กระต่ายกำมะหยี่ มีดีตรง “ช่างรับแขก”

พูดถึงกระต่ายขนกำมะหยี่หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "เร็กซ์" (Rex) เชื่อว่าสำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลีกับกระต่ายหรือไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงกระต่ายอาจจะงงนิดหน่อยว่ามี สายพันธุ์แบบนี้ด้วยเหรอ? และเมื่อพูดถึงกระต่ายแล้วจะต้องนึกถึงขนนุ่มนิ่มฟูฟ่องน่ารัก แต่สำหรับเจ้าตัวนี้ ขนสั้นๆ หน้ายาวๆ ตัวยาวๆ คล้าย จิงโจ้ย่อส่วนอาจจะทำให้คนที่เห็นมันครั้งแรกต้องร้องยี้!! เพราะความน่ารักแบบกระต่ายไม่เท่าสายพันธุ์อื่น แต่หากได้ลองเล่นกับมันแล้ว อาจจะเปลี่ยนใจไปในบัดดล......

"กระต่าย" สามารถตอบโจทย์คนเมือง

ก่อนที่จะเข้าเรื่องของเจ้ากระต่ายขนกำมะหยี่ คงต้องไปตรวจสอบสถานการณ์เรื่องการเลี้ยงกระต่ายของคนไทยกันว่า เป็นอย่างไร...

จะว่ากันตามจริงในเรื่องของความนิยมในการเลี้ยงกระต่ายของคนไทยอาจจะไม่บูม เหมือนเมืองนอกเมืองนา อาจจะเป็นเพราะยังมีสายพันธุ์ให้เลือกน้อยกว่า ตลอดจนถึงในเรื่องของความเชื่อในแง่ที่ว่ากระต่ายใจเสาะ ตายง่าย เลี้ยงยาก อุ้มแล้วเฉามือ ห้ามจับนอนหงาย ห้ามจับท้อง และอีกหลายๆ ความเชื่อที่ส่งผลให้คนรักสัตว์ทั้งหลายคิดว่าการเลี้ยงกระต่ายเป็นเรื่องยุ่งยาก มีข้อจำกัดมากมาย

... แต่ถ้าคนรักสัตว์เหล่านี้หันมาเลี้ยงกระต่าย ความยุ่งยากเหล่านั้นจะหายไป …

เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่ไม่ส่งเสียงดัง ใช้ชีวิตอยู่ในกรงของมันได้โดยไม่งอแงเพื่อรอคุณกลับมาจากที่ทำงานเพื่อเล่นกับมัน อาหารกระต่ายราคาไม่แพง ถุงละ 20 - 35 บาท กินได้ประมาณ 7 - 14 วัน มูลกระต่ายมีลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็กๆ ทำความสะอาดง่ายและกลิ่นไม่รุนแรงมากนัก

ที่สำคัญคือ ผลของการที่ปัจจุบัน สภาพที่อยู่อาศัยที่มีอยู่อย่างจำกัด หลายคนต้องอยู่หอพัก อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม หรือทาวน์เฮ้าส์ ก็ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่กว่าและต้องการพื้นที่มากหน่อยอย่างเช่น หมา ฯลฯ ก็ส่งผลให้ความนิยมเลี้ยงกระต่ายของสังคมไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มขายดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่าตัว

เรียกได้ว่า กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ของคนเมืองได้เป็นอย่างดี

ดร.ณัฐชา เดชดำรง ประธานชมรมคนรักกระต่ายแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ความเชื่อในเรื่องของความใจเสาะของกระต่ายไม่เป็นความจริง เพียงแค่กระต่ายเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะมีผิวที่บอบบาง และไวต่อสารเคมี แต่หากเลี้ยงให้สะอาด หมั่นดูแลอนามัยของเจ้าหูยาวเหล่านี้แล้วละก็ กระต่ายจะเป็นสัตว์ที่อยู่กับเราได้นานถึง 5 – 8 ปีเลยทีเดียว

“กระต่ายไม่ได้เฉามือง่าย ความทนในการอุ้มดูจะมากกว่าหมาแมวเสียด้วยซ้ำ สำหรับเรื่องเสียงดัง ฟ้าผ่า หรือเสียงพลุนั้น ไม่ได้ทำให้กระต่ายช็อกตายได้ ยกเว้นว่าเค้าจะตกใจและวิ่งไปชนกรงอย่างแรงก็อาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บ หรือบางทีอาจถึงขั้นคอหักตาย นั่นทำให้หลายคนมีความเชื่อว่ากระต่ายกลัวเสียงดัง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เรื่องของการจับท้องก็เหมือนกัน คนโบราณบอกว่าห้ามจับท้องกระต่ายหรือห้ามจับกระต่ายหงายท้อง จริงๆ กระต่ายก็เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่ชอบการสัมผัสจากเจ้าของ ชอบให้ลูบ ให้เกา รวมถึงการเกาท้องอย่างหมาแมวด้วยเช่นกัน”

กระต่ายกำมะหยี่

จากนั้นดร.ณัฐชาก็ได้นำชมกระต่ายภายในร้านของชมรมฯ แต่ตัวที่สะดุดตาที่สุดดูเหมือนจะเป็นตัวที่มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกระต่ายตัวอื่นๆ ... มันคือกระต่ายขนกำมะหยี่หรือกระต่ายกำมะหยี่นั่นเอง ....

