“อวยชัย” แฉเลขาธิการ กพฐ.ออกหนังสือด่วนเรียกประชุมข้าราชการครู 21 ม.ค.หวังสกัดม็อบครูคัดค้านถ่ายโอน แนะครูแจ้งความดำเนินคดี “ดร.รุ่ง แก้วแดง” คุกคามครู หลังขู่แกนนำครูระหว่างการประชุมครูที่ศรีสะเกษ หากไม่หยุดเคลื่อนไหวอาจถูกอำนาจมืดอุ้มไปเหมือนทนายสมชาย เตือน "พรนิภา” ยิ่งใช้อำนาจสอบสวนทางวินัย ยิ่งทำให้ใจครูห่างจากกระทรวงศึกษาฯ ขณะที่ “ดร.รุ่ง” ท้าแจ้งความจับได้เลย หากไม่มีงานทำ ระบุแกนนำครุบิดเบือนข่าว เชื่อครูส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยคัดค้านถ่ายโอนของแกนนำครู ฟุ้งครูอีสานชื่นชมการทำงานของตัวเองมาตลอด

นายอวยชัย วะทา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กล่าวถึงการชุมนุมคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษาวันที่ 21 ม.ค.ซึ่งจะมีขึ้นที่ จ.ระยอง ว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ทำหนังสือด่วนสั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ในพื้นที่ 27 จังหวัดภาคกลาง ให้จัดประชุมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อชี้แจงเกณฑ์ในการประเมินวิทยฐานะของครูและบุคลากรทางการศึกษา ในวันที่ 21 ม.ค.ซึ่งคำสั่งดังกล่าวถือเป็นความตั้งใจที่จะสกัดกั้นครูที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษาที่ จ.ระยอง ในวันเดียวกัน
“สำหรับการชุมนุมคัดค้านในวันที่ 21 ม.ค.ครูกว่า 20,000 คน จะเดินทางมาร่วมชุมนุมคัดค้านที่วัดตะพงนอก ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง จากเดิมที่ได้ขออนุญาตใช้สนามมิ่งเมือง จ.ระยอง แต่เทศบาลเมืองระยองถูกกดดันให้ยกเลิกห้ามองค์กรครูใช้สถานที่สนามมิ่งเมืองในการชุมนุม โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ จะร่วมเสวนาในหัวข้อ “วิกฤตการศึกษา วิกฤตสังคมไทยในยุคทักษิโณมิกส์” พร้อมทั้งจะได้เปิดโอกาสให้ครูที่เข้าร่วมชุมนุมแสดงความคิดเห็น และเจตนารมณ์ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการศึกษา รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบันด้วย” นายอวยชัย กล่าว
นายอวยชัย ยืนยันด้วยว่า แม้ สพฐ.จะพยายามสกัดกั้นไม่ให้ครูออกไปร่วมชุมนุม แต่ครูส่วนใหญ่ก็ไม่รู้สึกหวั่นไหวกับคำสั่งดังกล่าว และยืนยันว่า การเดินทางไปร่วมชุมนุมคัดค้านเป็นสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งยังเป็นวันหยุดราชการด้วย แต่ก็ยอมรับว่า ความพยายามสกัดกั้นทุกวิถีทางของผู้บริหาร กพฐ.เป็นปัญหาพอสมควร เพราะจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีครูมาร่วมชุมนุมกว่า 30,000 คน แต่ขณะนี้ลดลงโดยคาดว่าจะมีครูเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 20,000 คนเท่านั้น
สำหรับในวันที่ 21 ม.ค.หลังพิธีเปิดงานในเวลา 09.00 น.แล้ว ศูนย์ปฏิบัติการคัดค้านการถ่ายโอนจะมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายรุ่ง แก้วแดง รมช.ศึกษาธิการ ที่ สภ.อ.เมืองระยอง ในฐานข่มขู่จากกรณีที่ นายรุ่ง ได้พูดขึ้นในที่ประชุมครูที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า หากแกนนำครูไม่ยุติการเคลื่อนไหวอาจจะโดนอำนาจมืดอุ้มไปก็ได้ ซึ่งถือเป็นการข่มขู่คุกคามอันตรายถึงชีวิตเหมือนกรณีคดีของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความที่ถูกอุ้มหายไปก็ได้
