ปลัด สธ.สั่งแพทย์โรงพยาบาลศูนย์ลำปางเฝ้าดูแลอาการสาวลำปางที่มีอาการนมใหญ่ผิดปกติข้างละ 7 กิโลกรัม เพื่อหาสาเหตุหลักรักษาตรงตามอาการ ด้านอธิบดีกรมการแพทย์ระบุสาเหตุเต้านมโตอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น ฮอร์โมนต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ การอักเสบของเต้านม พร้อมสั่งการให้ศูนย์บำบัดรักษามะเร็งฯ จ.ลำปาง ร่วมกับทีมแพทย์โรงพยาบาลลำปางตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาอย่างเต็มที่
นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีสาวลำปางหน้าอกโตผิดปกติ มีขนาดน้ำหนักข้างละประมาณ 7 กิโลกรัม ว่าจากการสอบถามข้อเท็จจริงจากแพทย์ของโรงพยาบาลศูนย์ลำปางที่ทำการรักษาผู้ป่วย ได้รับรายงานว่าผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลครั้งแรกมาด้วยอาการเต้านมโต เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2548 โดยใช้สิทธิในบัตรทอง 30 บาท แพทย์ได้ให้การตรวจและจะส่งผู้ป่วยไปยังแผนกศัลยกรรมพลาสติกเพื่อวางแผนทำการผ่าตัด แต่ผู้ป่วยปฏิเสธ และขอรับยาไปรับประทานที่บ้านแทน โดยแพทย์ได้จ่ายยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด และนัดตรวจซ้ำเป็นระยะ จากนั้นแพทย์ได้ทำการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูว่ามีสาเหตุมาจากเนื้องอกของต่อมใต้สมองหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่มีก้อนเนื้อใดๆ
นายแพทย์วิชัย กล่าวว่า โรงพยาบาลลำปางได้ให้การดูแลผู้ป่วยดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านสูติกรรมดูแล แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจากความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมนที่ผลิตน้ำนมมากกว่าปกติ จึงได้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยให้ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด และยาโบรโมคริบติน (Bromocriptine) ซึ่งเป็นยาที่ยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนสร้างน้ำนม ทำให้ขนาดเต้านมยุบลง อาการปวดดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 10 สิงหาคม 2548 และให้รับประทานยาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมนัดตรวจซ้ำ ดูอาการ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2548
แต่เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้ป่วยกลับมีอาการปวดเต้านมมากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกทรมานและท้อแท้จากสาเหตุการเจ็บปวด และมีความรู้สึกว่าการรักษาเต้านมไม่ดีขึ้นและใช้เวลานานเกินไป ขณะนี้ได้สั่งการให้ทีมแพทย์เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลศูนย์ลำปางให้การดูแลอาการผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะใช้บัตรทอง 30 บาทหรือไม่ก็ตาม
ด้านนายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่กว่าปกติทั้ง 2 ข้างเกิดมาจาก 5 สาเหตุ คือ 1.เกิดจากการอักเสบบริเวณเต้านม 2.ต่อมใต้สมองมีความผิดปกติในการผลิตฮอร์โมน 3.เกิดจากการตั้งครรภ์ 4.การติดเชื้อ และ 5.ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อย่างไรก็ตามกรณีของผู้ป่วยรายนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากยังคงต้องรอดูผลการตรวจพิเศษโดยละเอียด ซึ่งได้มอบหมายให้ศูนย์บำบัดรักษาและควบคุมโรคมะเร็ง จังหวัดลำปาง ดำเนินการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยร่วมกับโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง
