สหรัฐขอไทยส่งผู้เชี่ยวชาญนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีประสบการณ์สึนามิ เข้าช่วยแลกเปลี่ยนข้อมูลการทำงานเพื่อช่วยผู้ประสบภัยพายุเฮอริเคน ที่สหรัฐอเมริกา ไทยส่ง “พญ. คุณหญิงพรทิพย์“ และคณะ รวม 5 คน เดินทางด่วนเที่ยงคืนเสาร์นี้ หมอพรทิพย์ระบุ คงไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่จะช่วยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เท่านั้น เพราะเป็นภัยธรรมชาติเหมือนกับสึนามิ
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์พายุเฮอริเคนแคทรีนา ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยยังไม่มีกำหนดกลับ ซึ่งเป็นภารกิจที่ทางการสหรัฐขอให้ไทยส่งผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์งานด้านนิติวิทยาศาสตร์จากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งทั้งคณะจะออกเดินทางเที่ยวบินพิเศษ จากสนามบิน บน.6 ในเวลา 24.00 น. คืนนี้ (10 ก.ย.) ประกอบด้วย คณะนักนิติวิทยาศาสตร์ 4 คน พร้อมแพทย์อีก 1 คน
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ไทยจะช่วยงานของสหรัฐได้มากน้อยเพียงใด และคงไม่ได้รับการยินยอมให้ปฏิบัติงาน เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับการพิสูจน์บุคคลของทางสหรัฐ มีความเคร่งครัดสูงมาก แต่สำหรับคณะแพทย์ที่เดินทางไป บางคนมีประสบการณ์กับเหตุการณ์สึนามิทั้งในสหรัฐอเมริกา และในประเทศไทยแล้ว และทุกคนผ่านการอบรมจากคณะทำงานดีบีไอ ที่ประเทศออสเตรเลีย มาแล้ว โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ จะนำประสบการณ์การจัดการศพผู้ประสบภัยในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติงานในเหตุการณ์สึนามิ ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้าย จึงเตรียมนำระบบการจัดการในช่วงวิกฤติ ไปแลกเปลี่ยนกับคณะทำงานที่สหรัฐ พร้อมข้อเสนอแนะว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น หากจะป้องกันศพแต่ห้องเย็นเตรียมไม่ทันก็อาจจะต้องใช้น้ำแข็งแห้ง เป็นต้น โดยไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อะไรไปมาก จะทราบว่าต้องทำอะไรก็ต่อเมื่อเดินทางไปถึงนิวยอร์ก และจะมีผู้ประสานงานเข้ามาคุยอีกครั้ง
“เขาจะมีกฎหมายที่เคร่งครัดมาก เช่น หากพบว่ามีการตายจะต้องมีการตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างไร บุคลากรจะต้องเป็นใคร จะชันสูตรศพอย่างไร พิสูจน์บุคคลอย่างไร นี่ยังไม่รวมถึงแผนการจัดการสถานการณ์อุบัติภัยหมู่ ขึ้นอยู่แต่ละรัฐ ต้องไปดูกฎของเขา” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว และว่าสำหรับการจัดการเกี่ยวกับศพผู้เสียชีวิต และผู้สูญหายในเหตุการณ์พายุเฮอริเคน จะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์สึนามิ เพราะเป็นภัยธรรมชาติเหมือนกัน แต่จะต่างจากเหตุการณ์ 9-11 เนื่องจาก 9-11 เป็นการก่อวินาศภัย จึงจะเน้นถึงที่มาที่ไปของการเกิดเหตุ แต่กรณีภัยธรรมชาตินั้นไม่ต้องเน้น พื้นที่ของการเกิดเหตุภัยธรรมชาติจะไม่มีเขตจำกัด สถานที่ที่จะต้องค้นหาจึงไม่อาจตีกรอบได้ชัดเจน เพราะว่าศพอาจจะกระจัดกระจายไปบริเวณอื่น ขณะที่ 9-11 จะจำกัดเพียงตึกเท่านั้น ซึ่งการจัดการกับศพผู้ประสบภัยเฮอริเคนในวันนี้ คงจะลำบากกว่าสึนามิ เพราะผ่านมาหลายวันแล้ว
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์พายุเฮอริเคนแคทรีนา ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยยังไม่มีกำหนดกลับ ซึ่งเป็นภารกิจที่ทางการสหรัฐขอให้ไทยส่งผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์งานด้านนิติวิทยาศาสตร์จากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งทั้งคณะจะออกเดินทางเที่ยวบินพิเศษ จากสนามบิน บน.6 ในเวลา 24.00 น. คืนนี้ (10 ก.ย.) ประกอบด้วย คณะนักนิติวิทยาศาสตร์ 4 คน พร้อมแพทย์อีก 1 คน
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ไทยจะช่วยงานของสหรัฐได้มากน้อยเพียงใด และคงไม่ได้รับการยินยอมให้ปฏิบัติงาน เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับการพิสูจน์บุคคลของทางสหรัฐ มีความเคร่งครัดสูงมาก แต่สำหรับคณะแพทย์ที่เดินทางไป บางคนมีประสบการณ์กับเหตุการณ์สึนามิทั้งในสหรัฐอเมริกา และในประเทศไทยแล้ว และทุกคนผ่านการอบรมจากคณะทำงานดีบีไอ ที่ประเทศออสเตรเลีย มาแล้ว โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ จะนำประสบการณ์การจัดการศพผู้ประสบภัยในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติงานในเหตุการณ์สึนามิ ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้าย จึงเตรียมนำระบบการจัดการในช่วงวิกฤติ ไปแลกเปลี่ยนกับคณะทำงานที่สหรัฐ พร้อมข้อเสนอแนะว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น หากจะป้องกันศพแต่ห้องเย็นเตรียมไม่ทันก็อาจจะต้องใช้น้ำแข็งแห้ง เป็นต้น โดยไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อะไรไปมาก จะทราบว่าต้องทำอะไรก็ต่อเมื่อเดินทางไปถึงนิวยอร์ก และจะมีผู้ประสานงานเข้ามาคุยอีกครั้ง
“เขาจะมีกฎหมายที่เคร่งครัดมาก เช่น หากพบว่ามีการตายจะต้องมีการตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างไร บุคลากรจะต้องเป็นใคร จะชันสูตรศพอย่างไร พิสูจน์บุคคลอย่างไร นี่ยังไม่รวมถึงแผนการจัดการสถานการณ์อุบัติภัยหมู่ ขึ้นอยู่แต่ละรัฐ ต้องไปดูกฎของเขา” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว และว่าสำหรับการจัดการเกี่ยวกับศพผู้เสียชีวิต และผู้สูญหายในเหตุการณ์พายุเฮอริเคน จะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์สึนามิ เพราะเป็นภัยธรรมชาติเหมือนกัน แต่จะต่างจากเหตุการณ์ 9-11 เนื่องจาก 9-11 เป็นการก่อวินาศภัย จึงจะเน้นถึงที่มาที่ไปของการเกิดเหตุ แต่กรณีภัยธรรมชาตินั้นไม่ต้องเน้น พื้นที่ของการเกิดเหตุภัยธรรมชาติจะไม่มีเขตจำกัด สถานที่ที่จะต้องค้นหาจึงไม่อาจตีกรอบได้ชัดเจน เพราะว่าศพอาจจะกระจัดกระจายไปบริเวณอื่น ขณะที่ 9-11 จะจำกัดเพียงตึกเท่านั้น ซึ่งการจัดการกับศพผู้ประสบภัยเฮอริเคนในวันนี้ คงจะลำบากกว่าสึนามิ เพราะผ่านมาหลายวันแล้ว