นักวิชาการเตือนตั้งมหาวิทยาลัยในชุมชน อย่าเน้นแต่เพิ่มปริญญาให้กับคนในชุมชน จนลืมสร้างความรู้ตอบสนองชุมชน ระบุมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีแนวคิดเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนยังไม่ชัดเจน
รศ.ดร.นภาภรณ์ หะวานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงแนวคิดเรื่องการตั้งมหาวิทยาลัยในชุมชนท้องถิ่นตัวเองของชาวบ้านว่าถ้าเป็นแนวคิดที่ต้องการเพียงแค่ปริญญาบัตรจะไม่คุ้ม เพราะการตั้งมหาวิทยาลัยต้องลงทุนสูง ชุมชนควรจะนำเงินที่จะตั้งมหาวิทยาลัยไปใช้อย่างอื่นจะเกิดประโยชน์มากกว่า สิ่งที่ชุมชนควรคิดก็คือ การสร้างความรู้เพื่อชุมชนของตัวเอง เช่น ชุมชนหนึ่งมีการจัดการสหกรณ์ได้ดี ทำธุรกิจในการเลี้ยงปลาได้ดี สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ ชุมชนควรจะมีกระบวนการร่วมมือกับสถานศึกษาในท้องถิ่นตัวเอง เพิ่มพูนความรู้ที่ชุมชนมี ให้เกิดการพัฒนาและมีความเข้มแข็งมากขึ้น ถ้าชุมชนเริ่มต้นจากจุดนี้ก่อน การสร้างความรู้จะเป็นการตอบสนองต่อชุมชน ทำให้ชุมชนนำความรู้ที่มีอยู่เผยแพร่ออกไปสู่สังคม
“แต่ถ้าอยู่ดี ๆ ชุมชนลุกขึ้นมาบอกว่าจะจัดตั้งมหาวิทยาลัยและเลียนแบบการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในเมือง ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ แสดงว่าเป้าหมายการตั้งมหาวิทยาลัยเราอยากได้ปริญญา และอยากได้ระบบการศึกษาที่เป็นทางการ แทนที่ชุมชนจะใช้เวลา พลังของตนเองใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนตัวเองอย่างจริงจัง กลับได้คนที่มีปริญญาเพิ่มขึ้นในชุมชน อยากถามว่าแล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไร” รองอธิการบดี มศว กล่าว
รศ.ดร.นภาภรณ์ กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏเกือบทุกแห่งพยายามผลิตหลักสูตรชุมชนขึ้นมา แต่วิธีการจัดการเรียนการสอน สร้างความรู้ การวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏยังเลียนแบบมหาวิทยาลัยอื่น ๆ อยู่ ผลงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีเป้าหมายเพื่อชุมชนท้องถิ่นก็ยังไม่ชัดเจน ความรู้ที่คืนกลับสู่ชุมชนยังเห็นไม่ชัด ทั้งที่มหาวิทยาลัยชุมชนควรจะมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นของตัวเอง
รศ.ดร.นภาภรณ์ หะวานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงแนวคิดเรื่องการตั้งมหาวิทยาลัยในชุมชนท้องถิ่นตัวเองของชาวบ้านว่าถ้าเป็นแนวคิดที่ต้องการเพียงแค่ปริญญาบัตรจะไม่คุ้ม เพราะการตั้งมหาวิทยาลัยต้องลงทุนสูง ชุมชนควรจะนำเงินที่จะตั้งมหาวิทยาลัยไปใช้อย่างอื่นจะเกิดประโยชน์มากกว่า สิ่งที่ชุมชนควรคิดก็คือ การสร้างความรู้เพื่อชุมชนของตัวเอง เช่น ชุมชนหนึ่งมีการจัดการสหกรณ์ได้ดี ทำธุรกิจในการเลี้ยงปลาได้ดี สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ ชุมชนควรจะมีกระบวนการร่วมมือกับสถานศึกษาในท้องถิ่นตัวเอง เพิ่มพูนความรู้ที่ชุมชนมี ให้เกิดการพัฒนาและมีความเข้มแข็งมากขึ้น ถ้าชุมชนเริ่มต้นจากจุดนี้ก่อน การสร้างความรู้จะเป็นการตอบสนองต่อชุมชน ทำให้ชุมชนนำความรู้ที่มีอยู่เผยแพร่ออกไปสู่สังคม
“แต่ถ้าอยู่ดี ๆ ชุมชนลุกขึ้นมาบอกว่าจะจัดตั้งมหาวิทยาลัยและเลียนแบบการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในเมือง ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ แสดงว่าเป้าหมายการตั้งมหาวิทยาลัยเราอยากได้ปริญญา และอยากได้ระบบการศึกษาที่เป็นทางการ แทนที่ชุมชนจะใช้เวลา พลังของตนเองใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนตัวเองอย่างจริงจัง กลับได้คนที่มีปริญญาเพิ่มขึ้นในชุมชน อยากถามว่าแล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไร” รองอธิการบดี มศว กล่าว
รศ.ดร.นภาภรณ์ กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏเกือบทุกแห่งพยายามผลิตหลักสูตรชุมชนขึ้นมา แต่วิธีการจัดการเรียนการสอน สร้างความรู้ การวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏยังเลียนแบบมหาวิทยาลัยอื่น ๆ อยู่ ผลงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีเป้าหมายเพื่อชุมชนท้องถิ่นก็ยังไม่ชัดเจน ความรู้ที่คืนกลับสู่ชุมชนยังเห็นไม่ชัด ทั้งที่มหาวิทยาลัยชุมชนควรจะมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นของตัวเอง