ขึ้นชื่อว่า English Program และไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาลหรือเอกชน มักจะมีผู้ปกครองจำนวนมากต่างให้ความสนใจและอยากส่งลูกหลานเข้ามาเรียน เพียงเพื่อ “อยากให้ลูกหลานสื่อสารภาษาสากลได้อย่างคล่องแคล่ว” และภาษาอังกฤษ ยังเป็นใบเบิกทางในการเรียนต่อระดับสูงและทำงานในอนาคตอีกด้วย
ปัจจุบันมีโรงเรียนทั่วประเทศที่เปิดสอน English Program รวม 181 โรง แยกออกเป็นสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 67 โรง และสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน 121 โรง และในปีการศึกษา 2549 กระทรวงศึกษาธิการอนุมัติเพิ่มอีก 4 โรง คือโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ส่วนที่เหลือ 3 โรง อยู่ต่างจังหวัด
เผดียง เสียงสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า การเปิด English Program ไม่ใช่เปิดเพราะกระแสนิยม แต่ผู้บริหารโรงเรียนรวมถึงบุคลากรทุกคน อยากเห็นเยาวชนไทยรุ่นใหม่ ฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษ เพราะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะการค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ถ้าเรามีความรู้ภาษาอังกฤษจะทำค้นคว้าข้อมูลได้ลึกมากขึ้น
นอกจากนี้ ภาษายังช่วยให้เด็กสามารถเลือกเรียนหลักสูตรนานาชาติในระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นดีกรีอันดับต้นที่รัฐวิสาหกิจ บริษัท และหน่วยงานราชการ นำมาพิจารณาประกอบในการคัดเลือกพนักงาน
“กว่ากระทรวงศึกษาธิการจะเห็นชอบและอนุมัติให้โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยเปิดดำเนินโครงการจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร เราได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ บุคลากร สื่ออุปกรณ์การเรียนการสอน
“เราใช้เวลาในการเตรียมการทุกอย่างประมาณ 2 ปี ดำเนินการปรับปรุงห้องเรียนให้เป็นห้องปรับอากาศ สำหรับสื่อการเรียนการสอนเราใช้ของสิงคโปร์ ส่วนครูผู้สอน ซึ่งกระทรวงมีเงื่อนไขไว้ว่าสถานศึกษาแห่งไหนจะเปิดสอน English Program ครูผู้สอนจะต้องเป็นเจ้าของภาษาหรือใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ตรงนี้ไม่มีปัญหา ขณะนี้เรามีครูต่างชาติที่สอนประจำ 6 คน และปีหน้าจะมาเพิ่มอีก 7 คน นอกจากยังมีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแถวหน้า อย่างเช่นมหิดล จุฬา เกษตรศาสตร์ ศิลปากร ซึ่งส่วนใหญ่สอนหลักสูตรนานาชาติมาเป็นอาจารย์พิเศษมาสอนให้นักเรียนด้วย จึงไม่มั่นว่าไม่มีปัญหาด้านผู้สอน”
เผดียงบอกด้วยว่า ก่อนที่จะให้ครูมาสอนทางโรงเรียนได้เช็ควุฒิการศึกษาว่าอย่างน้อยต้องจบปริญญาตรี พร้อมตรวจสอบความรู้ความสามารถโดยการทดลองสอนหน้าชั้นและการใช้สื่อต่างๆ เราจะสังเกตทุกอย่างรวมถึงตลอดจนสำเนียงอังกฤษว่าผิดเพี้ยนไปจากเจ้าของภาษาหรือไม่
พร้อมกันนี้ ก็จะเชิญผู้ปกครองมาร่วมทดสอบด้วยว่าสอนถูกต้องหรือไม่ สำเนียงเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะเซ็นสัญญาสอนปีต่อปี
“มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาครูผู้สอนเหมือนโรงเรียนหลายแห่งกำลังเผชิญอยู่ เพราะวันนี้มีครูต่างชาติสอนอยู่ 6 คน แต่ละคนสอนอยู่ที่นี่ไม่ต่ำกว่า 3 ปี และถ้าไม่มีการต่อสัญญาจะมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยที่สอนหลักสูตรนานาชาติมาสอน ดังนั้น ผู้ปกครองไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ อีกอย่างหนึ่งผู้อำนวยการ ตน และอาจารย์อีกหลายท่านมีประสบการณ์เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรนี้มาก่อน ที่โรงเรียนโยธินบูรณะ จึงรู้ถึงจุดดีจุดด้อย เพราะฉะนั้นเราจะกำจัดจุดด้อยให้หมดไปแล้วส่งเสริมจุดดีเพิ่มมากขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ นักเรียนที่เรียน English Program จะเรียนวิชาหลักๆ อย่างเช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สุขศึกษา เป็นภาษาอังกฤษ ยกเว้นภาษาไทย และในระหว่างที่นักเรียนเรียนอยู่ ม. 1-2 และ ม.4-5 นักเรียนจะได้รับการประเมินความรู้ความสามารถทางภาษาจากสถาบันภาษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วน ม.3 และ ม. 6 สถาบันภาษาม.ธุรกิจบัณฑิตย์จะประเมินอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ยังจัดให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม English Camp ปีละครั้ง (3 วัน 2 คืน) และเข้าค่ายคุณธรรม (2วัน 1 คืน)
“สามเสนให้สถาบันภาษามาประเมินความรู้ความสามารถด้านภาษาของนักเรียน เพื่อเป็นการทดสอบด้านภาษาอีกชั้นหนึ่ง ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือนักเรียนที่เรียน English Program ส่วนหนึ่งจะไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือไม่ก็เลือกเรียนหลักสูตรนานาชาติ”
สำหรับค่าเล่าเรียน English Program ระดับม.ต้น เฉลี่ยเทอมละ 35,000 บาท สำหรับ ม.ปลาย 40,000 บาท เพราะฉะนั้นผู้ปกครองคงต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย
“เหตุผลที่เก็บค่าเล่าเรียนสูง เนื่องจากต้องนำค่าเทอมนี้ไปจ้างครูต่างชาติ หรือเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมาสอน นอกจากนี้ นักเรียนยังเรียนห้องปรับอากาศ และมีคอมพิวเตอร์เรียนทุกคน”
อนึ่ง สามเสนวิทยาลัย กำลังจำหน่ายใบสมัครหลักสูตร English Program ระหว่างวันที่ 9 มกราคม ถึง 27 กุมภาพันธ์นี้ โดยผู้ที่จะสมัครเรียนในระดับ ม.1 จะต้องมีผลการเรียนในระหว่าง ป.4 และ ป.5 ไม่น้อยกว่า 3.50 ส่วนนักเรียนที่จะเรียนต่อ ม.4 โดยผู้สมัครจะต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 3.00 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-628-5620
