xs
xsm
sm
md
lg

“วัฒนา” ผุดไอเดีย เปิดสนามซิ่งรถ 4 มุมเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วัฒนา” ผุดไอเดีย เปิดสนามซิ่งรถ 4 มุมเมืองในพื้นที่กรุงเทพฯ จำกัดพื้นที่เฉพาะให้โจ๋ซิ่งแทนการวิ่งบนถนนหลวง ชี้ต้องดำเนินการทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป และอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย จากนั้นค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมเด็กให้หันมาทำประโยชน์เพื่อสังคมแทนการซิ่งรถในระยะยาว ด้านแก๊งซิ่งเผยรับได้กับข้อเสนอของกระทรวงฯ ยอมทำทุกอย่างตามกรอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ย.) นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและเอกชน รวมทั้งกลุ่มเยาวชนที่แข่งรถซิ่ง เพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหากลุ่มเยาวชนแข่งมอเตอร์ไซค์ซิ่ง ณ สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญาปากเกร็ด หรือบ้านราชาวดี

นายวัฒนา กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือรายละเอียดของการจัดหาพื้นที่เพื่อทำสนามแข่งรถซิ่ง โดยจะหาจุดที่ลงตัวร่วมกันระหว่างความต้องการของเด็กและผู้ประกอบการ โดยเปิดโอกาสให้เด็กเหล่านี้มีส่วนเสนอความคิดและออกแบบสนามแข่งรถที่ตัวเองต้องการ พร้อมยืนยันการดำเนินการทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป และอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และจะไม่ใช้ถนนหลวงมาเป็นสนามประลองความเร็วอย่างเด็ดขาด โดยแนวคิดดังกล่าวจะเป็นลักษณะเหมือนเปิดสนามแข่งรถซิ่ง “พีระ เซอร์กิต” เพิ่มขึ้นในพื้นที่ 4 มุมเมืองของ กทม. ซึ่งไม่รบกวนใคร เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้มีที่แสดงออก โดยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด ทั้งตำรวจ ทีมแพทย์พยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกฝ่ายเปิดใจกว้าง ยอมรับวิธีการแก้ปัญหาของตน โดยจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กเหล่านี้ให้เข้ามาอยู่ในกรอบ และหันมาทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับสังคมมากขึ้น แทนการใช้เวลาไปแข่งรถเพื่อความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว คาดว่าภายในกลางสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้น

“ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องยอมรับความจริงว่าปัญหาเด็กขี่รถซิ่งนั้นมีมานานเป็น 40-50 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังแก้ไม่ได้ ทำไมไม่ลองให้ผมแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ มันปลอดภัยกับลูกหลานของเรามากกว่า เมื่อเขามีที่ของเขาซึ่งไม่รบกวนชาวบ้าน เขาจะได้ไม่ต้องออกมาเพ่นพ่านบนถนนอีก ทำไมเรายอมให้สร้างสนามแข่งรถได้ แล้วทำไมเราจะยอมให้สร้างสนามแข่งรถแบบนี้อยู่ 4-5 มุมเมืองไม่ได้ และที่สำคัญก็ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน และเด็กพวกนี้ก็พร้อมที่จะอยู่ในกฎเกณฑ์ เพียงแต่วันนี้สังคมไม่เปิดโอกาสให้เขา ไปกันเขาจากสังคม ต้องเปิดโอกาสให้เขามีที่แสดงออก ได้ระบาย แล้วดูว่าสิ่งที่เขาต้องการ เราให้เขาได้ขนาดไหน ไม่ได้แปลว่าเราจะยอมให้เขาได้หมดทุกอย่าง เชื่อว่าสุดท้ายทั้งเราและเขาจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจทั้งคู่ ลองให้โอกาสเขาดูสักครั้ง” นายวัฒนา กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นายวัฒนาได้นำกลุ่มเยาวชนแข่งรถซิ่งร่วมทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้กับเด็กในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ดังกล่าว เช่น การทาสีอาคาร ปลูกต้นไม้ กิจกรรมนันทนาการบันเทิง และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเด็กกลุ่มนี้ด้วย

ด้านนายพิพัฒน์ มณีธีรพงศ์ หนึ่งในวัยรุ่นที่รักการประลองความเร็ว ยอมรับกับข้อเสนอของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และเข้าใจสาเหตุที่สังคมตีกรอบของเด็กเหล่านี้ โดยเห็นว่าเมื่อกระทรวงฯ จัดสถานที่ให้ พวกตนก็พร้อมยอมรับ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเมื่อมีการเปิดสนามเฉพาะให้แข่งแล้ว จะไม่มีวัยรุ่นออกมาซิ่งรถบนถนนหลวงอีก เพราะต้องมีวัยรุ่นบางส่วนที่แหกกฎเกณฑ์ไม่ปฏิบัติตาม แต่เห็นว่าเมื่อรัฐมีสถานที่เฉพาะให้แล้วยังมีบุคคลที่แตกแถวอยู่ กฎหมายก็จะต้องเข้มงวดและเอาผิดกับบุคคลเหล่านี้ให้มากขึ้น ส่วนที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดปัญหาการพนันตามมานั้น เห็นว่าเมื่อมีการเปิดสนามให้แข่งเฉพาะ โดยมีถ้วยและเงินรางวัลจูงใจอยู่แล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการพนันกันอีก

“สิ่งที่คิด คือสังคมไม่เคยเข้าใจพวกผม ในฐานะที่พวกผมเป็นบุคคลคนหนึ่งในสังคม สังคมเข้าใจว่าพวกผมเป็นนักซิ่ง เป็นพวกกวนเมือง ที่เราจับกลุ่มกันไม่ใช่ได้แต่เฮฮาก่อกวนชาวบ้านไปวัน ๆ อย่างกลุ่มผมเรียนช่างยนต์ ก็เอาความคิดมาแลกเปลี่ยนกันในการโมดิฟายด์รถ ทำยังไงให้ดีขึ้น ทำยังไงให้วิ่งขึ้น ไม่ใช่จะมารวมตัวกันเพื่อก่อกวนสังคมอย่างเดียว มันมีเหตุผลมากกว่านั้นที่สังคมไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาพวกผมมีพลังทำเพื่อสังคมเสมอ อย่างตัวผมก็เคยเป็นตัวแทนไปแข่งขันประกอบรถจักรยานยนต์คาวาซากิที่ จ.ระยอง ได้ที่ 1 ระดับภาค ทุกคนคงไม่มีใครเคยทราบด้วยซ้ำว่าผมไปแข่งในระดับนั้น พวกผมทำดีแล้ว แต่สังคมไม่เคยมองเองมากกว่า”นายพิพัฒน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น