เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้จัดการแข่งขันเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์ การประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ ประจำปี 2548 รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ณ ศูนย์กลางการเรียนรู้ ICT แห่งชาติ เซ็นทรัลเวิลด์ พลาซา ชั้น 6 กรุงเทพฯ
งานนี้ นายปฐมพงศ์ ประไพย์ (ก่อ) นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จังหวัดลำปาง เจ้าของผลงาน “อยู่ที่ไหนก็หายห่วง” ซึ่งได้ประดิษฐ์เครื่องตากผ้าอัตโนมัติที่สามารถนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ได้ในครัวเรือน และตามอพาร์ตเมนต์หรือที่อยู่อาศัยต่างๆ คว้ารางวัลชนะเลิศจากการประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์มาครอบครอง ผ่านฉลุยจากกรรมการมือทองอย่าง รศ.ยืน ภู่วรวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.เกษตรศาสตร์ และนักวิชาการท่านอื่นๆ โดยมีอาจารย์อรุณี ทองย้อย คุณครูคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงงานยืนยิ้มแป้นอยู่ข้างๆ
ปัจจุบันการใช้ชีวิตประจำวันจำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก บางครั้งดินฟ้าอากาศบ้านเราก็แปรปรวนบ่อย บางวันที่ไม่ได้คาดคิดก็อาจเกิดฝนตก ลมพายุ แล้วถ้าเกิดตากผ้าทิ้งไว้แล้วออกไปนอกบ้าน หากเกิดฝนตกกระทันหันกลับมาอาจต้องซักผ้าใหม่อีกรอบ น้องก่อคนเก่งของเราจึงปิ๊งไอเดียทำโครงงานคอมพิวเตอร์ชิ้นนี้ขึ้นมา
“ทั้งบ้านเวลาฝนตก ถ้าตากผ้าทิ้งไว้จะไปเที่ยวไหนก็ลำบาก ถ้ามีเครื่องอำนวยความสะดวกชิ้นนี้ก็ไม่ต้องกลัวผ้าเปียก ถ้าลมแรงก็มีตัวช่วย เหมือนกับเป็นเครื่องตากผ้าอัตโนมัติให้เราใช้งาน เวลาที่เรานำผ้ามาตากที่เครื่องนี้แล้ว เวลาที่มีลมแรง ลมจะพัดมาโดนตัววัดลม ชนกับใบพัด แล้วส่งค่าไปยังบอร์ด Sci-box แล้วจะสั่งการไปยังเครื่องตากผ้า เวลาที่ฝนตก สายดินที่ต่อลงไว้ที่ดินจะวัดความชื้นจากดิน เมื่อดินเกิดความชื้นสูง จะสั่งการให้เครื่องเก็บผ้าให้อัตโนมัติ โดยเลื่อนสายพานลำเลียงเก็บผ้าเข้าไปไว้ในกล่องหรือตู้ที่ปกคลุมมิดชิด” น้องก่ออธิบาย
เครื่องตากผ้าอัตโนมัตินี้ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ หรือกล่องสมองกล Sci-box เขียนโปรแกรมด้วยภาษา P-Basic เป็นอุปกรณ์หลัก โดยเริ่มต้นทำงานจากการศึกษาและออกแบบวิธีการนำไมโครคอนโทรลเลอร์มาประยุกต์ใช้ ออกแบบราวเหล็กเป็นที่ตากผ้าเพื่อการออกแบบระบบควบคุมต่างๆ สร้างเครื่องมือช่วยเก็บผ้าในยามที่ฝนตกหรือเกิดลมพายุ หรือในกรณีที่ผ้าแห้งแล้ว จากนั้นก็ได้ทดลองใช้งานจริง และปรับปรุงชิ้นงานให้มีประสิทธิภาพ
ลักษณะการทำงานเริ่มจากบอร์ด Sci-box จะตรวจสอบสภาวะอากาศ คือความชื้น และแรงลม หากว่ามีความชื้นมากก็จะสั่งการให้มอเตอร์ทำงานทำให้ผ้าเลื่อนกลับเข้ามาอยู่ในตู้เก็บ ถ้าหากว่ามีลมแรง แต่ไม่มีฝน ผ้าที่ตากไว้ก็อาจจะปลิว ระบบจะสั่งให้มอเตอร์ดึงผ้ากลับเข้าไปเก็บไว้ในตู้ทันที ทั้งนี้ระบบจะทำการเช็กสถานะไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีลมแรง หรือฝนหยุดตกแล้ว ก็จะกลับเข้าสู่ระบบการตาก ในทางเทคนิคระบบมอเตอร์ก็คือรีเลย์ควบคุม
“โครงงานนี้ใช้หลักการทั้งทางไฟฟ้าและคณิตศาสตร์เข้ามาเป็นตัวช่วย หากนำไปใช้คงต้องพิจารณาถึงความทนทานของโครงสร้างของที่ตากผ้า และสามารถนำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ เช่น นำไปใช้ตามอพาร์ตเมนต์ มีระบบควบคุมตัวเดียวก็ควบคุมการตากผ้าทั้งอพาร์ตเมนต์ได้เลย”
โครงงานคอมพิวเตอร์ที่ชนะเลิศระดับประเทศชิ้นนี้ เป็นโครงงานแรกของน้องต่อที่ทำส่งประกวด หลังจากที่พากเพียรฝึกซ้อมการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์และลงสนามแข่งขันของ สสวท.อยู่ 2 ปีซ้อนในช่วงที่เรียน ม.4 และ ม.5 ความรู้ที่ได้จากการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์ก็เป็นการประยุกต์ความรู้เกี่ยวกับกล่องสมองกล และการเขียนโปรแกรมมาประยุกต์ใช้สั่งการซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีมากในการประดิษฐ์คิดค้นโครงงานคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ ขึ้นมาใช้งาน
การส่งเสริมให้มีการใช้กล่องสมองกลการเรียนการสอนโดย สสวท.เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้การเรียนรู้อย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่สักแต่เพียงท่องจำ เพราะนักเรียนจะได้เรียนรู้และลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง แรงจูงใจจากกล่องสมองกลหรือหุ่นยนต์ในการเรียนการสอนจะช่วยให้เด็กๆ เกิดความคิดสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และได้ปลูกฝังความเป็นนักประดิษฐ์น้อยไปในตัว ผลพวงจากการเรียนการสอนแบบใหม่นี้ ในอนาคตเมื่อพวกเขาเหล่านี้เติบใหญ่ ประสบการณ์การสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากสมองกลเมื่อครั้งเยาว์วัยอาจส่งผลต่อยอดสู่การสร้างผลงานยิ่งใหญ่ในภายหน้า
เห็นไอเดียเจ๋งๆ อย่างนี้แล้วก็ปลื้มใจที่เด็กไทยเรามีความคิดสร้างสรรค์ดีๆ มีการนำจินตนาการ+ความคิด+ความรู้มาใช้ประโยชน์ได้จริง และในอนาคตหนุ่มน้อยคนนี้ตั้งใจจะเรียนต่อระดับปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อสั่งสมความรู้ต่อยอดขึ้นไปอีก...