เผยเทคนิคใหม่ขนาดอวัยวะเพศ ใช้โครงร่างไหมละลาย แพทย์รพ.ปิยะเวทชี้เพิ่มได้ทั้งความยาวและขนาด ระบุมีผลข้างเคียงน้อยและในยุโรปผ่าตัดด้วยวิธีนี้มาแล้ว 204 ราย พร้อมแนะหากใครมีความสุขกับชีวิตคู่ และพึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะมาเพิ่มขนาด
จากกรณีที่มีข่าวชายไทยที่ไม่ชอบขนาดของตนเอง นิยมเพิ่มขนาดอวัยเพศด้วยการฉีดสารแปลกปลอม เช่น นำมันมะกอก ซิลิโคน เข้าไปในอวัยเพศจนบวม เน่า จนบางรายต้องตัดอวัยวะเพศทิ้งนั้น ล่าสุดในการประชุมวิชาการของโรงพยาบาลปิยะเวท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมเพิ่มขนาดจากต่างประเทศได้สาธิตการผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายด้วยวิธีใช้โครงร่างไหมละลาย (Scafflod) ซึ่งสามารถเพิ่มทั้งเส้นรอบวงและความยาวได้จริง โดยมีผลข้างเคียงน้อย และมีการผ่าตัดด้วยวิธีนี้มาแล้ว 204 ราย ในประเทศแถบยุโรป
น.พ.ภูมิศักดิ์ ศักดิ์ศรี ศัลยแพทย์ สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการออกมาให้ข้อมูลในครั้งนี้เป็นการให้ความรู้ประชาชนว่าการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดสามารถทำได้จริง และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการไปฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายจนต้องตัดทิ้ง
ดังนั้น ประชาชนจึงต้องพิจารณาเองว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากใครมีความสุขกับชีวิตคู่ และพึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะมาเพิ่มขนาด และก่อนที่จะมีการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดนั้นจะมีแพทย์ 3 สาขา คือ อายุรแพทย์ จิตแพทย์ ศัลยแพทย์ ประเมินสุขภาพกายและด้านจิตใจก่อน
น.พ.ภูมิศักดิ์กล่าวว่า วิธีการเพิ่มความยาว ทำได้หลายแบบคือ 1.วิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น โดยใช้น้ำหนักถ่วง ใช้ตัวยึด ใช้สูญญากาศดึง ทั้งหมดนี้อาจยืดได้ประมาณ 2 ซม. ในเวลา 2 ปี แต่เมื่อหยุดใช้เครื่องมือ ความยาวที่ได้เพิ่มจะลดลง 2.วิธีการผ่าตัดแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ วิธีการผ่าตัดเพิ่มความยาว ด้วยการตัดบางส่วนของพังผืดที่ยึดฐานองคชาตกับกระดูกเชิงกราน วิธีนี้จะได้ความยาวเพิ่มประมาณ 2 ซม. ในขณะไม่แข็งตัว แต่เมื่อแข็งตัวแล้วจะเท่าเดิม และวิธีการเพิ่มขนาดเส้นรอบวงองคชาตด้วยการใช้สารจากตัวผู้ป่วยเอง ประกอบด้วยวัสดุโครงร่าง ผ่าตัดใส่คลุมบนแกน จะได้เส้นรอบวงเพิ่มถึง 2 – 4 ซม. โดยมีปัญหาน้อยที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีการฉีดสารที่ปลอดภัย เช่น Hydrogel ฯลฯ เพิ่มที่ปลายองคชาต เพื่อเพิ่มขนาดเฉพาะส่วนก็ได้พอดี และมีปัญหาแทรกซ้อนน้อยมาก
