การที่เด็ก ๆ จะต้องออกจากบ้านไปเข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลนั้น เปรียบเสมือนเป็นการเปิดโลกกว้าง ได้รู้จักผู้คนและประสบการณ์ใหม่ ๆ และเสริมสร้างพัฒนาการที่สำคัญหลายด้านให้แก่เด็กตัวน้อย ๆ เช่น พัฒนาการทางสังคม ภาษา ศิลปะ ดนตรี ให้เขาได้รับความสนุกสนานควบคู่ไปกับการเรียนรู้
คำถามก็คือ อะไรคือเกณฑ์การเลือกโรงเรียนอนุบาลในฝันในพ่อแม่ผู้ปกครองควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจ
อาจารย์สิริกุล กาญจนะโภคิน หรือครูเป็ด ครูใหญ่โรงเรียนอนุบาลเทพสนิท เอกมัยซอย 4 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เล่าว่า ลักษณะของโรงเรียนอนุบาลในฝันนั้น ที่สำคัญคือ จะต้องมีสภาพแวดล้อมเหมือนบ้าน สะอาด ปลอดภัย และมีเครื่องเล่นที่เหมาะสมกับวัย เพราะเมื่อเด็กเล็ก ๆ จะต้องจากบ้าน หรือห่างคุณพ่อ คุณแม่ เมื่อเข้าโรงเรียนแล้วก็ย่อมจะต้องการความรักความอบอุ่นจากคุณครูและบุคลากรต่าง ๆ ที่คอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
ก่อนที่จะเลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูกนั้น คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองควรจะพิจารณาถึงแนวทางการเรียนการสอน รวมไปถึงการพัฒนาทักษะและพัฒนาการเด็ก การดูแลของคุณครูและพี่เลี้ยง รวมทั้งค่าใช้จ่าย ว่าสอดคล้องกับความต้องการหรือไม่ ควรเลือกโรงเรียนที่ลูกอยู่แล้วมีความสุข และคุณครูเข้าใจถึงธรรมชาติของเด็กแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร คุณครูและตัวเด็กเองจะได้ช่วยกันดึงความสามารถของเขาออกมาใช้และพัฒนาได้เต็มตามศักยภา
ทั้งนี้ สิ่งที่เด็กวัยอนุบาลควรจะได้จากโรงเรียนก็คือการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ การใช้เหตุผล การแก้ปัญหา การเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี และการทำงานเป็นกลุ่ม พัฒนาการทางจิตใจและอารมณ์ เป็นต้น
“ธรรมชาติของคือมีความสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว ชอบสำรวจชอบทดลองอยู่เสมอ การเล่นก็ถือเป็นการเรียนรู้ของเด็กอีกอย่างหนึ่งที่เด็กเป็นผู้ลงมือทำด้วยตัวเอง กิจกรรมเรียนรู้ที่จัดควรเริ่มจากกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมก่อนนามธรรม จากสิ่งที่ง่ายไม่ซับซ้อนไปหาสิ่งที่ยากและซับซ้อนกว่า ซึ่งเด็กๆ จะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะ และความสามารถจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในขณะเล่นหรือทำกิจกรรม”
สำหรับการเตรียมตัวรับมือกับเปิดเทอมสำหรับเด็กวัยอนุบาลนั้น ครูเป็ดแนะนำเพิ่มเติมว่า นอกจากการเตรียมค่าใช้จ่ายแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรจะปลูกฝังให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นตามวัย เช่น การรับประทานอาหาร การถอดรองเท้า การเทน้ำดื่มเอง เป็นต้น พาเด็กมาทำความรู้จักคุ้นเคยกับสถานที่ กับคุณครู พี่เลี้ยง แม้แต่กับสนามเด็กเล่น เพื่อทำความคุ้นเคยและเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าเรียนจริง ๆ
นอกจากนั้น หลังจากที่ส่งลูกเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะต้องช่วยเสริมความรู้และพัฒนาการของเด็ก ๆ อีกทางหนึ่ง อาทิ ส่งเสริมให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการเล่นดนตรี กีฬาและศิลปะ ส่งเสริมให้รู้จักกล้าแสดงออกตามความเหมาะสม รู้ปัญหาของเด็ก ยอมรับและร่วมมือกับทางโรงเรียนในการแก้ไขพฤติกรรมให้ถูกทาง