นายแพทย์ชาตรีกล่าวต่อว่า การรักษาเบื้องต้นคงต้องรักษาตามอาการสาเหตุที่เป็น ซึ่งแพทย์ได้จ่ายยาลดอาการอักเสบ ยาบรรเทาปวดและยายับยั้งการผลิตน้ำนม หากภายใน 6 สัปดาห์หลังจากการให้ยาผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น เต้านมไม่ยุบลง คงต้องอาศัยการรักษาด้วยการผ่าตัดทำศัลยกรรมพลาสติก แต่หากรู้สาเหตุหลักของการเกิดอาการดังกล่าวที่แน่ชัดแล้วก็จะทำการรักษาให้ตรงตามสาเหตุได้
นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีสาวลำปางหน้าอกโตผิดปกติ มีขนาดน้ำหนักข้างละประมาณ 7 กิโลกรัม ว่าจากการสอบถามข้อเท็จจริงจากแพทย์ของโรงพยาบาลศูนย์ลำปางที่ทำการรักษาผู้ป่วย ได้รับรายงานว่าผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลครั้งแรกมาด้วยอาการเต้านมโต เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2548 โดยใช้สิทธิในบัตรทอง 30 บาท แพทย์ได้ให้การตรวจและจะส่งผู้ป่วยไปยังแผนกศัลยกรรมพลาสติกเพื่อวางแผนทำการผ่าตัด แต่ผู้ป่วยปฏิเสธ และขอรับยาไปรับประทานที่บ้านแทน โดยแพทย์ได้จ่ายยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด และนัดตรวจซ้ำเป็นระยะ จากนั้นแพทย์ได้ทำการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูว่ามีสาเหตุมาจากเนื้องอกของต่อมใต้สมองหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่มีก้อนเนื้อใดๆ
นายแพทย์วิชัย กล่าวว่า โรงพยาบาลลำปางได้ให้การดูแลผู้ป่วยดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านสูติกรรมดูแล แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจากความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมนที่ผลิตน้ำนมมากกว่าปกติ จึงได้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยให้ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด และยาโบรโมคริบติน (Bromocriptine) ซึ่งเป็นยาที่ยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนสร้างน้ำนม ทำให้ขนาดเต้านมยุบลง อาการปวดดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 10 สิงหาคม 2548 และให้รับประทานยาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมนัดตรวจซ้ำ ดูอาการ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2548
แต่เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้ป่วยกลับมีอาการปวดเต้านมมากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกทรมานและท้อแท้จากสาเหตุการเจ็บปวด และมีความรู้สึกว่าการรักษาเต้านมไม่ดีขึ้นและใช้เวลานานเกินไป ขณะนี้ได้สั่งการให้ทีมแพทย์เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลศูนย์ลำปางให้การดูแลอาการผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะใช้บัตรทอง 30 บาทหรือไม่ก็ตาม
ด้านนายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่กว่าปกติทั้ง 2 ข้างเกิดมาจาก 5 สาเหตุ คือ 1.เกิดจากการอักเสบบริเวณเต้านม 2.ต่อมใต้สมองมีความผิดปกติในการผลิตฮอร์โมน 3.เกิดจากการตั้งครรภ์ 4.การติดเชื้อ และ 5.ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อย่างไรก็ตามกรณีของผู้ป่วยรายนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากยังคงต้องรอดูผลการตรวจพิเศษโดยละเอียด ซึ่งได้มอบหมายให้ศูนย์บำบัดรักษาและควบคุมโรคมะเร็ง จังหวัดลำปาง ดำเนินการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยร่วมกับโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง
นายแพทย์ชาตรีกล่าวต่อว่า การรักษาเบื้องต้นคงต้องรักษาตามอาการสาเหตุที่เป็น ซึ่งแพทย์ได้จ่ายยาลดอาการอักเสบ ยาบรรเทาปวดและยายับยั้งการผลิตน้ำนม หากภายใน 6 สัปดาห์หลังจากการให้ยาผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น เต้านมไม่ยุบลง คงต้องอาศัยการรักษาด้วยการผ่าตัดทำศัลยกรรมพลาสติก แต่หากรู้สาเหตุหลักของการเกิดอาการดังกล่าวที่แน่ชัดแล้วก็จะทำการรักษาให้ตรงตามสาเหตุได้