น.พ.ภูมิศักดิ์กล่าวว่า ในการเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นด้วยวิธีการใช้โครงร่างไหมละลาย (Scafflod) โดยการนำวัสดุที่ทำมาจากไหมละลายที่ใช้ใมนการทางแพทย์ เพื่อนำมาทำโครงร่างขนาดยาวประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อนำมาใช้เป็นเหมือนคอนโดมิเนียมให้สารคอลลาเจนที่มีอยู่ในร่างกายเข้าไปยึดเกาะและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมา จากนั้นก็ผ่าตัดเปิดหนังหุ้มองคชาติออกจากนั้นนำโครงร่างไหมละลายที่ได้ไปหุ้มองคชาติไว้ จะสามารถเพิ่มความหนา และความยาวได้ประมาณ 2-4 เซนติเมตร ซึ่งหลังจากโครงร่างไหมละลายอยู่ในร่างกายประมาณ 6 เดือนจะละลายออกไปจนหมด เหลือเพียงเนื้อเยื่อ ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ซึ่งวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1-2 แสนบาท
หลังจากที่ผ่าตัดแล้วหากมีการใช้เครื่องมือสุญญากาศร่วมด้วยจะสามารถเพิ่มขนาดองคชาติได้ประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อรวมกับที่ผ่าตัดเพิ่มความยาวอีก 2-4 เซนติเมตร และการผ่าตัดด้วยวิธีโครงร่างไหมละลายจะเพิ่มความยาวได้อีก 2-4 เซนติเมตร ดังนั้น เมื่อรวมวิธีการทั้งหมดจะมีองคชาติยาวเพิ่มขึ้นได้ 6-10 เซนติเมตร ความหนาของเส้นรอบวงประมาณ 2-4 เซนติเมตร
น.พ.ภูมิศักดิ์ กล่าวว่า ขนาดมาตรฐานขององคชาต จากการสำรวจโดยทั่วไปแปรเปลี่ยนตามเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความยาวขณะไม่แข็งตัว 9 ซม. ขณะแข็งตัวแล้ว 12.5 ซม. เส้นรอบวงขณะแข็งตัว 10 ซม.ดังนั้นคนไข้ประเภทที่ควรจะพิจารณาผ่าตัดคือ ผู้ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ และมีกายวิภาคขององคชาตผิดปกติ หรือผู้ที่มีขนาดปกติแต่ไม่ยอมรับขนาดของตนเอง ซึ่งต้องได้รับการประเมินสภาพจิตใจจากแพทย์ว่าปกติก่อนทำการรักษา
จากกรณีที่มีข่าวชายไทยที่ไม่ชอบขนาดของตนเอง นิยมเพิ่มขนาดอวัยเพศด้วยการฉีดสารแปลกปลอม เช่น นำมันมะกอก ซิลิโคน เข้าไปในอวัยเพศจนบวม เน่า จนบางรายต้องตัดอวัยวะเพศทิ้งนั้น ล่าสุดในการประชุมวิชาการของโรงพยาบาลปิยะเวท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมเพิ่มขนาดจากต่างประเทศได้สาธิตการผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายด้วยวิธีใช้โครงร่างไหมละลาย (Scafflod) ซึ่งสามารถเพิ่มทั้งเส้นรอบวงและความยาวได้จริง โดยมีผลข้างเคียงน้อย และมีการผ่าตัดด้วยวิธีนี้มาแล้ว 204 ราย ในประเทศแถบยุโรป
น.พ.ภูมิศักดิ์ ศักดิ์ศรี ศัลยแพทย์ สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการออกมาให้ข้อมูลในครั้งนี้เป็นการให้ความรู้ประชาชนว่าการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดสามารถทำได้จริง และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการไปฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายจนต้องตัดทิ้ง
ดังนั้น ประชาชนจึงต้องพิจารณาเองว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากใครมีความสุขกับชีวิตคู่ และพึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะมาเพิ่มขนาด และก่อนที่จะมีการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดนั้นจะมีแพทย์ 3 สาขา คือ อายุรแพทย์ จิตแพทย์ ศัลยแพทย์ ประเมินสุขภาพกายและด้านจิตใจก่อน
