส่ในองค์ใหม่ที่หล่อขึ้น ซึ่งต้องถามมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่และรับผิดชอบดูแลโดยเฉพาะ การที่ตนเสนอให้ย่อยองค์เดิมเป็นเม็ดทรายตามหลักศาสนาพราหมณ์นั้น การที่จะเอารูปท่านท้าวมหาพรหมเข้าไปอยู่ในรูปใหญ่ก็ควรย่อยให้เป็นเม็ดทรายอณูเล็ก ๆ ก่อน เปรียบเสมือนเรามีกระแสความดีของท่านท้าวมหาพรหม ตั้งแต่สมัยโบราณได้ก่อตั้งมาและประชาชนได้กราบไหว้บูชาจะอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม
“พลังงาน หรืออณู หรือความดีทั้งหลาย ก็จะแผ่ออกมาในรูปที่เราเทหล่อใหม่ จะเป็นสัญลักษณ์ระลึกถึงความดีที่เรามีอยู่ ที่จะย่อยก็จะนำทุกชิ้นมาย่อยให้เป็นเม็ดทรายทั้งหมดเลย มูลนิธิจะเป็นผู้ให้รายละเอียดได้ทั้งหมด แต่โดยวิธีการเราทำงานก็เสนอแนะไว้ว่าควรจะทำอย่างนี้ เพราะเราจะไม่ใส่ชิ้นส่วนเป็นชิ้นไปไว้ในนั้น แต่จะเป็นอณูเดียวกันหมด เป็นกระแสเดียวกันหมด” พระราชครูวามเทพมุนี กล่าว
นายธนชัย สุวรรณวัฒนะ ผู้อำนวยการช่างสิบหมู่ กล่าวว่า ขั้นตอนแรกของการบูรณะจะต้องขึ้นหุ่นเพื่อถอดพิมพ์ต้นแบบ ส่วนเนื้อองค์นั้นจะเป็นนวโลหะ แต่ส่วนผสมของวัสดุ 9 อย่าง จะเป็นอย่างไร เราได้ให้พระราชครูวามเทพมุนี เป็นผู้ผสมเนื้อนวโลหะ หากจะให้องค์เป็นเนื้อสุกสว่างก็จะต้องมีเนื้อทองคำมาก
นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้กล่าวภายหลังประกอบพิธีถึงการดำเนินการสร้างองค์ท้าวมหาพรหมว่า จะทำการบูรณปฏิสังขรณ์ตามหลักของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ตามคำแนะนำของ พระราชครูวามเทพมุนี แห่งสำนักพราหมณ์ราชครู ในสำนักพระราชวัง โดยจะนำชิ้นส่วนของท้าวมหาพรหมองค์เดิมทั้งหมดมาย่อยแล้วนำไปบรรจุภายในฐานขององค์ใหม่ ส่วนพระเศียรจะนำไปบรรจุไว้ภายในพระอุระ โดยสาเหตุที่นำชิ้นส่วนเดิมมาบรรจุไว้ในองค์ใหม่ เนื่องจากตามหลักศาสนาพรหมเชื่อว่าเป็นการรักษาพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ไว้ดังเดิม
สำหรับขั้นตอนในการสร้างองค์ท้าวมหาพรหมจะทำการประกอบชื้นส่วนที่ชำรุดเข้าเป็นรูปร่างตามเดิม เพื่อทำเป็นแม่แบบพิมพ์ ซึ่งจะใช้เวลา 20 วัน หลังจากนั้นก็จะทำการหลอมนวโลหะ หรือโลหะมงคล ทั้ง 9 อย่าง ประกอบด้วย เหล็ก ทองคำ เงิน ทองแดง ปรอท สังกะสี ชิน หรือดีบุก จ้าวน้ำเงิน หรือพลวง และ แร่บริสุทธิ์ ก่อนทำการหลอองค์ใหม่ รวมถึงการลงรักปิดทองให้มีความสมบูรณ์ สวยงามดังเดิม ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ตามที่กำหนดอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นจะนำองค์ท้าวมหาพรหม องค์ใหม่ไปประดิษฐานที่ตั้งเดิม ณ แยกราชประสงค์ โรงแรมเอราวัณ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ อย่างไรก็ตามการดำเนินการสร้างองค์ท้าวมหาพรมจะมีการหารือในรายละเอียดของคณะกรรมการดำเนินการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ในการประกอบพิธีบวงสรวงองค์และพิธีขอขมาองค์ท้าวมหาพรหมครั้งนี้ได้มีผู้สื่อข่าวจาก