อธิบดีกรมการศาสนา จับตาลัทธิ “ราเอลเลียน” อ้างมนุษย์ต่างดาวเป็นผู้สร้างมนุษย์โลก รับบริจาคสร้างสถานทูตมนุษย์ต่างดาว เตรียมรับศาสดาที่จะมาเยือนโลก ตรวจสอบเว็บไซต์พบคำสอนผิดคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม พร้อมประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตรวจสอบผิดกฎหมายหรือไม่

กรณีกลุ่มลัทธิ “ราเอลเลียน” ออกเอกสารและเปิดเว็บไซต์เผยแพร่ความเชื่อ เรื่องมนุษย์บนโลกถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาว พร้อมชักชวนผู้ศรัทธาบริจาคเงิน อ้างว่าจะนำไปจัดสร้างสถานทูตมนุษย์ต่างดาว ต้อนรับศาสดาที่จะเดินทางมาเยือนโลกนั้น นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ขณะนี้เข้าตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าคำสอนผิดคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม แม้ว่ารัฐธรรมนูญของไทยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนนับถือศาสนาใดก็ได้ แต่ต้องไม่ผิดศีลธรรมและไม่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่ดูถูกศาสนาอื่น แต่ปรากฏว่าลัทธินี้บอกว่ามนุษย์ต่างด้าวเป็นผู้สร้างศาสดาของแต่ละศาสนา ซึ่งยอมไม่ได้เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยกสามัคคีและขัดต่อวัฒนธรรมประเพณีไทย ซึ่งมีการนำเรื่องเพศมาเป็นตัวนำทางด้านนี้รวมถึงมีการเรี่ยไรเงิน ซึ่งผิดกฎหมายว่าด้วยการเรี่ยไรของกระทรวงมหาดไทย
นายปรีชา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังประสานว่าการเรี่ยไรที่ไม่ได้รับอนุญาตต้องจับกุมดำเนินคดี นอกจากนี้ยังเป็นการเรี่ยไรที่โฆษณาชวนเชื่อให้หลงมัวเมา โดยเป็นสมาชิกชั่วคราว จะต้องแบ่งรายได้ให้ ร้อยละ 3 แต่ถ้าเป็นสมาชิกถาวรต้องแบ่งรายได้ให้ร้อยละ 7 และถ้าเสียชีวิตไปแล้วทรัพย์สมบัติต้องแบ่งให้ลัทธินี้ จึงต้องสอบเรื่องเหล่านี้

“กรมการศาสนากำลังประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงฯ กระทรวงมหาดไทย ช่วยดูแลสิ่งเหล่านี้ว่า ลัทธินี้ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละหน่วยหรือไม่ ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม เรื่องคุณธรรม จริยธรรม เราไม่เอาไว้ ขอให้ตรวจสอบและมีการกระทำผิดซึ่งหน้า” นายปรีชากล่าว และว่าที่ลัทธินี้ระบุว่ามีการประชุมในประเทศไทยปีละ 4 ครั้งนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเองเพราะถ้ามีการประชุมเช่นนั้นเองจะต้องมีการติดตามเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้แน่นอน
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทราบเพียงชื่อของผู้นำลัทธิในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้พบกัน ทราบว่ามีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าจะขอเข้าพบตนเพื่อมาชี้แจงความเป็นมาเป็นไปของลัทธิ ตนไม่ขัดข้องที่จะรับฟัง แต่ถ้าผิดระเบียบหรือกฎหมายจะต้องว่ากล่าวตักเตือน เพราะยังไม่ใช่ความผิดที่เห็นจริง แต่ถ้าผิดก็ต้องจับกุมดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าประชาชนเข้าใจและไม่ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ เพราะในยุคโลกาภิวัตน์ทุกคนมีการศึกษาและมีการสื่อสารที่รวดเร็ว ดังนั้น กลลวงต่างๆ หรือการต้มตุ๋นเป็นเรื่องยาก ต้องทำอะไรที่ซับซ้อนกว่านี้ สิ่งที่ผิดคุณธรรมไม่สามารถมาหลอกต้มตุ๋นคนไทยได้
กรณีกลุ่มลัทธิ “ราเอลเลียน” ออกเอกสารและเปิดเว็บไซต์เผยแพร่ความเชื่อ เรื่องมนุษย์บนโลกถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาว พร้อมชักชวนผู้ศรัทธาบริจาคเงิน อ้างว่าจะนำไปจัดสร้างสถานทูตมนุษย์ต่างดาว ต้อนรับศาสดาที่จะเดินทางมาเยือนโลกนั้น นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ขณะนี้เข้าตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าคำสอนผิดคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม แม้ว่ารัฐธรรมนูญของไทยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนนับถือศาสนาใดก็ได้ แต่ต้องไม่ผิดศีลธรรมและไม่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่ดูถูกศาสนาอื่น แต่ปรากฏว่าลัทธินี้บอกว่ามนุษย์ต่างด้าวเป็นผู้สร้างศาสดาของแต่ละศาสนา ซึ่งยอมไม่ได้เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยกสามัคคีและขัดต่อวัฒนธรรมประเพณีไทย ซึ่งมีการนำเรื่องเพศมาเป็นตัวนำทางด้านนี้รวมถึงมีการเรี่ยไรเงิน ซึ่งผิดกฎหมายว่าด้วยการเรี่ยไรของกระทรวงมหาดไทย
นายปรีชา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังประสานว่าการเรี่ยไรที่ไม่ได้รับอนุญาตต้องจับกุมดำเนินคดี นอกจากนี้ยังเป็นการเรี่ยไรที่โฆษณาชวนเชื่อให้หลงมัวเมา โดยเป็นสมาชิกชั่วคราว จะต้องแบ่งรายได้ให้ ร้อยละ 3 แต่ถ้าเป็นสมาชิกถาวรต้องแบ่งรายได้ให้ร้อยละ 7 และถ้าเสียชีวิตไปแล้วทรัพย์สมบัติต้องแบ่งให้ลัทธินี้ จึงต้องสอบเรื่องเหล่านี้
“กรมการศาสนากำลังประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงฯ กระทรวงมหาดไทย ช่วยดูแลสิ่งเหล่านี้ว่า ลัทธินี้ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละหน่วยหรือไม่ ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม เรื่องคุณธรรม จริยธรรม เราไม่เอาไว้ ขอให้ตรวจสอบและมีการกระทำผิดซึ่งหน้า” นายปรีชากล่าว และว่าที่ลัทธินี้ระบุว่ามีการประชุมในประเทศไทยปีละ 4 ครั้งนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเองเพราะถ้ามีการประชุมเช่นนั้นเองจะต้องมีการติดตามเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้แน่นอน
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทราบเพียงชื่อของผู้นำลัทธิในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้พบกัน ทราบว่ามีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าจะขอเข้าพบตนเพื่อมาชี้แจงความเป็นมาเป็นไปของลัทธิ ตนไม่ขัดข้องที่จะรับฟัง แต่ถ้าผิดระเบียบหรือกฎหมายจะต้องว่ากล่าวตักเตือน เพราะยังไม่ใช่ความผิดที่เห็นจริง แต่ถ้าผิดก็ต้องจับกุมดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าประชาชนเข้าใจและไม่ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ เพราะในยุคโลกาภิวัตน์ทุกคนมีการศึกษาและมีการสื่อสารที่รวดเร็ว ดังนั้น กลลวงต่างๆ หรือการต้มตุ๋นเป็นเรื่องยาก ต้องทำอะไรที่ซับซ้อนกว่านี้ สิ่งที่ผิดคุณธรรมไม่สามารถมาหลอกต้มตุ๋นคนไทยได้