เซเว่นอีเลฟเว่น หงายเก๋ง หมดทางดิ้น สธ.เผยผลกฤษฎีกาตีความกรณีห้ามโชว์บุหรี่ ณ จุดขาย ระบุชัดห้ามโชว์บุหรี่ไม่ขัดกฎหมาย ต้องเก็บลง พร้อมเรียกร้องร้านค้าสนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลั่นหลังจากนี้เมื่อออกตรวจพบการฝ่าฝืนจะจับปรับทันที
จากกรณีที่กรณีโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ตีความประเด็นการแสดงผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ จุดขาย เป็นการกระทำผิดมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 หรือไม่ และกระทรวงสาธารณสุข สามารถออกกฎเกณฑ์มาบังคับใช้ได้หรือไม่ และการบังคับใช้ต้องคำนึงถึงกฎหมายฉบับอื่นด้วยหรือไม่
ซึ่งล่าสุด มีบริษัทบุหรี่ข้ามชาติแจ้งไปยังร้านค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่องมาตรการห้ามแสดงตั้งวางและโฆษณาบุหรี่ ณ จุดขาย ซึ่งออกตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคยาสูบ พ.ศ. 2535 ว่าการวางสินค้าโชว์ ณ จุดขาย เสร็จเรียบร้อยแล้ว ร้านค้าปลีกสามารถโชว์บุหรี่ ณจุดขายได้ เพราะไม่ละเมิดกฎหมาย
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีการะบุชัดเจนว่าการโชว์บุหรี่ ณ จุดขายเข้าข่ายการโฆษณา การบังคับใช้กฎหมายของ สธ.จึงสามารถดำเนินการได้ ซึ่งตนขอเรียกร้องให้ร้านค้าผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2548 เพื่อแก้ปัญหาสังคมไม่ให้เด็กและวัยรุ่นเป็นผู้สูบบุหรี่รายใหม่ อีกทั้งเป็นการสนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้วย
"กฤษฎีกา ระบุว่า การแสดงผลิตภัณฑ์ยาสูบไว้ในตำแหน่งที่คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้ง่ายโดยการนำซองผลิตภัณฑ์ยาสูบมาตั้งหรือวางเรียงให้เห็นเป็นที่สะดุดตาเป็นพิเศษ เป็นการแสดงเจตนาเพื่อการโฆษณายิ่งกว่าการแสดงเพื่อขายตามปกติ หรือถ้ามีข้อเท็จจริงว่าผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ขายในการเจาะจงตำแหน่งที่จะแสดงผลิตภัณฑ์ยาสูบย่อมเข้าข่ายโฆษณาอันต้องห้ามตามมาตรา 8 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535” นพ.ณรงค์ กล่าว
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า หากร้านค้านำบุหรี่ยี่ห้อละซองมาวางเรียงกันหลาบสิบซองก็เข้าข่ายโฆษณาเช่นกัน ถือเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามคำวินิจฉัย ซึ่งการตีความครั้งนี้ ถือว่าสิ้นสุดแล้ว สธ.สามารถบังคับใช้กฎหมายที่ออกตามมาตรา 8 ได้ ซึ่งที่ผ่านมาร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ร้านค้าปลีกให้ความร่วมมือไม่โชว์บุหรี่ ณ จุดขายเป็นอย่างดี แต่กรณีของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กระทำการฝ่าฝืนในหลายจังหวัด ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานไหว้หมดแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ได้ตักเตือนด้วยวาจาและส่งหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรรวมแล้ว 2 ครั้ง
หลังจากนี้ เมื่อออกตรวจพบการฝ่าฝืนจะจับปรับทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมให้ความร่วมมือโดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน200,000 บาท โดยปรับเป็นรายคดี
ด้าน นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ขอศึกษาคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน หลังจากนั้น จึงให้แนวปฏิบัติเพิ่มเติม
ขณะที่ นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย กล่าวว่า เห็นดีด้วยกับมาตรการที่ สธ.จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด หลังจากที่กฤษฎีกาตีความมาแล้ว ทั้งนี้เพราะการตีความของกฤษฎีกาแม้จะตีความไม่ชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องปกติเพราะกฤษฎีกาเปรียบเหมือนที่ปรึกษาที่ให้ความหมายกว้างๆ
ดังนั้น หาก สธ.ดำเนินการตามกฎหมายเรื่องก็จะส่งไปถึงชั้นศาล การตัดสินของศาลจะถือเป็นอันสิ้นสุด และร้านค้าปลีกที่ฝ่าฝืนกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตาม
“ผมท้าทายร้านค้าปลีก โดยเฉพาะร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เลยว่า ถ้ายังตีความเข้าข้างตัวเอง ก็วางบุหรี่ ณ จุดขายต่อไป แล้วทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากนั้นการตัดสินจะเป็นอันสิ้นสุดทันที” นพ.หทัยกล่าว