สนนท.ยันไม่มีปัญหาขัดแย้งในขบวนการนักศึกษา ชี้มีความร่วมมือประสานงานกันทำตลอด เดินหน้าให้ความรู้ทางการเมืองกับเพื่อนนักศึกษา พร้อมเปิดตัวสื่อรณรงค์เข็มกลัด “เหลี่ยมจัด Get Out!!!” รายได้ใช้เคลื่อนไหวขับไล่ทักษิณ พร้อมจัดเวทีสาธารณะ

วันนี้ (15 ก.พ.) เวลา 15.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน กรุงเทพฯ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) แถลงถึงความเคลื่อนไหวของ สนนท.และแนวร่วมนักศึกษา โดย น.ส.กชวรรณ ชัยบุตร เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในขบวนการนักศึกษาในขณะนี้ว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจโครงสร้างของ สนนท.ว่า เป็นองค์กรที่มีสมาชิกที่เป็นองค์กรนักศึกษาเข้าร่วมกัน 31 องค์กร กระจายอยู่ทั้ง 5 ภูมิภาค
โดยเปิดเข้าเป็นสมาชิกในการประชุมสมัชชาใหญ่ทุกเดือนกรกฎาคม คณะกรรมการแต่ละชุดมีวาระ 1 ปี ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ก็ใกล้จะหมดวาระ และจะมีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ ดังนั้น การที่มีบางมหาวิทยาลัยจะออกแถลงการณ์ก็สามารถทำได้แล้วแต่สิทธิของแต่ละบุคคล เป็นการแสดงจุดยืน เพื่อให้เกิดความชัดเจน
“เราไม่เคยแอบอ้างชื่อนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ แต่เราเคลื่อนไหวในนามของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ส่วนใครจะมองว่าเราเป็นเพียงนักศึกษากลุ่มเล็กๆ ก็ได้ แต่พวกเรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำเป็นการขับเคลื่อนไปสู่ความชอบธรรมในสังคม แต่เราก็มองว่าการเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ ดังนั้นจึงยังคงต้องการความร่วมมือจากหลายหลายสถานบัน องค์กรการศึกษา ที่พร้อมจะจับมือเป็นพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน และยืนยันว่าองค์กรสมาชิกทั้งหมดได้จับมือประสานการทำงานโดยตลอด”
ส่วนกรณีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่มีการออกแถลงการณ์ไม่ให้นักศึกษายุ่งเกี่ยวทางการเมืองนั้น เป็นการเกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสาร ซึ่งเกิดผลกระทบอย่างมากกับการทำกิจกรรมของนักศึกษาซึ่งมีการระงับกิจกรรมอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเข้าใจว่า สนนท.จะเข้าไปใช้พื้นที่ ซึ่งแท้จริงแล้วทาง สนนท.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกิจกรรมดังกล่าวเลย
น.ส.กชวรรณ กล่าวต่อว่า สนนท.จะเป็นตัวกลางในการประสานงานในมหาวิทยาลัย องค์กรพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มอิสระมหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่มแรงคิด กลุ่มอิสระมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวขององค์กรพันธมิตรมีปฏิทินกิจกรรม ดังนี้
ในวันที่ 15 ก.พ. มีการจัดเวทีสาธารณะของมหาวิทยาลัยบูรพา และเวทีสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 17 ก.พ. เวทีสาธารณะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 18 ก.พ. สนนท.ร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รณรงค์ให้ความรู้ที่สวนจตุจักร เวลา 11.00 น. วันที่ 20 จัดเวทีสาธารณะอภิปรายเรื่อง จริยธรรมทางการเมือง ที่ โรงแรมอินโดจีน จ.สระแก้ว และวันที่ 24-26 จัดเวทีสาธารณะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สำหรับการจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นการดำเนินการภายในของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย โดย สนนท.จะเป็นตัวเสริมและประสานในการจัดกิจกรรมเท่านั้น ส่วนกิจกรรมของ สนนท.เอง ขณะนี้กำลังดำเนินการหาพื้นที่ในการเปิดเวทีสาธารณะ โดยอยู่ในช่วงติดต่อ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นปัญหาเนื่องจากมีกระแสไม่อยากให้มหาวิทยาลัยข้องเกี่ยวทางการเมือง ซึ่งก็เป็นธรรมดา แต่ข้อเท็จจริงสถาบันการศึกษาควรจะเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้คิดแสดงความคิดเห็นเปิดกว้าง แต่ก็เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยเองก็ลำบากใจ
