สพฐ. เตรียมคลอดมาตรการให้เด็กเกรดต่ำกว่า 1.00 เรียนซ้ำชั้น หลังพบปัญหา โรงเรียนปล่อยให้เด็กอ่อนสอบผ่าน ส่งผลต่อระบบคุณภาพการศึกษา ส่วน49 เขตพื้นที่ฯ ทยอยประกาศรายชื่อสอบบรรจุครู
นางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงผลการประชุมบอร์ด กพฐ. ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามแนวทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับการที่สถานศึกษาไม่ให้นักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำเรียนซ้ำชั้น ทำให้สถานศึกษาขาดคุณภาพขาดคุณภาพ ล่าสุดได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมกรรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
ได้แก่ 1.ในการจัดการเรียนการสอนให้มีการประเมินผลการเรียนเป็นระยะๆ เพื่อปรับปรุง พัฒนาตัวเด็ก หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในตัวผู้เรียนต้องซ่อมเสริมทันที แล้วประเมินผลปลายปี 2.เรียนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว ในกรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินรายวิชา
โดยมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้เรียนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัวอีกครั้ง3.เรียนซ้ำชั้นรายวิชา หากเรียนซ่อมเสริม และสอบแก้ตัวแล้ว นักเรียนยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินรายวิชาใด ให้เรียนซ้ำในรายวิชานั้น และ4.ให้เรียนซ้ำชั้น หากพบว่า นักเรียนมีระดับผลการเรียนเฉลี่ยของปีที่ผ่านมาต่ำกว่า 1 และมีความประพฤติไม่เหมาะสม อย่าง ร้ายแรง ขาดความรับผิดชอบในการเรียน รวมทั้งผู้ปกครองเห็นสมควรให้เรียนซ้ำ จะจัดให้เรียนซ้ำชั้นในปีต่อไป และต้องยกเลิกผลการเรียนเดิมของรายวิชาที่เรียนซ้ำทุกรายวิชา และให้ใช้ผลการเรียนใหม่แทน
“สถานศึกษาหลายแห่งมีการเข้าใจผิดมาตลอดว่ากระทรวงไม่ให้เด็กเรียนซ้ำชั้น ทำให้มีการปล่อยให้เด็กหนีเรียน เด็กเกเร ไม่ตั้งใจเรียน ได้ใจว่าเรียนบ้างไม่เรียนบ้างทางครูก็ให้ผ่าน ต่อไป หากระเบียบนี้นำออกมาใช้จะกระตุ้นให้เด็กตั้งใจเรียนมากขึ้นแล้วไม่หนี้เรียน เพราะหากหนีเรียนบ่อยอาจจะต้องมานั่งเรียนกับรุ่นน้องได้”
นางพรนิภา กล่าวด้วยว่า ทาง กพฐ. อยากให้มีการติดตามผลด้วยว่า หากเด็กตกซ้ำชั้นจะมีผลกระทบทางด้านจิตใจของเด็กหรือไม่ อย่างไรก็ดี แนวทางนี้จะนำเสนอต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะออกเป็นแนวปฏิบัติ เพื่อให้กับโรงเรียนทั่วประเทศนำไปปฏิบัติต่อไป
นอกจากนี้ นางพรนิภายังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการประกาศผลการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูครั้งที่ 1 / 2548 เมื่อวันที่ 17 – 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาได้เริ่มประกาศผลสอบแล้วจำนวน 49 เขต และเหลืออีก 43 เขตยังไม่ได้มีการประกาศ ซึ่งจะต้องประกาศผลสอบไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังเร่งตรวจสอบผลคะแนนหากพบสิ่งผิดปกติก็อาจจะเสนอให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษายกเลิกประกาศผลการสอบได้ ซึ่งจากการที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกรณีการร้องเรียนว่ามีความไม่โปร่งใสในการจัดสอบของบางเขตพื้นที่นั้น พบว่าระดับคะแนนของผู้สอบไม่มีแนวโน้มส่อไปในทางทุจริต เนื่องจากมีผลคะแนนในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
นางพรนิภา กล่าวต่อว่า ส่วนที่ สพท.เชียงใหม่ เขต 5 ออกข้อสอบเองแต่มีการรับซีดีข้อสอบพร้อมรหัสการเปิดข้อสอบไปแล้ว ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะเกิดข้อสอบรั่วได้นั้น สพท.เชียงใหม่เขต 5 ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเป็นพยานในการทำลายรหัสและซีดีข้อสอบก่อนที่จะดำเนินการสอบแล้ว หลังจากวันที่ 1ต.ค.จะมีครูเกษียนราชการประมาณกว่า 2,000 คน ทางสพฐ.ก็จะขออัตราคืนจากรัฐบาลทั้งหมด 100% เพราะขณะนี้ยังขาดครูอยู่ถึง 49,000 คน สำหรับครูอัตราจ้างในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ขณะนี้ สพฐ.อยู่ระหว่างการของบประมาณที่จะจ้างต่อ ให้มั่นใจได้ว่าจะมีการจ้างต่อแน่นอน
นางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงผลการประชุมบอร์ด กพฐ. ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามแนวทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับการที่สถานศึกษาไม่ให้นักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำเรียนซ้ำชั้น ทำให้สถานศึกษาขาดคุณภาพขาดคุณภาพ ล่าสุดได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมกรรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
ได้แก่ 1.ในการจัดการเรียนการสอนให้มีการประเมินผลการเรียนเป็นระยะๆ เพื่อปรับปรุง พัฒนาตัวเด็ก หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในตัวผู้เรียนต้องซ่อมเสริมทันที แล้วประเมินผลปลายปี 2.เรียนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว ในกรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินรายวิชา
โดยมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้เรียนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัวอีกครั้ง3.เรียนซ้ำชั้นรายวิชา หากเรียนซ่อมเสริม และสอบแก้ตัวแล้ว นักเรียนยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินรายวิชาใด ให้เรียนซ้ำในรายวิชานั้น และ4.ให้เรียนซ้ำชั้น หากพบว่า นักเรียนมีระดับผลการเรียนเฉลี่ยของปีที่ผ่านมาต่ำกว่า 1 และมีความประพฤติไม่เหมาะสม อย่าง ร้ายแรง ขาดความรับผิดชอบในการเรียน รวมทั้งผู้ปกครองเห็นสมควรให้เรียนซ้ำ จะจัดให้เรียนซ้ำชั้นในปีต่อไป และต้องยกเลิกผลการเรียนเดิมของรายวิชาที่เรียนซ้ำทุกรายวิชา และให้ใช้ผลการเรียนใหม่แทน
“สถานศึกษาหลายแห่งมีการเข้าใจผิดมาตลอดว่ากระทรวงไม่ให้เด็กเรียนซ้ำชั้น ทำให้มีการปล่อยให้เด็กหนีเรียน เด็กเกเร ไม่ตั้งใจเรียน ได้ใจว่าเรียนบ้างไม่เรียนบ้างทางครูก็ให้ผ่าน ต่อไป หากระเบียบนี้นำออกมาใช้จะกระตุ้นให้เด็กตั้งใจเรียนมากขึ้นแล้วไม่หนี้เรียน เพราะหากหนีเรียนบ่อยอาจจะต้องมานั่งเรียนกับรุ่นน้องได้”
นางพรนิภา กล่าวด้วยว่า ทาง กพฐ. อยากให้มีการติดตามผลด้วยว่า หากเด็กตกซ้ำชั้นจะมีผลกระทบทางด้านจิตใจของเด็กหรือไม่ อย่างไรก็ดี แนวทางนี้จะนำเสนอต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะออกเป็นแนวปฏิบัติ เพื่อให้กับโรงเรียนทั่วประเทศนำไปปฏิบัติต่อไป
นอกจากนี้ นางพรนิภายังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการประกาศผลการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูครั้งที่ 1 / 2548 เมื่อวันที่ 17 – 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาได้เริ่มประกาศผลสอบแล้วจำนวน 49 เขต และเหลืออีก 43 เขตยังไม่ได้มีการประกาศ ซึ่งจะต้องประกาศผลสอบไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังเร่งตรวจสอบผลคะแนนหากพบสิ่งผิดปกติก็อาจจะเสนอให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษายกเลิกประกาศผลการสอบได้ ซึ่งจากการที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกรณีการร้องเรียนว่ามีความไม่โปร่งใสในการจัดสอบของบางเขตพื้นที่นั้น พบว่าระดับคะแนนของผู้สอบไม่มีแนวโน้มส่อไปในทางทุจริต เนื่องจากมีผลคะแนนในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
นางพรนิภา กล่าวต่อว่า ส่วนที่ สพท.เชียงใหม่ เขต 5 ออกข้อสอบเองแต่มีการรับซีดีข้อสอบพร้อมรหัสการเปิดข้อสอบไปแล้ว ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะเกิดข้อสอบรั่วได้นั้น สพท.เชียงใหม่เขต 5 ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเป็นพยานในการทำลายรหัสและซีดีข้อสอบก่อนที่จะดำเนินการสอบแล้ว หลังจากวันที่ 1ต.ค.จะมีครูเกษียนราชการประมาณกว่า 2,000 คน ทางสพฐ.ก็จะขออัตราคืนจากรัฐบาลทั้งหมด 100% เพราะขณะนี้ยังขาดครูอยู่ถึง 49,000 คน สำหรับครูอัตราจ้างในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ขณะนี้ สพฐ.อยู่ระหว่างการของบประมาณที่จะจ้างต่อ ให้มั่นใจได้ว่าจะมีการจ้างต่อแน่นอน