หนังสือพิมพ์โอเรลทอล เดลินิวส์ ของ ฮ่องกง มาติดตามทำข่าว เนื่องจากชาวฮ่องกงจำนวนมากที่ศรัทธาในองค์ท้าวมหาพรหม ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องการทราบความคืบหน้าการบูรณะ เพราะในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเดินทางมาประเทศไทยเพื่อสักการะท้าวมหาพรหมปีละนับล้านคน หากแต่ในระยะนี้นักท่องเที่ยวได้พากันยกเลิกกำหนดการเดินทางดังกล่าวชั่วคราวจนกว่าการบูรณะท้าวมหาพรหมจะเสร็จสมบูรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.59 น. วันนี้ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้จัดพิธีบวงสรวงและขอขมาต่อองค์ท้าวมหาพรหมที่สำนักช่างสิบหมู่ จังหวัดนครปฐม โดยมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีพระราชครูวามเทพมุนี เป็นผู้นำประกอบพิธี พร้อมทั้งมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรม อาทิ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และ นายอารัก สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร ผู้แทนจาก มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ และข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมในการประกอบพิธีครั้งนี้
หลังจากบวงสรวงแล้ว ได้นำช่างสิบหมู่ประมาณ 30 คน ประกอบด้วย ช่างเขียน ช่างไม้ประณีต ช่างแกะสลัก ช่างมุก ช่างลายรดน้ำ ช่างโลหะ ช่างปั้นหล่อหุ่นและลาย ช่างกระจกและช่างปิดทอง ช่างประณีตศิลป์ และช่างศิราภรณ์ ช่างพุทธศิลปสถาปัตย์ เข้าขอขมาต่อชิ้นส่วนองค์ท้าวมหาพรหม ซึ่งถูกห่อไว้ในผ้าทอง 4 ห่อ และฐานถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาว ก่อนจะเริ่มลงมือบูรณะปฏิสังขรณ์ ทั้งนี้ พระราชครูวามเทพมุนี ได้กล่าวขออนุญาตถอดพิมพ์องค์ท้าวมหาพรหมและขออนุญาตเททองหล่อองค์ใหม่ โดยขอพรให้กับช่างทุกคนดำเนินงานโดยสำเร็จทุกประการ
พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวว่า ได้เสนอแนะกับผู้จัดทำองค์ท้าวมหาพรหมไปว่าควรย่อยองค์เดิมให้เป็นเม็ดทรายอณูเล็ก ๆ และใส่ภาชนะอันหนึ่งแล้วใส่ในองค์ใหม่ที่หล่อขึ้น ซึ่งต้องถามมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่และรับผิดชอบดูแลโดยเฉพาะ การที่ตนเสนอให้ย่อยองค์เดิมเป็นเม็ดทรายตามหลักศาสนาพราหมณ์นั้น การที่จะเอารูปท่านท้าวมหาพรหมเข้าไปอยู่ในรูปใหญ่ก็ควรย่อยให้เป็นเม็ดทรายอณูเล็ก ๆ ก่อน เปรียบเสมือนเรามีกระแสความดีของท่านท้าวมหาพรหม ตั้งแต่สมัยโบราณได้ก่อตั้งมาและประชาชนได้กราบไหว้บูชาจะอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม
“พลังงาน หรืออณู หรือความดีทั้งหลาย ก็จะแผ่ออกมาในรูปที่เราเทหล่อใหม่ จะเป็นสัญลักษณ์ระลึกถึงความดีที่เรามีอยู่ ที่จะย่อยก็จะนำทุกชิ้นมาย่อยให้เป็นเม็ดทรายทั้งหมดเลย มูลนิธิจะเป็นผู้ให้รายละเอียดได้ทั้งหมด แต่โดยวิธีการเราทำงานก็เสนอแนะไว้ว่าควรจะทำอย่างนี้ เพราะเราจะไม่ใส่ชิ้นส่วนเป็นชิ้นไปไว้ในนั้น แต่จะเป็นอณูเดียวกันหมด เป็นกระแสเดียวกันหมด” พระราชครูวามเทพมุนี กล่าว
นายธนชัย สุวรรณวัฒนะ ผู้อำนวยการช่างสิบหมู่ กล่าวว่า ขั้นตอนแรกของการบูรณะจะต้องขึ้นหุ่นเพื่อถอดพิมพ์ต้นแบบ ส่วนเนื้อองค์นั้นจะเป็นนวโลหะ แต่ส่วนผสมของวัสดุ 9 อย่าง จะเป็นอย่างไร เราได้ให้พระราชครูวามเทพมุนี เป็นผู้ผสมเนื้อนวโลหะ หากจะให้องค์เป็นเนื้อสุกสว่างก็จะต้องมีเนื้อทองคำมาก
นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้กล่าวภายหลังประกอบพิธีถึงการดำเนินการสร้างองค์ท้าวมหาพรหมว่า จะทำการบูรณปฏิสังขรณ์ตามหลักของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ตามคำแนะนำของ พระราชครูวามเทพมุนี แห่งสำนักพราหมณ์ราชครู ในสำนักพระราชวัง โดยจะนำชิ้นส่วนของท้าวมหาพรหมองค์เดิมทั้งหมดมาย่อยแล้วนำไปบรรจุภายในฐานขององค์ใหม่ ส่วนพระเศียรจะนำไปบรรจุไว้ภายในพระอุระ โดยสาเหตุที่นำชิ้นส่วนเดิมมาบรรจุไว้ในองค์ใหม่ เนื่องจากตามหลักศาสนาพรหมเชื่อว่าเป็นการรักษาพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ไว้ดังเดิม
สำหรับขั้นตอนในการสร้างองค์ท้าวมหาพรหมจะทำการประกอบชื้นส่วนที่ชำรุดเข้าเป็นรูปร่างตามเดิม เพื่อทำเป็นแม่แบบพิมพ์ ซึ่งจะใช้เวลา 20 วัน หลังจากนั้นก็จะทำการหลอมนวโลหะ หรือโลหะมงคล ทั้ง 9 อย่าง ประกอบด้วย เหล็ก ทองคำ เงิน ทองแดง ปรอท สังกะสี ชิน หรือดีบุก จ้าวน้ำเงิน หรือพลวง และ แร่บริสุทธิ์ ก่อนทำการหลอองค์ใหม่ รวมถึงการลงรักปิดทองให้มีความสมบูรณ์ สวยงามดังเดิม ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ตามที่กำหนดอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นจะนำองค์ท้าวมหาพรหม องค์ใหม่ไปประดิษฐานที่ตั้งเดิม ณ แยกราชประสงค์ โรงแรมเอราวัณ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ อย่างไรก็ตามการดำเนินการสร้างองค์ท้าวมหาพรมจะมีการหารือในรายละเอียดของคณะกรรมการดำเนินการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ในการประกอบพิธีบวงสรวงองค์และพิธีขอขมาองค์ท้าวมหาพรหมครั้งนี้ได้มีผู้สื่อข่าวจาก หนังสือพิมพ์โอเรลทอล เดลินิวส์ ของ ฮ่องกง มาติดตามทำข่าว เนื่องจากชาวฮ่องกงจำนวนมากที่ศรัทธาในองค์ท้าวมหาพรหม ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องการทราบความคืบหน้าการบูรณะ เพราะในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเดินทางมาประเทศไทยเพื่อสักการะท้าวมหาพรหมปีละนับล้านคน หากแต่ในระยะนี้นักท่องเที่ยวได้พากันยกเลิกกำหนดการเดินทางดังกล่าวชั่วคราวจนกว่าการบูรณะท้าวมหาพรหมจะเสร็จสมบูรณ์