น.พ.ภูมิศักดิ์กล่าวว่า วิธีการเพิ่มความยาว ทำได้หลายแบบคือ 1.วิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น โดยใช้น้ำหนักถ่วง ใช้ตัวยึด ใช้สูญญากาศดึง ทั้งหมดนี้อาจยืดได้ประมาณ 2 ซม. ในเวลา 2 ปี แต่เมื่อหยุดใช้เครื่องมือ ความยาวที่ได้เพิ่มจะลดลง 2.วิธีการผ่าตัดแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ วิธีการผ่าตัดเพิ่มความยาว ด้วยการตัดบางส่วนของพังผืดที่ยึดฐานองคชาตกับกระดูกเชิงกราน วิธีนี้จะได้ความยาวเพิ่มประมาณ 2 ซม. ในขณะไม่แข็งตัว แต่เมื่อแข็งตัวแล้วจะเท่าเดิม และวิธีการเพิ่มขนาดเส้นรอบวงองคชาตด้วยการใช้สารจากตัวผู้ป่วยเอง ประกอบด้วยวัสดุโครงร่าง ผ่าตัดใส่คลุมบนแกน จะได้เส้นรอบวงเพิ่มถึง 2 – 4 ซม. โดยมีปัญหาน้อยที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีการฉีดสารที่ปลอดภัย เช่น Hydrogel ฯลฯ เพิ่มที่ปลายองคชาต เพื่อเพิ่มขนาดเฉพาะส่วนก็ได้พอดี และมีปัญหาแทรกซ้อนน้อยมาก
น.พ.ภูมิศักดิ์กล่าวว่า ในการเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นด้วยวิธีการใช้โครงร่างไหมละลาย (Scafflod) โดยการนำวัสดุที่ทำมาจากไหมละลายที่ใช้ใมนการทางแพทย์ เพื่อนำมาทำโครงร่างขนาดยาวประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อนำมาใช้เป็นเหมือนคอนโดมิเนียมให้สารคอลลาเจนที่มีอยู่ในร่างกายเข้าไปยึดเกาะและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมา จากนั้นก็ผ่าตัดเปิดหนังหุ้มองคชาติออกจากนั้นนำโครงร่างไหมละลายที่ได้ไปหุ้มองคชาติไว้ จะสามารถเพิ่มความหนา และความยาวได้ประมาณ 2-4 เซนติเมตร ซึ่งหลังจากโครงร่างไหมละลายอยู่ในร่างกายประมาณ 6 เดือนจะละลายออกไปจนหมด เหลือเพียงเนื้อเยื่อ ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ซึ่งวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1-2 แสนบาท
หลังจากที่ผ่าตัดแล้วหากมีการใช้เครื่องมือสุญญากาศร่วมด้วยจะสามารถเพิ่มขนาดองคชาติได้ประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อรวมกับที่ผ่าตัดเพิ่มความยาวอีก 2-4 เซนติเมตร และการผ่าตัดด้วยวิธีโครงร่างไหมละลายจะเพิ่มความยาวได้อีก 2-4 เซนติเมตร ดังนั้น เมื่อรวมวิธีการทั้งหมดจะมีองคชาติยาวเพิ่มขึ้นได้ 6-10 เซนติเมตร ความหนาของเส้นรอบวงประมาณ 2-4 เซนติเมตร
น.พ.ภูมิศักดิ์ กล่าวว่า ขนาดมาตรฐานขององคชาต จากการสำรวจโดยทั่วไปแปรเปลี่ยนตามเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความยาวขณะไม่แข็งตัว 9 ซม. ขณะแข็งตัวแล้ว 12.5 ซม. เส้นรอบวงขณะแข็งตัว 10 ซม.ดังนั้นคนไข้ประเภทที่ควรจะพิจารณาผ่าตัดคือ ผู้ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ และมีกายวิภาคขององคชาตผิดปกติ หรือผู้ที่มีขนาดปกติแต่ไม่ยอมรับขนาดของตนเอง ซึ่งต้องได้รับการประเมินสภาพจิตใจจากแพทย์ว่าปกติก่อนทำการรักษา