“สนนท.จะไม่ดื้อดึง หรือสร้างปัญหาให้กับมหาวิทยาลัย และไม่ต้องการเพิ่มความขัดแย้ง เหนื่อยต่อสู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น เราจึงมองว่าเราไม่ได้ขัดแย้งกับมหาลัยอื่นๆ ส่วนจะมีการแทรกแซงในหมู่นักศึกษาหรือไม่ขอให้เป็นข้อสังเกต ไม่ฟันธง เนื่องจากเราไม่มีหลักฐานจึงไม่อยากกล่าวหาใคร ไม่อยากให้บรรยากาศในมหาวิทยาลัยเป็นเช่นนั้น เพราะการที่แต่ละคนจะไม่เห็นด้วย น่าจะเป็นเหตุผลมาจากความรู้ ความคิดของคน สังคมยังไม่เกิดการตกผลึกอย่างเต็มที่ แต่เป็นไปทีละน้อย ดังนั้นจึงมองปรากฏการณ์ในขบวนการนักศึกษาขณะนี้ว่าดอกไม้เริ่มบานทีละดอก ส่วนในวันที่ 26 ก.พ.ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีนักศึกษามาร่วมจำนวนเท่าไหร่ แต่ระหว่างนี้จะพยายามให้ข้อมูลกับนักศึกษาเพื่อกระตุ้นให้ออกมามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น”
ด้าน นายจักรพงษ์ บูริพา รองเลขาฯ สนนท.กล่าวเสริมว่า ดังนั้น การที่หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ รายงานว่าหลายองค์กรนักศึกษาออกแถลงการณ์ไม่เข้าร่วมการเคลื่อนไหว นั้นเพราะ สนนท.ไม่ได้มีสมาชิกองค์กรนิสิตนักศึกษาในทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ แต่เรามีสมาชิกกระจัดกระจายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งองค์กรอิสระของนักศึกษา
ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้งของนักศึกษา แต่มองว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำงาน ในหลายๆ มหาวิทยาลัยมีการล่าราย 50,000 ชื่อเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี ซึ่ง สนนท.ก็เห็นด้วย แม้มีวิธีคิดที่แตกต่างกัน ก็ถือว่าเป็นการช่วยกันทำงานสร้างสรรค์ประชาธิปไตย ในขณะที่ สนนท.และองค์อิสระนักศึกษาจะเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง
ขณะที่ น.ส.อรุณวนา สมิกะวาฬ รองเลขาฯ สนนท.กล่าวว่า เนื่องจาก สนนท.ไม่มีรายได้จากองค์กรหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงดำเนินการจัดทำสื่อรณรงค์ ในตัวแรกจะเป็นเข็มกลัดสี่เหลี่ยมจัตุรัสพิมพ์ว่า “เหลี่ยมจัด Get Out!!!” และภาพพิมพ์การ์ตูนล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีต้นทุนราคาอันละ 12 บาท แต่ขายในราคา 20 บาท เพื่อนำกำไรส่วนต่างเป็นค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง เช่น การทำเอกสารรณรงค์ การเปิดเวทีสาธารณะ เป็นต้น
พร้อมกันนี้จะมีสื่อรณรงค์ทยอยออกมาอีกหลายตัวไม่ว่าจะเป็นเสื้อ สมุด โดยจะแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ในเว็บไซต์ www.SFT.onnuke.com รวมทั้งสามารถบริจาคสมทบเพื่อเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีได้ที่ชื่อบัญชี น.ส. กชวรรณ ชัยบุตร น.ส.อรุณวนา สมิกะวาฬ นายจักรพงษ์ บูริพาเลขบัญชี 030-2 60342-3 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาราชดำเนินกลาง
น.ส.อรุณวนา กล่าวย้ำว่า ทาง สนนท.ไม่รับสปอนเซอร์ไม่ว่าจะเป็นรายใด แต่จะขอบริจาคเงินเข้าบัญชี ตามกำลังศรัทธาซึ่งสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการผลิตสื่อต่างๆ ได้โดยตลอด ทั้งนี้สื่อรณรงค์จะมีจำหน่ายบริเวณเวทีสาธารณะและมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยบูรพา มอ.ปัตตานี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยใน กทม. หรือติดต่อสอบถามสั่งซื้อได้ที่ 0-4175-8600
