กระทรวงสาธารณสุขสั่งสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งตรวจสอบต้นไม้ยาผีบอกที่ชาวบ้านปากพนังนำไปต้มกิน เบื้องต้นคาดเป็นต้นกัลปพฤกษ์ เก็บตัวอย่างกิ่งและใบส่งตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ชี้ไม่มีพืชสมุนไพรชนิดใด ครอบจักรวาล รักษาได้ทุกโรค
จากกรณีข่าว นางแช่ม คำศรี ชาวปากพนัง นำใบไม้มาต้มกินรักษาโรค เนื่องจากนายเฉลิม ลูกชาย ฝันว่าในป่าหลังบ้านของนางทิ่น สงขาว อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 65 หมู่ 8 ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มีต้นไม้มีลักษณะใบเหมือนต้นมะขาม มีสรรพคุณรักษาโรคได้ทุกชนิด นางแช่มจึงนำใบไม้-กิ่งไม้ของต้นไม้ดังกล่าวมาต้มกิน เพื่อรักษาโรคเบาหวานที่ตนเป็นอยู่และรู้สึกว่าอาการดีขื้น จนทำให้ชาวบ้านปากพนังอีกหลายคน พากันไปตัดใบไม้-กิ่งไม้มาต้มกินโดยเชื่อว่าสามารถรักษาได้ทุกโรคนั้น
นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นต้นไม้ชนิดใด มีสรรพคุณในการรักษาโรคตามตำราสมุนไพรไทยหรือไม่ เพราะการใช้สมุนไพรไทยรักษาโรคนั้น ต้องรู้ว่าส่วนใดมีสรรพคุณในการรักษา
ด้าน นายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตำบลคลองกระบือ จากการตรวจสอบลักษณะต้นไม้ในเบื้องต้น พบว่า เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 12 เมตร ลักษณะใบและฝักคล้ายต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งส่วนของต้นกัลปพฤกษ์ที่มีสรรพคุณในทางยา ได้แก่ เนื้อในฝัก ใช้เป็นยาระบาย แก้พรรดึก เปลือกฝักและเมล็ด มีรสขมเอียน ทำให้อาเจียน ลดพิษไข้ได้ อย่างไรก็ดี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เก็บตัวอย่างใบ กิ่ง และฝักของต้นไม้ดังกล่าว ส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพิสูจน์ว่ามีสารอันตรายหรือไม่ต่อไป
นายแพทย์นพพรกล่าวต่อไปว่า สมุนไพรแต่ละชนิดมีสรรพคุณรักษาโรคแตกต่างกันไป หากเป็นสมุนไพรที่ไม่รู้จักก็ควรนำมารับประทาน เพราะแทนที่จะเป็นประโยชน์กลับเป็นโทษต่อร่างกาย ขอยืนยันว่าไม่มีสมุนไพรชนิดใดที่สามารถรักษาได้ทุกโรค
"สำหรับกรณีที่ชาวบ้านบอกว่าหลังกินน้ำต้มใบไม้ดังกล่าวแล้วอาการดีขึ้นนั้น คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากจิตใจบวกกับความเชื่อที่ว่าต้นไม้มีสรรพคุณรักษาทุกโรค จึงดูเหมือนว่าทำให้อาการดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งผู้ป่วยประเภทนี้ อาการจะดีขึ้นหรือไม่นั้นจะต้องดูผลจากระดับน้ำตาลในเลือดประกอบการรักษา และจะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ขณะเดียวกันได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาโรคเบาหวานแก่นางแช่ม คำศรีที่บอกว่าหลังกินยาต้มสมุนไพรแล้วอาการทุเลาลง" นายแพทย์นพพรกล่าว
จากกรณีข่าว นางแช่ม คำศรี ชาวปากพนัง นำใบไม้มาต้มกินรักษาโรค เนื่องจากนายเฉลิม ลูกชาย ฝันว่าในป่าหลังบ้านของนางทิ่น สงขาว อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 65 หมู่ 8 ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มีต้นไม้มีลักษณะใบเหมือนต้นมะขาม มีสรรพคุณรักษาโรคได้ทุกชนิด นางแช่มจึงนำใบไม้-กิ่งไม้ของต้นไม้ดังกล่าวมาต้มกิน เพื่อรักษาโรคเบาหวานที่ตนเป็นอยู่และรู้สึกว่าอาการดีขื้น จนทำให้ชาวบ้านปากพนังอีกหลายคน พากันไปตัดใบไม้-กิ่งไม้มาต้มกินโดยเชื่อว่าสามารถรักษาได้ทุกโรคนั้น
นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นต้นไม้ชนิดใด มีสรรพคุณในการรักษาโรคตามตำราสมุนไพรไทยหรือไม่ เพราะการใช้สมุนไพรไทยรักษาโรคนั้น ต้องรู้ว่าส่วนใดมีสรรพคุณในการรักษา
ด้าน นายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตำบลคลองกระบือ จากการตรวจสอบลักษณะต้นไม้ในเบื้องต้น พบว่า เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 12 เมตร ลักษณะใบและฝักคล้ายต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งส่วนของต้นกัลปพฤกษ์ที่มีสรรพคุณในทางยา ได้แก่ เนื้อในฝัก ใช้เป็นยาระบาย แก้พรรดึก เปลือกฝักและเมล็ด มีรสขมเอียน ทำให้อาเจียน ลดพิษไข้ได้ อย่างไรก็ดี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เก็บตัวอย่างใบ กิ่ง และฝักของต้นไม้ดังกล่าว ส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพิสูจน์ว่ามีสารอันตรายหรือไม่ต่อไป
นายแพทย์นพพรกล่าวต่อไปว่า สมุนไพรแต่ละชนิดมีสรรพคุณรักษาโรคแตกต่างกันไป หากเป็นสมุนไพรที่ไม่รู้จักก็ควรนำมารับประทาน เพราะแทนที่จะเป็นประโยชน์กลับเป็นโทษต่อร่างกาย ขอยืนยันว่าไม่มีสมุนไพรชนิดใดที่สามารถรักษาได้ทุกโรค
"สำหรับกรณีที่ชาวบ้านบอกว่าหลังกินน้ำต้มใบไม้ดังกล่าวแล้วอาการดีขึ้นนั้น คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากจิตใจบวกกับความเชื่อที่ว่าต้นไม้มีสรรพคุณรักษาทุกโรค จึงดูเหมือนว่าทำให้อาการดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งผู้ป่วยประเภทนี้ อาการจะดีขึ้นหรือไม่นั้นจะต้องดูผลจากระดับน้ำตาลในเลือดประกอบการรักษา และจะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ขณะเดียวกันได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาโรคเบาหวานแก่นางแช่ม คำศรีที่บอกว่าหลังกินยาต้มสมุนไพรแล้วอาการทุเลาลง" นายแพทย์นพพรกล่าว