ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
โดย ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์
1) ภาวะสมองเสื่อมคืออะไร ?
เป็นเวลานานนับศตวรรษที่มนุษย์เราได้มีความพยายามที่จะหาวิธีทำให้ตัวเองฉลาดขึ้น หรือหายาทำให้สมองดี แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ตรงกันข้ามคนส่วนใหญ่เมื่อมีอายุมากขึ้นจะพบว่ามีความจำเลวลง หลงลืม หรือบุคลิกภาพและอารมณ์ผิดแผกไปจากปรกติ บางรายเป็นมากจนจัดว่าเป็นโรคขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า ภาวะสมองเสื่อม

ในปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากมายในโลก เนื่องจากมนุษย์มีอายุยืนยาวกว่าเดิม แม้แต่ในประเทศไทยเอง เดิมคนไทยมีอายุเฉลี่ยราว 45 ปี ในปัจจุบันผู้ชายไทยมีอายุเฉลี่ยยืนยาวถึง 63 ปี และผู้หญิง 64 ปี ประชากรผู้สูงอายุในโลกในบางแห่งจึงมีการทวีจำนวนเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอัตราเกิดของทารก ดังนั้นภาวะสมองเสื่อมนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดอันหนึ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุทั่วโลกมีความพิการ และพึ่งตนเองไม่ได้
2). ภาวะสมองเสื่อมพบบ่อยแค่ไหน ?
จากการศึกษาทางระบาดวิทยาถึงสถิติของความชุกชุมของภาวะสมองเสื่อมในประชากรโลก พบว่าอยู่ในอัตราสูงถึง 5-8 เปอร์เซ็นต์ของผู้อายุเกิน 65 ปี และจะมีอัตราเป็นโรคสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และถ้าอายุเกิน 90 ปี จะพบถึงครึ่งหนึ่งที่มีภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้น
ในประเทศไทยพบว่ามีประชากรอายุเกิน 60 ปี ถึง 3 ล้าน 1 แสนคน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ร้อยละ 5.7 ของประชากรไทย (พ.ศ.2532) ดังนั้นกลุ่มประชากรกลุ่มนี้จึงมีความโน้มเอียงสูงที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมได้
ภาวะสมองเสื่อมนี้ไม่เฉพาะเกิดแต่ในผู้สูงอายุเท่านั้น ในประชากรที่อายุน้อยก็อาจเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน ซึ่งมักจะมีสาเหตุมาจากโรคพันธุกรรม โรคการติดเชื้อของสมอง (เช่นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบจากไวรัส) สารพิษ และโรคหลอดเลือดสมองเป็นต้น ซึ่งจะได้กล่าวโดยละเอียดในเรื่องสาเหตุของโรคต่อไป
3). พยาธิสภาพของภาวะสมองเสื่อมเป็นอย่างไร ?
เป็นที่ทราบกันดีว่าสมองของคนเรานั้นเป็นอวัยวะที่ได้พัฒนามาสูงสุดของร่างกายมนุษย์เรา และมีความสลับซับซ้อนในการทำงานมากที่สุด เซลล์สมองเป็นเซลล์ที่มีความจำเพาะมาก และเปราะบางที่สุด ในคนปรกติมีเซลล์สมองมากมายนับเป็นพันๆ ล้านตัว เซลล์เหล่านี้เมื่อตายไปจะไม่มีการงอกมาทดแทนได้เช่นอวัยวะอื่นๆ ดังนั้นปริมาณและจำนวนเซลล์สมองที่ทำหน้าที่ในคนปกติจะมีการลดจำนวนลงเรื่อยๆ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น
ขบวนการนี้ถือว่าเป็นธรรมชาติอันเกิดมาจากความชราภาพ บางคนมีเซลล์สมองตายไปวันละ 1,000 ตัว บางคน 10,000 ตัว ซึ่งไม่เท่ากันแล้วแต่เหตุปัจจัยที่มาส่งเสริมเช่น การดื่มเหล้า การอักเสบของสมอง สมองขาดเลือดหรือน้ำตาล ยาหรือพิษบางชนิด และภาวะชักต่างมีผลทำให้เกิดการสูญเสียของเซลล์สมองมากกว่าคนปกติทั่วไป
ในผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจะพบว่ามีปริมาณหรือจำนวนเซลล์ของสมองที่ทำงานลดลงมากมายอย่างเห็นได้ชัดเจนในกล้องจุลทรรศน์ จึงทำให้มีปัญหาด้านความจำ ความคิด อารมณ์และบุคลิกภาพของตนผิดไปจากเดิมอย่างมาก นอกจากนี้ยังอาจพบว่ามีใยของประสาทในสมองพันกันยุ่งเหยิงเต็มไปหมดอีกด้วย
4).มีภาวะอื่นๆ อะไรบ้างที่อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายกับภาวะสมองเสื่อม ?
ก่อนที่จะบ่งชี้ว่าคนใดเป็นภาวะสมองเสื่อม แพทย์หรือคนดูแลผู้ป่วยจำเป็นต้องแยกภาวะ 3 ภาวะต่อไปนี้ที่อาจมีอาการและอาการแสดงคล้ายคลึงกับภาวะสมองเสื่อมได้ อันได้แก่
ก). ผู้ป่วยที่สับสน เช่น เกิดขึ้นภายหลังชัก หมดสติหรือเป็นลม ได้รับยานอนหลับหรือยากล่อมประสาท หรือยากระตุ้นประสาทบางอย่าง ผู้สูงอายุที่มีไข้สูงหรือผู้ที่หอบเหนื่อย และมีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ ผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ป่วยที่ช็อกหรือเสียเลือดมากๆ หรือแม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันนานหลายๆ วัน
ข). ผู้ป่วยที่เพ้อคลั่ง เช่น เกิดจากโรคพิษสุราเรื้อรัง ติดยาเสพติด ติดยานอนหลับ โรคตับพิการ โรคไตพิการ โรคสมองอักเสบ หรือแม้แต่ได้รับสารพิษทางเคมีเข้าร่างกายเป็นต้น
ค). โรคท้อแท้หรือซึมเศร้า ในผู้ป่วยที่หมดหวังทอดอาลัยตายอยากในชีวิต ท้อแท้อยากฆ่าตัวตายจากความผิดหวังหรือปัญหาชีวิต ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยของโรคทางจิตเวชวิทยา ซึ่งจำเป็นต้องรีบแก้ไขและรักษาโดยด่วน มิเช่นนั้นจะมีโอกาสสูงในการทำลายตัวเองหรือผู้อื่น
5).สาเหตุของภาวะสมองเสื่อมเกิดจากอะไรบ้าง ?
ในผู้สูงอายุสาเหตุสมองเสื่อมที่พบบ่อยๆ มีสาเหตุ 2 ประการ คือ
1. โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคอัมพาต ไม่ว่าจะเกิดจากชนิดหลอดเลือดตีบ หรืออุดตัน หรือแตกก็ตาม โรคนี้พบราว 20% ของผู้ป่วย
2. โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease) เป็นโรคสมองเสื่อมที่พบบ่อยที่สุด และจะมีอาการเลวลงเรื่อยๆ คือ ราว 70-80% ของผู้ที่มีสมองเสื่อม โรคนี้จะเป็นสาเหตุทำให้สมองฝ่ออย่างรวดเร็ว และมีปัญหาด้านความจำ การพูด ความคิด การกระทำ อารมณ์ การดำรงชีพ และบุคลิกภาพผิดไปอย่างชัดเจน ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของโรคนี้แน่นอนว่าเกิดจากสิ่งใด มีหลายคนสันนิษฐานว่าเกิดจากพันธุกรรม การติดเชื้อสารพิษตลอดจนระบบภูมิต้านทาน งานวิจัยเกี่ยวกับโรคนี้กำลังดำเนินรุดหน้าไปเรื่อยในปัจจุบัน ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
6). ภาวะสมองเสื่อมสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่ ?

