ในยุคที่หลายต่อหลายคนขวนขวายหาสารพัดวิธีในการดูแลสุขภาพตัวเอง ทั้งในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ไม่ว่าจะร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง รวมทั้งการรักษาผิวพรรณให้สดสวยและสดใสอ่อนกว่าวัย จนทำให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพของคนไทยในแต่ละปีเพิ่มสูงขึ้นๆ เป็นลำดับนั้น
คุณรู้หรือไม่ว่าการหายใจธรรดาที่เราทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น สามารถช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย รอยคล้ำ จุดด่างดำ โรคมะเร็ง โรคต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ และวิธีการทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากแต่ประการใดเพียงแค่การกำหนดลมหายใจให้ถูกวิธี ก็สามารถช่วยให้ผู้ปฏิบัติก้าวไปถึงเจตนารมณ์ข้างต้นได้เช่นกัน
ที่สำคัญคือ เป็นวิธีการที่ไม่ต้องสูญเสียเงินทองในช่วงสภาวะที่เศรษฐกิจที่ตกต่ำในปัจจุบันอีกด้วย
...และวิธีการที่ว่านี้มีชื่อว่า “ออกซิเจนเทอราปี”
พญ.วิไล ธนสารอักษร ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ออกซิเจนเทอราปีหรือการใช้ออกซิเจนจากธรรมชาติเป็นการบำบัดด้วยตนเอง เป็นศาสตร์การแพทย์ทางเลือกที่มาจากประเทศศรีลังกา
สำหรับวิธีการปฏิบัติก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยทำง่ายๆ ด้วยการเริ่มที่การหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนหมดลมแต่จะต้องกลั้นหายใจเท่าที่ร่างกายสามารถทำได้ จากนั้นให้สูดลมหายใจเข้าไปทางจมูกอย่างช้า ๆ หายใจเข้าให้เต็มปอด เมื่อเต็มปอดแล้ว กลั้นหายใจไว้ระยะหนึ่ง เพื่อให้อากาศดี ๆ เข้าไปในร่างกาย เลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เต็มที่ จากนั้นค่อยนำเอาอากาศเสียออกมาทางปากอย่างช้า ๆ อีกครั้งหนึ่ง
ทำอย่างนี้อย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาทีต่อวันเพื่อให้ออกซิเจนนำไปใช้ในส่วนอื่นๆของร่างกาย
ส่วนการปฏิบัติแบบนี้จะต้องเลือกทำในสถานที่มีอากาศดี เช่นบ้าน ที่ทำงานหรือตามใต้ต้นไม้ ไม่ควรปฏิบัติในสถานที่มีอากาศเป็นพิษอย่างท้องถนนเพราะจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
อย่างไรก็ตาม การที่จะมีสภาวะร่างกายที่แข็งแรงไม่ใช่เพียงแค่ใช้ออกซิเจนเทอราปีเพียงประการเดียวเท่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากแต่จะต้องมีการปฏิบัติตัวทางด้านอื่นให้ถูกต้องด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตัวตามหลัก 6 อ.
อ.ที่ 1 คืออาหารควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้แก่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน โปรตีน เกลือแร่ อ.ที่ 2 คืออากาศ ต้องหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ให้เพียงพอและหายใจให้ถูกวิธี อ.ที่ 3 คือเอนกาย เพราะการพักผ่อนให้เพียงพอจะส่งผลทำให้ร่างกายสามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี โดยเฉพาะในช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตี 4 เป็นการพักผ่อนที่ดี เนื่องจากเป็นเวลาที่จะกำจัดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
อ.ที่ 4 คือออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเสริมสร้างบุคลิกภาพ เลือดสามารถไหลเวียนได้เต็มที่ อ.ที่ 5 อุจจาระ ระบบขับถ่ายจะต้องดี ถ้าการขับถ่ายไม่ดีจะเกิดการเจ็บป่วยได้ ส่วน อ.ที่ 6 คืออารมณ์จะต้องดี เมื่อมีอารมณ์ดีร่างกายก็จะสงบนิ่ง ความเครียดก็จะไม่เกิด
พญ.วิไล อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำออกซิเจนเทอราปีต่อว่า ในระยะที่นำมาใช้นั้น เริ่มทดลองใช้กับคนไข้ที่เป็นสิวรักษามานานแล้วไม่หาย จึงแนะนำให้ลองทำวิธีดังกล่าวดู และปรากฏว่าเพียง 2 สัปดาห์คนไข้มีอาการดีขึ้น จากนั้นจึงนำมาประยุกต์ใช้กับโรคอื่นด้วย