ส่วนที่ นางพรนิภา ระบุว่า หากแกนนำครูที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบยังไม่หยุดเคลื่อนไหวคัดค้านการถ่ายโอนจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยนั้น นายอวยชัย ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหว ซึ่งตอนนี้ครูส่วนใหญ่ชาชินกับการสกัดกั้นแล้ว และยิ่งทำให้รู้สึกเหินห่างกับกระทรวงศึกษาธิการออกไปทุกที ตนขอเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงยุติการกระทำที่เป็นการรับใช้ข้าราชการการเมือง เพราะครูต่อสู้กันเพื่อการศึกษาของชาติ และทำให้ทุกท่านยังมีตำแหน่งอยู่เหนือครูต่อไปได้
“หาก สพฐ.ยังคิดจะใช้อำนาจเผด็จการครอบงำครูถือว่าตกยุค เพราะครูเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ดังนั้น สพฐ.ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว หากยังใช้อำนาจโดยมิชอบระวังว่าจะถูกเสนอชื่อถอดถอนฐานละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ฉะนั้นขอให้ทั้งนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะอดีตคณบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และนางพรนิภา ทบทวนวิธีการเดิมๆ ในการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของครูได้แล้ว”นายอวยชัย กล่าว
ขณะที่ดร.รุ่ง กล่าวถึงกรณีที่องค์กรครูจะแจ้งความดำเนินคดี ดร.รุ่ง ข้อหาข่มขู่คุกคามแกนนำครูว่า หากไม่เลิกการชุมนุมคัดค้านถ่ายโอนการศึกษา อาจถูกอำนาจมืดอุ้มไปเหมือนทนายสมชาย นีละไพจิตร ในระหว่างการประชุมชี้แจง การถ่ายโอนการศึกษาและประเมินวิทยฐานะครูที่ ร.ร.สตรีเกศสิริ จ.ศรีสะเกษ ว่า ใครจะแจ้งความจับตนก็ทำไปได้เลย ไม่มีปัญหา โดยข่าวที่ออกมามีแกนนำครูตั้งใจบิดเบือน ซึ่งตนก็ไม่ตกใจอะไร แต่ความจริงในเรื่องนี้ตนเพียงพูดว่า ครูมีทางเลือกอยู่แล้ว
คือถ้าไม่พร้อมก็ลงมติไม่โอน แต่ไม่เห็นด้วยกับครูที่เดินขบวน เพราะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร และขณะนี้เมื่อครูส่วนใหญ่เข้าใจ ก็ไม่มีใครเอากับองค์กรครูอีกแล้ว จึงต้องเป็นหน้าที่ของ ศธ.ที่จะต้องเดินสายชี้แจงให้ครูเข้าใจ มิฉะนั้น ครูจะถูกแกนนำครูหลอก
ดร.รุ่ง กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่มีพุดว่าครูส่วนใหญ่วอล์กเอาท์ออกจากที่ประชุมระหว่างที่ตนชี้แจง ที่จ.ศรีสะเกษนั้น เป็นข้อมูลผิด เพราะความจริงการประชุมดังกล่าว กำหนดเวลาเลิกไว้ที่ 16.00 น. แต่ปรากฎว่าครูให้ความสนใจเกี่ยวกับการประเมินวิทยฐานะเป็นจำนวนมาก เวลาจึงล่วงเลยถึง 17.30 น. ตนจึงบอกว่าหากใครมีภารกิจต้องทำ เช่น ไปรับลูกหรือต้องกลับพร้อมสามี ก็สามารถกลับได้ ไม่ได้เป็นการวอล์กเอาท์ของครูแต่อย่างใด เนื่องจากครูที่จ.ศรีสะเกษสนิทสนมกับตนเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงแกนนำครูก็ชื่นชมตนตลอด เพราะเคยเข้าไปช่วยเหลือเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาตั้งแต่ปี 2524 และจากการลงพื้นที่จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ พบว่ามีแกนนำครูที่คัดค้านการถ่ายโอนจำนวนไม่มาก ในขณะที่ครูส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแกนนำครู ที่สำคัญเชื่อว่าตอนนี้เรื่องถ่ายโอนจบแล้ว แม้แกนนำจะทำอะไรก็ไม่มีผล อย่างไรก็ต้องมีการโอนโรงเรียน
