xs
xsm
sm
md
lg

อุ๊บ!!! “จู...จุ๊บ” “สุดที่รัก” บำบัดโรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จูบ...ใครคิดว่าไม่สำคัญ จูบเบา ๆ เท่านั้น ยังทำฉันสั่นดังฟ้าสะเทือน...จูบใช่เพียงแค่ทำให้เคลิบเคลิ้มใหลหลง หัวใจหวั่นไหว แต่การกอด จูบเพียงเบาๆ ยังช่วยรักษาทั้งไข้ใจ และปัดเป่าความเจ็บร้าวยามร่างกายอ่อนล้าและอ่อนแอ

การกอด จูบ สัมผัสด้วยความห่วงใยเป็นการแสดงอานุภาพแห่งรักได้ดีเสียยิ่งกว่าคำพูดนับร้อยนับหมื่นคำ ยิ่งในวันที่เราไม่สบาย มีไข้ตัวร้อนผ่าว ปวดหัวตุ๊บๆ แทบลุกไม่ไหว ยาแก้ปวดก็ไม่อาจช่วยบรรเทาแต่พอเขามานั่งเคียงข้าง กุมมือ พร้อมแววตาที่ห่วงใย ให้เราซุกตัวในอ้อมกอด และหอมบนหน้าผากเบาๆ เรากลับมีแรงมีกำลังใจอยากหายป่วยไว้ๆ แล้วเกี่ยวก้อยไปดินเนอร์กัน

ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เกาะกระแส “วาเลนไทน์” จัดงาน “ไม่สบาย...Hugs & Kisses ของคนรักช่วยรักษาได้” แนะนำวิธีง่ายๆ ในการใช้พลังแห่งความรักบำบัดโรค โดยชวนคู่รักรุ่นใหญ่ คุณตาคุณยายที่ครองรักยาวนานแบบรักไม่มีชืด คู่รักวัยทำงานที่แต่งงานมาหลายปีดีดักแต่ยังหวานแหวว คู่รักหนุ่มสาวกุ๊กกิ๊กน่ารัก และคู่รักแม่ลูกพันผูก ทุกๆ คู่มาร่วมบอกเล่าทริกเล็กๆ เพื่อดูแลหวานใจในยามป่วยไข้และชีวิตคู่ให้มีความสุข

พ.ญ. เรขา กลลดาเรืองไกร จิตแพทย์ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ให้ความรู้ว่า การกอด จูบ สัมผัส เป็นภาษากาย (body language) ที่ถ่ายทอดความรัก ความห่วงใย แค่เพียงอยู่ใกล้ๆ ก็อบอุ่นหัวใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถผ่อนหนักเป็นเบา และเมื่อมีความสุขสมองจะหลั่งเอ็นโดร์ฟินส์ ( Endorphins) ทำให้จิตใจอิ่มเอิบ เบิกบาน แม้ป่วยไข้ก็ช่วยลดอาการเจ็บปวด เพิ่มภูมิต้านทานโรค ลดความตึงเครียด ช่วยสมานแผล แม้ในคนที่เป็นโรคกระเพาะ ความดันสูง ไมเกรน ปวดศีรษะเป็นประจำก็หายเป็นปลิดทิ้ง อีกทั้งจิตใจที่เลือกรับรู้ (Selective Perception) จะเปลี่ยนจุดสนใจไปที่ความรู้สึกดีใจ อบอุ่นใจที่คนรักเอาใจใส่ ห่วงใย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายลืมความเจ็บปวด จนอาการป่วยดีขึ้น

พ.ญ. เรขา อธิบายการทำงานของเอ็นโดร์ฟินส์ว่า เมื่อสมองหลั่งเอ็นโดร์ฟินส์ออกมา เซลล์ของร่างกายก็จะผ่อนคลาย ทำให้ร่างกายสามารถยอมรับสิ่งแปลกปลอมที่เกิดขึ้นในเซลล์ได้ ดังนั้น เอ็นโดร์ฟินส์จึงส่งผลต่อสุขภาพและระบบภูมิต้านทาน โดยควบคุมความเจ็บปวดในระบบประสาทส่วนกลาง การเจ็บปวดเรื้อรัง ระบบการย่อยอาหารในลำไส้ ความคุมกล้ามเนื้อหัวใจ และอุณหภูมิในร่างกาย ควบคุมปริมาณการกินอาหาร และความชอบของรสชาติ ระบบการหายใจ ระบบภูมิคุ้มกัน ควบคุมฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมใต้สมอง หลั่งฮอร์โมนเพื่อควบคุมด้านการสืบพันธุ์ และการคลอดลูก

แล้วเขาหรือเธอของคุณเคยดูแลคุณในวันไม่สบายไหม???