“เจ้าหนู” เป็นกระต่ายขนกำมะหยี่เพศเมีย สีคัสเตอร์ (น้ำตาลแดง) มองไปมองมาหน้าตาเหมืองจิงโจ้ขนาดมินิ แข้งขายาว หน้ายาว ขนสั้น หูกางใหญ่ ดูไม่น่ารักเอาซะเลย แต่พอเมื่อได้ลองเล่นลองจับแล้วค่อนข้างแปลกใจ เพราะเชื่องมาก แถมกระโดดเข้ามาเอียงคอให้ลูบ และที่พิเศษก็คือขนสั้นๆ ของมันที่ลูบไปแล้วสุดจะนุ่มมือคล้ายกับไล้ปลายนิ้วไปบนผ้ากำมะหยี่เลยทีเดียว

ดร.ณัฐชาได้ส่ง “เจ้าหนู” ให้ลองอุ้ม ปรากฏว่าเจ้าตัวขนนิ่มนี้นอนซุกอยู่ในอ้อมแขนแต่โดยดี ไม่มีดีด ไม่มีกัดข่วน อย่างที่กระต่ายพันธุ์อื่นๆ เป็นกันตอนถูกคนแปลกหน้าแปลกกลิ่นอุ้มครั้งแรก แถมดมมือและเลียมือแสดงความเป็นมิตรอย่างเต็มที่

“สายพันธุ์นี้ไม่ดุค่ะ เชื่องที่สุดในบรรดากระต่างทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้เริ่มเลี้ยง และเหมาะสำหรับเด็กๆ หากต้องการกระต่ายที่ชอบเล่นกับเจ้าของ เพราะกระต่ายขนกำมะหยี่จะชอบเล่น ใจดี ไม่กัดข่วน อาจจะมีดีดบ้างหากตกใจ แต่เรื่องกัดหรือขู่คนแปลกหน้านี่ไม่มี ค่อนข้างจะรับแขกเก่ง”

นอกจากความช่างเล่นและชวนเจ้าของมาเล่นด้วยของ “เจ้าหนู” แล้ว มันยังได้แสดงการเล่นของเล่นสำหรับกระต่ายด้วยกริยาที่น่ารักและร่าเริง ด้วยการกระโดดขึ้นลงระหว่างสะพานไม้ มุดใต้สะพาน เล่นลูกบอล และแถมท้ายด้วยการช่วยไปเลียทำความสะอาดหูให้กระต่ายอีกตัวในคอก แหม... ช่างเป็นกระต่ายที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีจริงๆ

สำหรับที่มาที่ไป ประวัติของเจ้าหูยาวขนนิ่มน่ารักนี้ ประธานชมรมคนรักกระต่ายแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นกระต่ายที่เกิดมาจากการผ่าเหล่าของกระต่ายป่าสีเมาในประเทศฝรั่งเศส ต่อมาถูกพัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนกลายเป็นกระต่ายกำมะหยี่หน้าตาเหมือนดังเช่นในปัจจุบัน กระต่ายกำมะหยี่แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือชนิดเร็กซ์ (Rex) หรือกระต่ายขนกำมะหยี่ขนาดมาตรฐาน น้ำหนักประมาณ 3.4-4.8 กิโลกรัม ในขณะที่มินิเร็กซ์ (Mini Rex) หรือกระต่ายกำมะหยี่ขนาดเล็ก ที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 1.6 – 1.8 กิโลกรัม เท่านั้น

ข้อมูลจำเพาะกระต่ายกำมะหยี่ จากการสำรวจตลาดพบว่า ราคากระต่ายขนกำมะหยี่จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ลักษณะอาหารที่ใช้เลี้ยงเหมือนกระต่ายทั่วไปคือใช้หญ้าขน ผัก หรืออาหารกระต่ายสำเร็จรูป ลักษณะกระต่ายกำมะหยี่ที่ตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์คือ จะต้องมีความสมส่วนกันของหัว ลำตัว อก ไหล่ และสะโพก ไหล่และสะโพกเต็ม ไม่แคบเล็ก มองจากด้านบนลำตัวแสดงถึงสะโพกที่กว้าง และไล่ขึ้นไปหาหัวไหล่ที่เล็กเรียว มองจากด้านข้าง เส้นขอบกระดูกสันหลังโค้งได้รูป ใบหูหนา ตั้งตรง ขนสั้นและตั้งตรงยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร สีของกระต่ายกำมะหยี่มีหลากหลายสี คือ สีบลู สีดำ สีช็อกโกแลต สีไลแลค สีคัสเตอร์ สีโอปอล สีลิงซ์ สีหิมาลายัน สีขาว สีแดง สีชินชีล่า สีทองแดง สีกระ สีซีล สีดำสร้อยทอง และสีโบรคเก้น

สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อแรกเลี้ยงกระต่าย การเลี้ยงกระต่ายสักตัวหนึ่งนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ที่ว่าง่ายก็คือเจ้าตัวเล็กหูยาวพวกนี้ไม่มีเสียงรบกวนรำคาญ มูลที่ถ่ายออกกลิ่นไม่แรง ทำความสะอาดง่าย กินน้อย ถ้าเทียบค่าอาหารในการเลี้ยงกระต่ายจะน้อยกว่าการเลี้ยงสุนัขหรือแมวหลายเท่าตัว เหมาะสำหรับการเลี้ยงในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมเพราะกระต่ายไม่ต้องการที่เยอะเหมือนสัตว์อื่นๆ แต่ที่บอกว่ายากก็คือ กระต่ายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างไวต่อสิ่งแปลกปลอม พิษ สารเคมี ผิวของกระต่ายบอบบาง ดังนั้นผู้ที่คิดจะเลี้ยงต้องคำนึงถึงเวลาของตนเอง ว่ามีมากพอที่จะเอาใจใส่เจ้าหูยาวเหล่านี้หรือไม่ แต่หากเราตัดสินใจเป็นที่แน่นอนแล้วว่าอยากจะเลี้ยง และคิดว่ามีเวลาดูแลเอาใจใส่อย่างเพียงพอแล้วละก็ สิ่งที่ต้องเตรียมเป็นอันดับแรกก็คือ บ้านหรือกรงที่จะให้เขาอาศัยอยู่นั้น จะต้องมีขนาดใหญ่กว่าตัวประมาณ 4-6 เท่า เพื่อที่กระต่ายจะสามารถนอนเหยียดยาว ยืนสองขา วิ่งไปมา หรือกระโดดยืดเส้นยืดสายในกรงได้ ยิ่งกรงกว้างเท่าไหร่ กระต่ายจะรู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้นเท่านั้น กรงที่มีขนาดใหญ่ จะมีการระบายอากาศได้ดีกว่ากรงเล็กๆ อีกด้วย และนอกจากต้องเอาใจใส่เรื่องขนาดของกรงแล้วพื้นกรงเองก็มีความสำคัญต่อสุขภาพผิวหนังส่วนของพื้นเท้าของกระต่ายเช่นกัน หากพื้นกรงกว้างไป ขาจะตกลงไปที่ถาดรองมูล ทำให้เท้าสกปรกและเป็นเชื้อโรค ถ้าหากซื้อกรงสำเร็จรูปแล้วพื้นกรงไม่พอดีให้เท้ากระต่ายเหยียบได้ แนะนำให้ไปซื้อแผ่นพลาสติกแบบที่มีรูคล้ายตะแกรง ที่เอาไว้สำหรับล้อมต้นไม้อ่อนๆ ตามร้านขายต้นไม้ มารองพื้นกรงก็สามารถช่วยได้ และเมื่อเราเตรียมกรงที่กะให้ใหญ่กว่าตัวกระต่าย 4 - 6 เท่าแล้ว สิ่งต่อมาที่จะเตรียมคือกระบอกน้ำและชามใส่อาหาร ซึ่งสนนราคาสองอย่างนี้ก็ไม่แพงมาก แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือวัสดุของภาชนะเหล่านี้ หากเปราะ แตกง่าย หรือเป็นพลาสติกคุณภาพต่ำ เมื่อน้องกระต่ายเกิดคันฟันมันเขี้ยวเคี้ยวแหง่บๆ แล้วมันหลุดเข้าคอเข้าท้องไปก็อาจเป็นอันตรายได้ ในส่วนของภาชนะใส่อาหารแนะนำให้ลองใช้เป็นพวกชามดินเผาแทน ในส่วนของอาหารนั้น กระต่ายควรได้รับอาหารทั้งแบบสดจำพวกผัก และหญ้าขน เพราะกระต่ายจะใช้ไฟเบอร์จากเส้นใยพืชในการสร้างขนและช่วยในระบบขับถ่าย สลับไปกับอาหารเม็ดสำเร็จรูปเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายน้อยๆ ของพวกเขาต้องการ แต่สำหรับผักที่ซื้อมาจากตลาดนั้น ก่อนจะให้กระต่ายกิน ควรล้างให้ดีเสียก่อน เพราะกระต่ายท้องเสียง่าย และถ้าหากโดนสารพิษในปริมาณที่เกินร่างกายรับได้ อาจท้องเสียถึงตาย ดังนั้นผู้เลี้ยงกระต่ายหลายคนจึงเลือกที่จะให้แต่อาหารเม็ดเพียงอย่างเดียว เพื่อป้องกันการรับสารเคมีจากผักที่มีสารพิษตกค้าง เมื่อมีสี่สิ่งนี้ (กรง,กระบอกน้ำ,ถาดใส่อาหาร และอาหาร) ก็ถือว่ามีสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงกระต่ายครบแล้ว ส่วนของเล่นกระต่ายนั้น เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์กัดแทะ จึงควรหาของเล่นที่สามารถกัดได้โดยไม่เป็นอันตราย เช่นกาบมะพร้าว เศษไม้ไม่คม เป็นต้น