“ส่วนถ้าแกนนำครูจะฟ้อง แจ้งความ แจ้งจับใครก็ทำไป หากไม่มีงานทำ สำหรับผมก็ต้องขอบคุณที่จะแจ้งความผม ”ดร.รุ่งกล่าว
นายอวยชัย วะทา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กล่าวถึงการชุมนุมคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษาวันที่ 21 ม.ค.ซึ่งจะมีขึ้นที่ จ.ระยอง ว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ทำหนังสือด่วนสั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ในพื้นที่ 27 จังหวัดภาคกลาง ให้จัดประชุมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อชี้แจงเกณฑ์ในการประเมินวิทยฐานะของครูและบุคลากรทางการศึกษา ในวันที่ 21 ม.ค.ซึ่งคำสั่งดังกล่าวถือเป็นความตั้งใจที่จะสกัดกั้นครูที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษาที่ จ.ระยอง ในวันเดียวกัน
“สำหรับการชุมนุมคัดค้านในวันที่ 21 ม.ค.ครูกว่า 20,000 คน จะเดินทางมาร่วมชุมนุมคัดค้านที่วัดตะพงนอก ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง จากเดิมที่ได้ขออนุญาตใช้สนามมิ่งเมือง จ.ระยอง แต่เทศบาลเมืองระยองถูกกดดันให้ยกเลิกห้ามองค์กรครูใช้สถานที่สนามมิ่งเมืองในการชุมนุม โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ จะร่วมเสวนาในหัวข้อ “วิกฤตการศึกษา วิกฤตสังคมไทยในยุคทักษิโณมิกส์” พร้อมทั้งจะได้เปิดโอกาสให้ครูที่เข้าร่วมชุมนุมแสดงความคิดเห็น และเจตนารมณ์ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการศึกษา รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบันด้วย” นายอวยชัย กล่าว
นายอวยชัย ยืนยันด้วยว่า แม้ สพฐ.จะพยายามสกัดกั้นไม่ให้ครูออกไปร่วมชุมนุม แต่ครูส่วนใหญ่ก็ไม่รู้สึกหวั่นไหวกับคำสั่งดังกล่าว และยืนยันว่า การเดินทางไปร่วมชุมนุมคัดค้านเป็นสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งยังเป็นวันหยุดราชการด้วย แต่ก็ยอมรับว่า ความพยายามสกัดกั้นทุกวิถีทางของผู้บริหาร กพฐ.เป็นปัญหาพอสมควร เพราะจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีครูมาร่วมชุมนุมกว่า 30,000 คน แต่ขณะนี้ลดลงโดยคาดว่าจะมีครูเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 20,000 คนเท่านั้น
สำหรับในวันที่ 21 ม.ค.หลังพิธีเปิดงานในเวลา 09.00 น.แล้ว ศูนย์ปฏิบัติการคัดค้านการถ่ายโอนจะมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายรุ่ง แก้วแดง รมช.ศึกษาธิการ ที่ สภ.อ.เมืองระยอง ในฐานข่มขู่จากกรณีที่ นายรุ่ง ได้พูดขึ้นในที่ประชุมครูที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า หากแกนนำครูไม่ยุติการเคลื่อนไหวอาจจะโดนอำนาจมืดอุ้มไปก็ได้ ซึ่งถือเป็นการข่มขู่คุกคามอันตรายถึงชีวิตเหมือนกรณีคดีของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความที่ถูกอุ้มหายไปก็ได้