มลฤดี วาจิตดล (แอน) และสันติ วาจิตดล (เอ) คู่รักวัยทำงาน วัย 28 ปี บอกว่า เขามักจะหยอกล้อภรรยาและหอมแก้มก่อนไปทำงานเป็นประจำทุกเช้า ถ้าวันไหนลืมภรรยาก็จะงอน แล้วรู้สึกไม่สบายใจ ก็ต้องมีเซอร์ไพรซ์เอาใจภรรยาบ้าง เวลาที่ไม่สบายก็ดูแลเอาใจใส่ มีไข้ก็ให้ทานยาทุก 4 ชั่วโมง ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็พาไปโรงพยาบาล

“แต่เขาไม่ค่อยเป็นอะไร ผมจะไม่สบายบ่อยๆ แม่เขาก็จะดูแลปฏิบัติเป็นอย่างดี แต่ก็มีบ่อยที่พอเวลาแม่กลับมาบ้าน เขาจะบ่นเหนื่อย เมื่อย ทำงานหนักมาทั้งวัน เขาจะพูดอ้อมๆ พ่อก็จะบีบนวดทั้งแต่ฝ่าเท้าเรื่อยขึ้นไป”ฝ่ายสามีเล่าด้วยอาการกระมิดกระเมี้ยนใบหน้ามีสีแดงระเรื่อ ส่วนฝ่ายภรรยา บอกว่า “ก็ผลัดกันนวดให้กัน แต่เราจะหนักไปทางขึ้นไปเหยียบบนหลังให้เขามากกว่า เพราะเราตัวเล็กแต่เขาตัวโต

อีกคู่ที่น่ารักไม่แพ้กัน สำหรับธเนศ ไชยวงศ์เกียรติ (กิม)วัย 28 ปี และแฟนสาว มัณฑีรา มาศเมธา (เบน) วัย 21 ปี กิม เล่าว่า เขามักจะแสดงความรักแฟนด้วยการลูบหัว และหอม 5 จุด ที่แก้ม 2 ข้าง หน้าผาก จมูก และริมฝีปาก เมื่อไม่สบายจะค่อยเช็ดตัวด้วยผ้าชุมน้ำเย็น ดูแลเขาทั้งคืน หากเขาเครียดก็จะพยายามหาเรื่องตลกมาเล่า ทำท่าทำทางตลกเขาก็จะขำ ก่อนนอนก็ห่มผ้าให้ แล้วหอมแก้มก่อนนอนทุกครั้ง ส่วนเบน บอกว่า พี่เขาจะปวดหัวเพราะต้องทำงานอยู่หน้าจอนานๆ ก็จะนวดหน้าผาก ขมับ ศีรษะ ต้นคอ หัวไหล่ เพื่อให้เขาหายเครียด

ส่วนคู่รักรุ่นใหญ่ คุณตาทองสุข อ่วมงามอาจ วัย 78 ปี ประธานชมรมผู้สูงอายุวัดปากบ่อ ควงคู่มากับคุณยายละออ รัตนสุวรรณ วัย 73 ปี บอกว่า ก่อนนอนจะต้องบีบนวดให้กัน คุณตามักจะหอมหน้าผาก 1 ฟอดใหญ่ เพราะผู้หญิงจะชอบและรู้สึกอบอุ่น ส่วนการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันทุกวันก็จะเต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความรัก ความสุข ความเข้าอกเข้าใจ คุณตามักจะช่วยคุณยายซักผ้า ถูบ้าน เวลาไม่สบายก็พาไปหาหมอ ไปที่ไหนก็ไปด้วยกัน ส่วนคุณยายก็หมั่นเอาใจ พูดจาไพเราะ ไม่ขี้บ่น จุกจิก เมื่อทำงานกลับมาบ้านก็หาน้ำเย็นให้ดื่มชื่นใจ จนมาถึงวันนี้ทั่งคู่ครองรักกันนานเกือบ 40 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม คุณหมอ แนะนำด้วยว่า ในวันที่คนรักไม่สบายมีสิ่งที่ “ควรทำ”และ “ไม่ควรทำ” ดังนั้น ถ้าอยากให้แฟนสาวรู้สึกดี สิ่งที่ควรทำ คือ การให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยการใช้คำพูดที่ฟังดูอบอุ่น ดูแล พร้อมที่ให้ความช่วยเหลือ คอบปลอบ “เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วนะ กินยาหน่อยไหมครับ” หรือ ปลอบให้รู้สึกหนักเป็นเบา เช่น ช่วยบีบนวดให้ ให้กำลังใจ หรือหากอยู่ใกล้ๆ ก็อาจกอด โอบไหล่ กุมมือ ทำให้หญิงสาวรู้สึกปลอดภัย มีคนคอยอยู่เคียงข้างในยามที่เธอต้องการ และทำให้เธอรู้สึกถึงการถูกรัก ทั้งการสัมผัส คำพูด หอมแก้ม หอมหน้าผาก ลูบหัว จับไหล่ ซึ่งคู่รักที่มาในวันนี้เป็นแบบอย่างได้อย่างดี

