โดราเอมอน ชินจัง อิ๊กคิวซัง” ล้วนเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่เด็กไทยต่างรู้จักกันดี เรียกได้ว่าเด็กไทยกับการ์ตูนญี่ปุ่นเติบโตมาพร้อมๆ กัน การ์ตูนเหล่านี้สะกดให้น้องๆ หนูๆ นั่งตาแป๋วอยู่หน้าจอโทรทัศน์ จนแทบไม่อยากขยับไปไหนหากยังไม่จบตอน
ความคุ้นเคยของเด็กไทยกับการ์ตูนญี่ปุ่นนี่เองที่ทำให้โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หยิบเอาความคุ้นเคยดังกล่าวมาใช้เป็นประโยชน์สำหรับการสอนภาษาญี่ปุ่น โดยเปิดคอร์ส “เรียนภาษาญี่ปุ่นจากเพลงการ์ตูน” เพื่อสอนเด็กไทย
“ปาจรีย์ จิงประเสริฐสุข” ครูใหญ่โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมฯ เปิดเผยว่า ตามปกติเด็กวัยรุ่นหรือเด็กของไทยจะคุ้นเคยกับการ์ตูนและเพลงญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ซึ่งในความคุ้นเคยนั้นหลายคนสนใจอยากรู้ว่าเนื้อเพลงการ์ตูนนั้นหมายความว่าอย่างไร จึงต้องการเอาคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลยมาเรียนรู้จากสื่อตรงนี้ ให้เข้าใจความหมายโดยเอาเพลงการ์ตูนมาจัดพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งความคุ้นเคยกับเพลงการ์ตูนจะเป็นพื้นฐานให้ผู้เรียนเรียนภาษาญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น
“เรานำเพลงการ์ตูนยอดนิยมมาจัดพิมพ์ทั้งหมด 12 เพลง ในชั้นต้นนี้คนที่ไม่มีพื้นความรู้ภาษาญี่ปุ่นเลยก็สามารถเรียนได้ โดยเปิดเพลงให้ฟัง เมื่อเริ่มชินกับเพลงแล้วก็ให้จับคำว่าในเนื้อเพลงมีคำว่าอะไรอยู่ ก็จะนำคำนั้นมาแปลความหมายเป็นภาษาไทย พร้อมไปกับการสอนหลักภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น ให้ดูรูปประโยค เรียนรู้หลักไวยากรณ์ นอกจากนี้เราก็จะสอนให้ร้องเพลง ต่อท่อนการร้องให้นักเรียนจำ ซึ่งก็จะทำให้ง่ายต่อการจดจำคำและเขียนคำศัพท์ ซึ่งผู้เรียนจะสนุกสานมากกว่าการเรียนไวยากรณ์ธรรมดาและมีสมาธิในการเรียนนาน”
สำหรับช่วงวัยของผู้เรียนที่สามารถศึกษาภาษาญี่ปุ่นผ่านเพลงการ์ตูนนั้น ครูใหญ่โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมฯ ระบุว่า สามารถเรียนได้ตั้งแต่อายุ 10-20 ปี ซึ่งภาษาญี่ปุ่นนั้นมีเสียงอยู่น้อยเพียงแค่ 5 เสียง คือ อะ อุ อิ เอะ โอะ เมื่อผนวกเข้ากับเพลงการ์ตูนที่มีเนื้อหาง่ายๆ ก็ยิ่งทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้บรรยากาศการเรียนยังผ่อนคลาย เด็กๆ ก็จะตอบสนองได้เร็วและยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ในห้องเรียนอีกด้วย เพราะเด็กๆ จะสนุกกันเอง
นอกจากเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้ว ผู้สอนยังสอดแทรกเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีของประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเป็นการเรียนรู้เรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่ง อ.ปาจรีย์ยืนยันว่าเมื่อเด็กๆ ได้สัมผัสภาษาญี่ปุ่นแล้ว ก็จะอยากรู้เรื่องของประเทศญี่ปุ่นตามไปด้วย ทำให้เขาได้เปิดโลกกว้างได้ศึกษาเรื่องราวของประเทศใกล้เคียง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ไปกระตุ้นให้เด็กเกิดการค้นคว้า ต่อยอดความรู้ของตนเอง
“การเรียนรู้ด้วยเพลงไม่จำกัดว่าทำได้เฉพาะภาษาญี่ปุ่น เพราะอาจารย์ก็เคยนำเอาเพลงไทยซึ่งคนญี่ปุ่นนิยม เช่น เพลงของนิโคล หรือเบิร์ด ธงไชย ไปใช้สอนภาษาไทยให้กับคนญี่ปุ่น เขาก็สามารถเรียนรู้ภาษาไทยได้เร็วขึ้นเหมือนกัน เพราะคนญี่ปุ่นก็จะคุ้นเคยกับเพลงไทยดังๆ อยู่แล้ว แสดงว่าการใช้เพลงเป็นสื่อได้ผลดี”
สำหรับการสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยเพลงการ์ตูนนั้น จัดเป็นหลักสูตร 20 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี(ไทย-ญี่ปุ่น)โทร.0-2259-9160 ต่อ 1620
ความคุ้นเคยของเด็กไทยกับการ์ตูนญี่ปุ่นนี่เองที่ทำให้โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หยิบเอาความคุ้นเคยดังกล่าวมาใช้เป็นประโยชน์สำหรับการสอนภาษาญี่ปุ่น โดยเปิดคอร์ส “เรียนภาษาญี่ปุ่นจากเพลงการ์ตูน” เพื่อสอนเด็กไทย
“ปาจรีย์ จิงประเสริฐสุข” ครูใหญ่โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมฯ เปิดเผยว่า ตามปกติเด็กวัยรุ่นหรือเด็กของไทยจะคุ้นเคยกับการ์ตูนและเพลงญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ซึ่งในความคุ้นเคยนั้นหลายคนสนใจอยากรู้ว่าเนื้อเพลงการ์ตูนนั้นหมายความว่าอย่างไร จึงต้องการเอาคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลยมาเรียนรู้จากสื่อตรงนี้ ให้เข้าใจความหมายโดยเอาเพลงการ์ตูนมาจัดพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งความคุ้นเคยกับเพลงการ์ตูนจะเป็นพื้นฐานให้ผู้เรียนเรียนภาษาญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น
“เรานำเพลงการ์ตูนยอดนิยมมาจัดพิมพ์ทั้งหมด 12 เพลง ในชั้นต้นนี้คนที่ไม่มีพื้นความรู้ภาษาญี่ปุ่นเลยก็สามารถเรียนได้ โดยเปิดเพลงให้ฟัง เมื่อเริ่มชินกับเพลงแล้วก็ให้จับคำว่าในเนื้อเพลงมีคำว่าอะไรอยู่ ก็จะนำคำนั้นมาแปลความหมายเป็นภาษาไทย พร้อมไปกับการสอนหลักภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น ให้ดูรูปประโยค เรียนรู้หลักไวยากรณ์ นอกจากนี้เราก็จะสอนให้ร้องเพลง ต่อท่อนการร้องให้นักเรียนจำ ซึ่งก็จะทำให้ง่ายต่อการจดจำคำและเขียนคำศัพท์ ซึ่งผู้เรียนจะสนุกสานมากกว่าการเรียนไวยากรณ์ธรรมดาและมีสมาธิในการเรียนนาน”
สำหรับช่วงวัยของผู้เรียนที่สามารถศึกษาภาษาญี่ปุ่นผ่านเพลงการ์ตูนนั้น ครูใหญ่โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมฯ ระบุว่า สามารถเรียนได้ตั้งแต่อายุ 10-20 ปี ซึ่งภาษาญี่ปุ่นนั้นมีเสียงอยู่น้อยเพียงแค่ 5 เสียง คือ อะ อุ อิ เอะ โอะ เมื่อผนวกเข้ากับเพลงการ์ตูนที่มีเนื้อหาง่ายๆ ก็ยิ่งทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้บรรยากาศการเรียนยังผ่อนคลาย เด็กๆ ก็จะตอบสนองได้เร็วและยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ในห้องเรียนอีกด้วย เพราะเด็กๆ จะสนุกกันเอง
นอกจากเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้ว ผู้สอนยังสอดแทรกเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีของประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเป็นการเรียนรู้เรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่ง อ.ปาจรีย์ยืนยันว่าเมื่อเด็กๆ ได้สัมผัสภาษาญี่ปุ่นแล้ว ก็จะอยากรู้เรื่องของประเทศญี่ปุ่นตามไปด้วย ทำให้เขาได้เปิดโลกกว้างได้ศึกษาเรื่องราวของประเทศใกล้เคียง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ไปกระตุ้นให้เด็กเกิดการค้นคว้า ต่อยอดความรู้ของตนเอง
“การเรียนรู้ด้วยเพลงไม่จำกัดว่าทำได้เฉพาะภาษาญี่ปุ่น เพราะอาจารย์ก็เคยนำเอาเพลงไทยซึ่งคนญี่ปุ่นนิยม เช่น เพลงของนิโคล หรือเบิร์ด ธงไชย ไปใช้สอนภาษาไทยให้กับคนญี่ปุ่น เขาก็สามารถเรียนรู้ภาษาไทยได้เร็วขึ้นเหมือนกัน เพราะคนญี่ปุ่นก็จะคุ้นเคยกับเพลงไทยดังๆ อยู่แล้ว แสดงว่าการใช้เพลงเป็นสื่อได้ผลดี”
สำหรับการสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยเพลงการ์ตูนนั้น จัดเป็นหลักสูตร 20 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี(ไทย-ญี่ปุ่น)โทร.0-2259-9160 ต่อ 1620