ส่วนที่ นางพรนิภา ระบุว่า หากแกนนำครูที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบยังไม่หยุดเคลื่อนไหวคัดค้านการถ่ายโอนจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยนั้น นายอวยชัย ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหว ซึ่งตอนนี้ครูส่วนใหญ่ชาชินกับการสกัดกั้นแล้ว และยิ่งทำให้รู้สึกเหินห่างกับกระทรวงศึกษาธิการออกไปทุกที ตนขอเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงยุติการกระทำที่เป็นการรับใช้ข้าราชการการเมือง เพราะครูต่อสู้กันเพื่อการศึกษาของชาติ และทำให้ทุกท่านยังมีตำแหน่งอยู่เหนือครูต่อไปได้
“หาก สพฐ.ยังคิดจะใช้อำนาจเผด็จการครอบงำครูถือว่าตกยุค เพราะครูเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ดังนั้น สพฐ.ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว หากยังใช้อำนาจโดยมิชอบระวังว่าจะถูกเสนอชื่อถอดถอนฐานละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ฉะนั้นขอให้ทั้งนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะอดีตคณบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และนางพรนิภา ทบทวนวิธีการเดิมๆ ในการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของครูได้แล้ว”นายอวยชัย กล่าว
ขณะที่ดร.รุ่ง กล่าวถึงกรณีที่องค์กรครูจะแจ้งความดำเนินคดี ดร.รุ่ง ข้อหาข่มขู่คุกคามแกนนำครูว่า หากไม่เลิกการชุมนุมคัดค้านถ่ายโอนการศึกษา อาจถูกอำนาจมืดอุ้มไปเหมือนทนายสมชาย นีละไพจิตร ในระหว่างการประชุมชี้แจง การถ่ายโอนการศึกษาและประเมินวิทยฐานะครูที่ ร.ร.สตรีเกศสิริ จ.ศรีสะเกษ ว่า ใครจะแจ้งความจับตนก็ทำไปได้เลย ไม่มีปัญหา โดยข่าวที่ออกมามีแกนนำครูตั้งใจบิดเบือน ซึ่งตนก็ไม่ตกใจอะไร แต่ความจริงในเรื่องนี้ตนเพียงพูดว่า ครูมีทางเลือกอยู่แล้ว
คือถ้าไม่พร้อมก็ลงมติไม่โอน แต่ไม่เห็นด้วยกับครูที่เดินขบวน เพราะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร และขณะนี้เมื่อครูส่วนใหญ่เข้าใจ ก็ไม่มีใครเอากับองค์กรครูอีกแล้ว จึงต้องเป็นหน้าที่ของ ศธ.ที่จะต้องเดินสายชี้แจงให้ครูเข้าใจ มิฉะนั้น ครูจะถูกแกนนำครูหลอก
ดร.รุ่ง กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่มีพุดว่าครูส่วนใหญ่วอล์กเอาท์ออกจากที่ประชุมระหว่างที่ตนชี้แจง ที่จ.ศรีสะเกษนั้น เป็นข้อมูลผิด เพราะความจริงการประชุมดังกล่าว กำหนดเวลาเลิกไว้ที่ 16.00 น. แต่ปรากฎว่าครูให้ความสนใจเกี่ยวกับการประเมินวิทยฐานะเป็นจำนวนมาก เวลาจึงล่วงเลยถึง 17.30 น. ตนจึงบอกว่าหากใครมีภารกิจต้องทำ เช่น ไปรับลูกหรือต้องกลับพร้อมสามี ก็สามารถกลับได้ ไม่ได้เป็นการวอล์กเอาท์ของครูแต่อย่างใด เนื่องจากครูที่จ.ศรีสะเกษสนิทสนมกับตนเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงแกนนำครูก็ชื่นชมตนตลอด เพราะเคยเข้าไปช่วยเหลือเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาตั้งแต่ปี 2524 และจากการลงพื้นที่จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ พบว่ามีแกนนำครูที่คัดค้านการถ่ายโอนจำนวนไม่มาก ในขณะที่ครูส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแกนนำครู ที่สำคัญเชื่อว่าตอนนี้เรื่องถ่ายโอนจบแล้ว แม้แกนนำจะทำอะไรก็ไม่มีผล อย่างไรก็ต้องมีการโอนโรงเรียน
“ส่วนถ้าแกนนำครูจะฟ้อง แจ้งความ แจ้งจับใครก็ทำไป หากไม่มีงานทำ สำหรับผมก็ต้องขอบคุณที่จะแจ้งความผม ”ดร.รุ่งกล่าว