สำหรับในขณะนี้ ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้ทำการวิจัยด้วยการส่งคนไข้โรคสะเก็ดเงินเข้านั่งวิปัสสนากรรมฐานร่วมกับการทำออกซิเจนเทอราปี โดยแบ่งคนไข้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1.จะทำการรักษาด้วยการฉายแสงเพียงอย่างเดียว ส่วนกลุ่มที่ 2. รักษาด้วยการฉายแสงพร้อมกับการทำออกซิเจนเทอราปีวันละ 2 ครั้งทำต่อวัน
ทั้งนี้ พบว่าการฉายแสงร่วมกับการทำออกซิเจนเทอราปีส่งผลทำให้อาการของคนไข้ดีขึ้นกว่ากลุ่มแรก เพราะการทำแบบนี้นอกจากจะทำให้ร่างกายได้อากาศดี ๆ ไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ยังช่วยให้ภาวะจิตใจนิ่งสงบ เบาสบายลง ซึ่งในภาวะที่จิตใจนิ่งสงบ จะทำให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น การเกิดอนุมูลอิสระก็ลดน้อยลง ทั้งผิวแก่ก่อนวัย รอยคล้ำ จุดด่างดำ โรคมะเร็งต่างๆ ก็จะไม่เกิด
นอกจากนั้น สภาวะที่หายใจเช่นนี้ก็สร้างความสุข ทำให้ความเครียดทั้งหลายไม่เกิดขึ้น ฮอร์โมนความเครียดก็จะไม่หลั่งออกมา ซึ่งฮอร์โมนความเครียดนี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงทันทีทำให้เกิดการติดเชื้อง่าย
“การทำออกซิเจนเทอราปีไม่เพียงแค่รักษาผู้ป่วยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถทำได้ และหมออยากให้ทดลองทำดู หากไม่มีเวลาทำได้วันละ 3 ครั้ง ก็ทำเพียงแค่ 1 ครั้งก็ได้ ซึ่งยังดีกว่าไม่ทำเลย”พญ.วิไลให้คำแนะนำทิ้งท้าย
...จะเห็นได้ว่าการรักษาโรคต่าง ๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ ย่อมเกิดผลดีทั้งยังมีประสิทธิผลและเป็นวิธีที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ขอเพียงแค่เรามีความใส่ใจและสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกวิธีโรคร้ายต่าง ๆ ก็ไม่สามารถนำพาชีวิตของเราไปก่อนเวลาอันสมควร ทั้งยังทำให้เรามีชีวิตที่สามารถดำรงต่อไปในโลกนี้อย่างมีความสุขและปราศจากโรคภัยต่าง ๆ อีกด้วย
คุณรู้หรือไม่ว่าการหายใจธรรดาที่เราทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น สามารถช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย รอยคล้ำ จุดด่างดำ โรคมะเร็ง โรคต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ และวิธีการทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากแต่ประการใดเพียงแค่การกำหนดลมหายใจให้ถูกวิธี ก็สามารถช่วยให้ผู้ปฏิบัติก้าวไปถึงเจตนารมณ์ข้างต้นได้เช่นกัน
ที่สำคัญคือ เป็นวิธีการที่ไม่ต้องสูญเสียเงินทองในช่วงสภาวะที่เศรษฐกิจที่ตกต่ำในปัจจุบันอีกด้วย
...และวิธีการที่ว่านี้มีชื่อว่า “ออกซิเจนเทอราปี”
พญ.วิไล ธนสารอักษร ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ออกซิเจนเทอราปีหรือการใช้ออกซิเจนจากธรรมชาติเป็นการบำบัดด้วยตนเอง เป็นศาสตร์การแพทย์ทางเลือกที่มาจากประเทศศรีลังกา
สำหรับวิธีการปฏิบัติก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยทำง่ายๆ ด้วยการเริ่มที่การหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนหมดลมแต่จะต้องกลั้นหายใจเท่าที่ร่างกายสามารถทำได้ จากนั้นให้สูดลมหายใจเข้าไปทางจมูกอย่างช้า ๆ หายใจเข้าให้เต็มปอด เมื่อเต็มปอดแล้ว กลั้นหายใจไว้ระยะหนึ่ง เพื่อให้อากาศดี ๆ เข้าไปในร่างกาย เลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เต็มที่ จากนั้นค่อยนำเอาอากาศเสียออกมาทางปากอย่างช้า ๆ อีกครั้งหนึ่ง
ทำอย่างนี้อย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาทีต่อวันเพื่อให้ออกซิเจนนำไปใช้ในส่วนอื่นๆของร่างกาย
ส่วนการปฏิบัติแบบนี้จะต้องเลือกทำในสถานที่มีอากาศดี เช่นบ้าน ที่ทำงานหรือตามใต้ต้นไม้ ไม่ควรปฏิบัติในสถานที่มีอากาศเป็นพิษอย่างท้องถนนเพราะจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
อย่างไรก็ตาม การที่จะมีสภาวะร่างกายที่แข็งแรงไม่ใช่เพียงแค่ใช้ออกซิเจนเทอราปีเพียงประการเดียวเท่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากแต่จะต้องมีการปฏิบัติตัวทางด้านอื่นให้ถูกต้องด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตัวตามหลัก 6 อ.