ส่วนสิ่งที่ไม่ควรทำ เช่น ทำท่ารำคาญ หรือถามว่า “เป็นอีกแล้วหรือ?” และบางครั้งหญิงสาวอาจแอบป่วยการเมืองออดอ้อน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเฉือดเชือน เช่น “สำออยหรือเปล่า? ไม่ได้ป่วยจริงมั่ง? ไม่เห็นเป็นไรเลย นั่นเป็นการจี้ใจดำ และทำให้เธอรู้สึกไม่ดีมากๆ นอกจากนั้นบางคู่อาจไม่สนใจ ไม่เอาใจใส่ ไม่ดูแล ให้ไปหายากินเอง ทำตัวไม่ว่าง ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายต้องการความเห็นอกเห็นใจ ที่ยิ่งกว่านั้น หากชายทำตัวรังเกียจ กลัวติดโรค ไม่ว่าจากการกระทำหรือคำพูด อีกฝ่ายจะรู้สึกว่าแฟนไม่รักกันจริง รังเกียจ

สำหรับวิธีที่ทำให้หนุ่มรู้สึกดียามไม่สบาย ก่อนอื่นต้องดูแลร่างกาย เช่น จัดยา เช็ดตัว ห่มผ้า นวดให้สบายตัว ให้กำลังใจ เช่น พูดปลอบ เห็นอกเห็นใจ หรือ ช่วยทำงานแทนเขาในสิ่งที่เราทำได้ แต่สิ่งที่ไม่ควรทำ คือ การตำหนิ เช่น “ก็สูบบุหรี่อยู่ได้” “ไปกินเหล้ามาใช่ไหม?” หรือ การสมน้ำหน้ากันก็ไม่ควร เช่น บอกแล้วไง ไม่เชื่อ พอไม่สบายก็ต้องหยุด โดนเจ้านายด่าเลย เป็นต้น หรือ ช่างขุดคุ้ยเรื่องไม่ดีทั้งหลายมาพูดทั้งที่ควรให้กำลังใจกัน ผู้ชายจะขี้รำคาญกับการกระทำเหล่านี้ พอไม่สบายยิ่งไปกันใหญ่ ทั้งเสียอารมณ์และรำคาญ ทำให้ความอดทนลดต่ำลงทันที อาจทะเลาะกันรุนแรง ถึงขั้นบอกเลิกได้

แต่สำหรับวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่ต่างต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ ฉะนั้นการแสดงออกถึงความรักความห่วงใยที่มีให้แก่กันจึงควรอยู่ในขอบเขต คุณหมอแนะนำว่า แค่การจับมือถือแขน ลูบผมก็เพียงพอแล้ว เราสามารถแสดงความรักได้หลายรูปแบบ การพูดจา เอาใจใส่ ก็เป็นหนทางหนึ่ง และการกอด จูบในคู่ที่ยังไม่แต่งงานกัน อาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้

“การแสดงความรักแบบนี้อาจมองว่าเป็นวัฒนธรรมตะวันตกมากเกินไปไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทยแต่เราสามารถนำมาปรับเปลี่ยนให้เข้ากันได้กับสังคมไทย โดยการรู้จักกาลเทศะ ไม่กระทำในที่สาธารณะ หากเป็นสามี ภรรยากันก็สามารถทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่ควรอยู่ในห้องหับมิดชิด ซึ่งปกติผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกันผู้หญิงต้องการเอาอกเอาใจมากกว่า”พ.ญ.เรขา แนะนำพร้อมกับทิ้งท้ายว่า ในส่วนการมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด รักษาอาการนอนไม่หลับ แต่นั่นต้องอยู่บนพื้นฐานของความรัก ศีลธรรม วัฒนธรรม ประเพณีด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น