วันนี้ (15 ก.พ.) เวลา 15.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน กรุงเทพฯ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) แถลงถึงความเคลื่อนไหวของ สนนท.และแนวร่วมนักศึกษา โดย น.ส.กชวรรณ ชัยบุตร เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในขบวนการนักศึกษาในขณะนี้ว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจโครงสร้างของ สนนท.ว่า เป็นองค์กรที่มีสมาชิกที่เป็นองค์กรนักศึกษาเข้าร่วมกัน 31 องค์กร กระจายอยู่ทั้ง 5 ภูมิภาค
โดยเปิดเข้าเป็นสมาชิกในการประชุมสมัชชาใหญ่ทุกเดือนกรกฎาคม คณะกรรมการแต่ละชุดมีวาระ 1 ปี ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ก็ใกล้จะหมดวาระ และจะมีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ ดังนั้น การที่มีบางมหาวิทยาลัยจะออกแถลงการณ์ก็สามารถทำได้แล้วแต่สิทธิของแต่ละบุคคล เป็นการแสดงจุดยืน เพื่อให้เกิดความชัดเจน
“เราไม่เคยแอบอ้างชื่อนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ แต่เราเคลื่อนไหวในนามของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ส่วนใครจะมองว่าเราเป็นเพียงนักศึกษากลุ่มเล็กๆ ก็ได้ แต่พวกเรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำเป็นการขับเคลื่อนไปสู่ความชอบธรรมในสังคม แต่เราก็มองว่าการเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ ดังนั้นจึงยังคงต้องการความร่วมมือจากหลายหลายสถานบัน องค์กรการศึกษา ที่พร้อมจะจับมือเป็นพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน และยืนยันว่าองค์กรสมาชิกทั้งหมดได้จับมือประสานการทำงานโดยตลอด”
ส่วนกรณีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่มีการออกแถลงการณ์ไม่ให้นักศึกษายุ่งเกี่ยวทางการเมืองนั้น เป็นการเกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสาร ซึ่งเกิดผลกระทบอย่างมากกับการทำกิจกรรมของนักศึกษาซึ่งมีการระงับกิจกรรมอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเข้าใจว่า สนนท.จะเข้าไปใช้พื้นที่ ซึ่งแท้จริงแล้วทาง สนนท.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกิจกรรมดังกล่าวเลย
น.ส.กชวรรณ กล่าวต่อว่า สนนท.จะเป็นตัวกลางในการประสานงานในมหาวิทยาลัย องค์กรพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มอิสระมหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่มแรงคิด กลุ่มอิสระมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวขององค์กรพันธมิตรมีปฏิทินกิจกรรม ดังนี้
ในวันที่ 15 ก.พ. มีการจัดเวทีสาธารณะของมหาวิทยาลัยบูรพา และเวทีสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 17 ก.พ. เวทีสาธารณะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 18 ก.พ. สนนท.ร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รณรงค์ให้ความรู้ที่สวนจตุจักร เวลา 11.00 น. วันที่ 20 จัดเวทีสาธารณะอภิปรายเรื่อง จริยธรรมทางการเมือง ที่ โรงแรมอินโดจีน จ.สระแก้ว และวันที่ 24-26 จัดเวทีสาธารณะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สำหรับการจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นการดำเนินการภายในของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย โดย สนนท.จะเป็นตัวเสริมและประสานในการจัดกิจกรรมเท่านั้น ส่วนกิจกรรมของ สนนท.เอง ขณะนี้กำลังดำเนินการหาพื้นที่ในการเปิดเวทีสาธารณะ โดยอยู่ในช่วงติดต่อ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นปัญหาเนื่องจากมีกระแสไม่อยากให้มหาวิทยาลัยข้องเกี่ยวทางการเมือง ซึ่งก็เป็นธรรมดา แต่ข้อเท็จจริงสถาบันการศึกษาควรจะเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้คิดแสดงความคิดเห็นเปิดกว้าง แต่ก็เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยเองก็ลำบากใจ