อ.ที่ 1 คืออาหารควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้แก่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน โปรตีน เกลือแร่ อ.ที่ 2 คืออากาศ ต้องหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ให้เพียงพอและหายใจให้ถูกวิธี อ.ที่ 3 คือเอนกาย เพราะการพักผ่อนให้เพียงพอจะส่งผลทำให้ร่างกายสามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี โดยเฉพาะในช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตี 4 เป็นการพักผ่อนที่ดี เนื่องจากเป็นเวลาที่จะกำจัดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
อ.ที่ 4 คือออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเสริมสร้างบุคลิกภาพ เลือดสามารถไหลเวียนได้เต็มที่ อ.ที่ 5 อุจจาระ ระบบขับถ่ายจะต้องดี ถ้าการขับถ่ายไม่ดีจะเกิดการเจ็บป่วยได้ ส่วน อ.ที่ 6 คืออารมณ์จะต้องดี เมื่อมีอารมณ์ดีร่างกายก็จะสงบนิ่ง ความเครียดก็จะไม่เกิด
พญ.วิไล อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำออกซิเจนเทอราปีต่อว่า ในระยะที่นำมาใช้นั้น เริ่มทดลองใช้กับคนไข้ที่เป็นสิวรักษามานานแล้วไม่หาย จึงแนะนำให้ลองทำวิธีดังกล่าวดู และปรากฏว่าเพียง 2 สัปดาห์คนไข้มีอาการดีขึ้น จากนั้นจึงนำมาประยุกต์ใช้กับโรคอื่นด้วย
สำหรับในขณะนี้ ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้ทำการวิจัยด้วยการส่งคนไข้โรคสะเก็ดเงินเข้านั่งวิปัสสนากรรมฐานร่วมกับการทำออกซิเจนเทอราปี โดยแบ่งคนไข้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1.จะทำการรักษาด้วยการฉายแสงเพียงอย่างเดียว ส่วนกลุ่มที่ 2. รักษาด้วยการฉายแสงพร้อมกับการทำออกซิเจนเทอราปีวันละ 2 ครั้งทำต่อวัน
ทั้งนี้ พบว่าการฉายแสงร่วมกับการทำออกซิเจนเทอราปีส่งผลทำให้อาการของคนไข้ดีขึ้นกว่ากลุ่มแรก เพราะการทำแบบนี้นอกจากจะทำให้ร่างกายได้อากาศดี ๆ ไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ยังช่วยให้ภาวะจิตใจนิ่งสงบ เบาสบายลง ซึ่งในภาวะที่จิตใจนิ่งสงบ จะทำให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น การเกิดอนุมูลอิสระก็ลดน้อยลง ทั้งผิวแก่ก่อนวัย รอยคล้ำ จุดด่างดำ โรคมะเร็งต่างๆ ก็จะไม่เกิด
นอกจากนั้น สภาวะที่หายใจเช่นนี้ก็สร้างความสุข ทำให้ความเครียดทั้งหลายไม่เกิดขึ้น ฮอร์โมนความเครียดก็จะไม่หลั่งออกมา ซึ่งฮอร์โมนความเครียดนี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงทันทีทำให้เกิดการติดเชื้อง่าย
“การทำออกซิเจนเทอราปีไม่เพียงแค่รักษาผู้ป่วยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถทำได้ และหมออยากให้ทดลองทำดู หากไม่มีเวลาทำได้วันละ 3 ครั้ง ก็ทำเพียงแค่ 1 ครั้งก็ได้ ซึ่งยังดีกว่าไม่ทำเลย”พญ.วิไลให้คำแนะนำทิ้งท้าย
...จะเห็นได้ว่าการรักษาโรคต่าง ๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ ย่อมเกิดผลดีทั้งยังมีประสิทธิผลและเป็นวิธีที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ขอเพียงแค่เรามีความใส่ใจและสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกวิธีโรคร้ายต่าง ๆ ก็ไม่สามารถนำพาชีวิตของเราไปก่อนเวลาอันสมควร ทั้งยังทำให้เรามีชีวิตที่สามารถดำรงต่อไปในโลกนี้อย่างมีความสุขและปราศจากโรคภัยต่าง ๆ อีกด้วย
