xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เปิด "คลินิกสีม่วง" แห่งแรกของไทยที่ รพ.ป่าตอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.เปิดคลินิกบริการกลุ่ม “สีม่วง” แห่งแรกของไทย ที่ รพ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เผย กลุ่มชายรักชายในภูเก็ตมีประมาณ 4,000 คน หรือ 20% พบอายุต่ำสุด 14 ปี ให้บริการดูแลโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 


วันนี้ (21 ธ.ค.) นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดศูนย์อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ศูนย์บริการการแพทย์แผนไทย “ภูเก็ต เฮลพ์ สปา” และคลินิกสุขภาพชาย “สบายดี คลินิก” ที่โรงพยาบาลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ที่หาดป่าตอง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เพื่อยกมาตรฐานการรักษาพยาบาล ทั้งเรื่องการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรที่รวดเร็ว ปลอดภัย และการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาหลักในพื้นที่

นายพินิจ กล่าวว่า สำหรับสบายดีคลินิกที่โรงพยาบาลป่าตองนี้ เป็นคลินิกที่ให้บริการดูแลรักษา ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เฉพาะกลุ่มชายรักชาย แห่งแรกของประเทศไทย สามารถเข้าถึงบริการ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข เพื่อศึกษาวิจัยรูปแบบการจัดบริการที่เหมาะสม และตรงกับความต้องการของกลุ่มชายรักชาย ก่อนขยายผลทั่วประเทศ โดยจะใช้เวลาศึกษา 1 ปี ประเมินผลทุก 6 เดือน จะสรุปผลในปลายปีหน้านี้

นายพินิจ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เรื่องเอดส์เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข โดยเน้นที่การป้องกันที่ต้นเหตุ ซึ่งปัญหาการติดเชื้อเอดส์ของประเทศไทย 84% ติดมาจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยกลุ่มชายรักชาย นับเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่มีการเปิดตัวมากขึ้น ในไทยรู้จักกันว่ากลุ่มสีม่วง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อเอดส์ เพราะคนกลุ่มนี้มีทั้งคนโสด และมีไม่น้อยที่แต่งงานมีลูก จากผลการศึกษาของศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข ในปี 2546 พบกลุ่มชายรักชายในเขต กทม. มีอัตราการติดเชื้อเอชไอวีสูงถึง 17% ที่ภูเก็ตพบอัตราติดเชื้อ 8% เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ใช้ถุงยางอนามัยน้อยมาก และบางรายใช้แต่ใช้ไม่ถูกต้อง

ทางด้านนายแพทย์ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลป่าตอง กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้น ที่จังหวัดภูเก็ต มีกลุ่มชายรักชายที่เปิดตัวประมาณ 4,000 คน หรือประมาณ 20% ของผู้ชายที่อายุเกิน 20 ปี โดยอายุที่สำรวจพบต่ำสุด 14 ปี คลินิกที่เปิดในวันนี้ จะมีแพทย์ พยาบาลให้บริการประจำ และมีเจ้าหน้าที่ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มชายรักชาย ที่ผ่านการอบรมการให้คำปรึกษาและการดูแลโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นอย่างดี และเป็นกันเองอีก 10 คน เปิดบริการเวลา 16.30 - 21.00 น.ทุกวัน จุดบริการอยู่ที่ชั้น 1 ตึกสำนักงานประกันสังคม ในคลินิกจะมีเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติพร้อมเจลหล่อลื่น ในราคาพิเศษ ซึ่งต่างจากที่อื่นๆ จะมีเครื่องจำหน่ายเฉพาะถุงยางอนามัยอย่างเดียว

นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครที่ผ่านการอบรมแล้วอีก 30 คน ซึ่งจะเป็นทีมที่ออกปฏิบัติงานให้ความรู้ และให้คำแนะนำตามกลุ่มแต่ละพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต เป็นการปรับมาตรการการทำงานแนวใหม่ ให้เข้าถึงปัญหาและเหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ เนื่องจากป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีสถานบันเทิงมากที่สุดในประเทศไทย

นายแพทย์ทวีศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในปีหน้านี้โรงพยาบาลป่าตอง มีโครงการร่วมมือกับองค์กรกาชาดของฝรั่งเศส เพื่อศึกษา 4 เรื่อง ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคมาลาเรีย โรคเอดส์ในกลุ่มชายรักชาย และแรงงานต่างด้าว เป็นโครงการร่วมมือ 3 ปี โดยฝรั่งเศสสนับสนุนงบประมาณ 30 ล้านบาท โดยเฉพาะการวิจัยโรคเอดส์ในกลุ่มชายรักชาย ซึ่งทางฝรั่งเศสสนใจเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากในแถบภูมิภาคนี้มีข้อมูลด้านนี้น้อยมาก

สำหรับศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินที่โรงพยาบาลป่าตอง ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและองค์กรต่างประเทศ โดยบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มอบเงินปรับปรุงศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินจำนวน 12 ล้านบาท และรถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต 1 คัน สมาคมแพทย์แห่งเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสโมสรโรตารี่ป่าตอง บริจาครถพยาบาล 1 คัน มูลค่า 2.5 ล้านบาท กาชาดฝรั่งเศส มอบรถพยาบาล 1 คัน มูลค่า 1.4 ล้านบาท กองทุนศัลยแพทย์โลกจากสหรัฐอเมริกา บริจาครถพยาบาล 1 คัน มูลค่า 2.5 ล้านบาท สมาคมแพทย์ไทยในสหรัฐอเมริกา บริจาคเงินสำหรับกองทุนพัฒนาบุคลากรโรงพยาบาล 1.4 ล้านบาท และคุณมนตรี ฮอทเทเมนส์ และชาวฝรั่งเศส บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย 2 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้มากขึ้น

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 จนถึงปัจจุบัน โรงพยาบาลป่าตองได้รับผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรทั้งหมด จำนวน 2,707 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติที่ประสบอุบัติเหตุจราจร จำนวน 734 ราย เฉลี่ยประมาณ 30% ทุกรายได้ให้การรักษาพยาบาลตามมาตรฐาน
กำลังโหลดความคิดเห็น