“สนนท.จะไม่ดื้อดึง หรือสร้างปัญหาให้กับมหาวิทยาลัย และไม่ต้องการเพิ่มความขัดแย้ง เหนื่อยต่อสู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น เราจึงมองว่าเราไม่ได้ขัดแย้งกับมหาลัยอื่นๆ ส่วนจะมีการแทรกแซงในหมู่นักศึกษาหรือไม่ขอให้เป็นข้อสังเกต ไม่ฟันธง เนื่องจากเราไม่มีหลักฐานจึงไม่อยากกล่าวหาใคร ไม่อยากให้บรรยากาศในมหาวิทยาลัยเป็นเช่นนั้น เพราะการที่แต่ละคนจะไม่เห็นด้วย น่าจะเป็นเหตุผลมาจากความรู้ ความคิดของคน สังคมยังไม่เกิดการตกผลึกอย่างเต็มที่ แต่เป็นไปทีละน้อย ดังนั้นจึงมองปรากฏการณ์ในขบวนการนักศึกษาขณะนี้ว่าดอกไม้เริ่มบานทีละดอก ส่วนในวันที่ 26 ก.พ.ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีนักศึกษามาร่วมจำนวนเท่าไหร่ แต่ระหว่างนี้จะพยายามให้ข้อมูลกับนักศึกษาเพื่อกระตุ้นให้ออกมามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น”
ด้าน นายจักรพงษ์ บูริพา รองเลขาฯ สนนท.กล่าวเสริมว่า ดังนั้น การที่หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ รายงานว่าหลายองค์กรนักศึกษาออกแถลงการณ์ไม่เข้าร่วมการเคลื่อนไหว นั้นเพราะ สนนท.ไม่ได้มีสมาชิกองค์กรนิสิตนักศึกษาในทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ แต่เรามีสมาชิกกระจัดกระจายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งองค์กรอิสระของนักศึกษา
ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้งของนักศึกษา แต่มองว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำงาน ในหลายๆ มหาวิทยาลัยมีการล่าราย 50,000 ชื่อเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี ซึ่ง สนนท.ก็เห็นด้วย แม้มีวิธีคิดที่แตกต่างกัน ก็ถือว่าเป็นการช่วยกันทำงานสร้างสรรค์ประชาธิปไตย ในขณะที่ สนนท.และองค์อิสระนักศึกษาจะเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง
ขณะที่ น.ส.อรุณวนา สมิกะวาฬ รองเลขาฯ สนนท.กล่าวว่า เนื่องจาก สนนท.ไม่มีรายได้จากองค์กรหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงดำเนินการจัดทำสื่อรณรงค์ ในตัวแรกจะเป็นเข็มกลัดสี่เหลี่ยมจัตุรัสพิมพ์ว่า “เหลี่ยมจัด Get Out!!!” และภาพพิมพ์การ์ตูนล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีต้นทุนราคาอันละ 12 บาท แต่ขายในราคา 20 บาท เพื่อนำกำไรส่วนต่างเป็นค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง เช่น การทำเอกสารรณรงค์ การเปิดเวทีสาธารณะ เป็นต้น
พร้อมกันนี้จะมีสื่อรณรงค์ทยอยออกมาอีกหลายตัวไม่ว่าจะเป็นเสื้อ สมุด โดยจะแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ในเว็บไซต์ www.SFT.onnuke.com รวมทั้งสามารถบริจาคสมทบเพื่อเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีได้ที่ชื่อบัญชี น.ส. กชวรรณ ชัยบุตร น.ส.อรุณวนา สมิกะวาฬ นายจักรพงษ์ บูริพาเลขบัญชี 030-2 60342-3 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาราชดำเนินกลาง
น.ส.อรุณวนา กล่าวย้ำว่า ทาง สนนท.ไม่รับสปอนเซอร์ไม่ว่าจะเป็นรายใด แต่จะขอบริจาคเงินเข้าบัญชี ตามกำลังศรัทธาซึ่งสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการผลิตสื่อต่างๆ ได้โดยตลอด ทั้งนี้สื่อรณรงค์จะมีจำหน่ายบริเวณเวทีสาธารณะและมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยบูรพา มอ.ปัตตานี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยใน กทม. หรือติดต่อสอบถามสั่งซื้อได้ที่ 0-4175-8600