ในปัจจุบันพบว่าภาวะสมองเสื่อมในผู้ป่วยทุกอายุ อาจจำแนกได้เป็น 3 ประเภท
ใหญ่ๆ คือ
1. ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลดี
2. ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลเพียงบางส่วน
3. ภาวะสมองเสื่อมที่ยังรักษาไม่หายในปัจจุบัน
ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลดี ซึ่งพบได้ราว 5-10% ของผู้ป่วยทั้งหมดสามารถจำแนกได้ตามสาเหตุดังนี้
1. ภาวะเลือดคั่งที่ผิวสมอง การผ่าตัดเอาเลือดออกก็จะหายจากโรคสมองเสื่อมได้
2. ภาวะโพรงสมองโต การผ่าตัดใส่ท่อให้โพรงสมองแฟบลงก็จะหายจากภาวะสมองเสื่อมได้
3.โรคลมชักที่ไม่ได้รับการควบคุมรักษาที่ดีและถูกต้อง เพราะการชักแต่ละครั้งจะทำให้เซลล์สมองตายไปเป็นจำนวนนับหมื่นๆ ตัว
4. โรคขาดวิตามินบี
5. โรคของต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนน้อย
6. โรคเยื่อสมองอักเสบ เช่น จากวัณโรคสมอง เชื้อรา พยาธิสมองเป็นต้น
7. โรคซิฟิลิสขึ้นสมอง
8. โรคเนื้องอกสมองบางชนิดที่ฐานสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงที่เกิดมาจากเยื่อหุ้มสมอง
9. โรคพิษสุรา หรือได้รับสารพิษต่อสมองต่างๆ
10. โรควิลสัน ซึ่งเกิดจากพันธุกรรมเนื่องจากมีสารตะกั่วคั่งในสมองและตับ
ภาวะสมองเสื่อมกลุ่มนี้ทั้งหมดจำเป็นจะต้องได้รับการวินิจฉัยโดยเร็ว เพื่อจะได้ให้การรักษาโดยตรงที่ถูกต้องได้อย่างทันท่วงที เพื่อสมองจะได้ไม่ถูกทำลายไปมาก เพราะถ้ารักษาได้ไวและถูกต้องผู้ป่วยจะกลับคืนมาสู่สภาพปกติได้ ถ้ารักษาช้าอาจจะมีความพิการของสมองหลงเหลืออยู่ได้
ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลเพียงบางส่วน ในกลุ่มนี้อาจมีสาเหตุจาก
1. โรคเนื้อสมองตายหลายตำแหน่งจากการอุดตันของหลอดเลือดแดงในสมอง
2. สมองขาดออกซิเจน หรือกลูโคส
3. โรคเมาหมัดในนักมวย หรือผู้ที่มีอุบัติเหตุทางสมองโดนกระทบกระแทก
หรือกระเทือนสมองบ่อยๆ
4. โรคสมองอักเสบจากไวรัส
5. โรคเนื้องอกสมองที่กระจายมาจากมะเร็งที่อื่นของร่างกาย
6. โรคปลอกหุ้มใยสมองเสื่อม โรคกลุ่มนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่นอนในคนไทยพบน้อย แต่ในประเทศหนาวพบมาก เป็นสาเหตุทำให้คนหนุ่มสาวในต่างประเทศพิการกันมาก
ภาวะสมองเสื่อมที่ยังรักษาไม่หายในปัจจุบัน โรคกลุ่มนี้พบบ่อยเช่นกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ สาเหตุของโรคกลุ่มนี้ได้แก่
1. โรคอัลไซเมอร์
2.โรคพิคส์ คล้ายๆ กับโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุและทำให้สมองฝ่อได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ผิดกันที่พยาธิสภาพในสมองแตกต่างกัน
3.โรคสมองถูกทำลายจากเชื้อไวรัสชนิดเจริญช้า โรคนี้พบได้น้อยในบ้านเรา และผู้ป่วยมักจะเกิดอาการชักแบบกระตุก สมองเสื่อมและมักเสียชีวิตหมดภายในเวลาเพียง 1-2 ปี
4. โรคเอดส์เข้าสู่สมอง
5. โรคพันธุกรรม เช่น โรคฮันติงตัน โรคสมองน้อยและไขสันหลังฝ่อในระยะท้ายๆ จะมีอาการสมองเสื่อมได้
โดย ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์
1) ภาวะสมองเสื่อมคืออะไร ?
เป็นเวลานานนับศตวรรษที่มนุษย์เราได้มีความพยายามที่จะหาวิธีทำให้ตัวเองฉลาดขึ้น หรือหายาทำให้สมองดี แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ตรงกันข้ามคนส่วนใหญ่เมื่อมีอายุมากขึ้นจะพบว่ามีความจำเลวลง หลงลืม หรือบุคลิกภาพและอารมณ์ผิดแผกไปจากปรกติ บางรายเป็นมากจนจัดว่าเป็นโรคขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า ภาวะสมองเสื่อม
ในปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากมายในโลก เนื่องจากมนุษย์มีอายุยืนยาวกว่าเดิม แม้แต่ในประเทศไทยเอง เดิมคนไทยมีอายุเฉลี่ยราว 45 ปี ในปัจจุบันผู้ชายไทยมีอายุเฉลี่ยยืนยาวถึง 63 ปี และผู้หญิง 64 ปี ประชากรผู้สูงอายุในโลกในบางแห่งจึงมีการทวีจำนวนเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอัตราเกิดของทารก ดังนั้นภาวะสมองเสื่อมนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดอันหนึ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุทั่วโลกมีความพิการ และพึ่งตนเองไม่ได้
2). ภาวะสมองเสื่อมพบบ่อยแค่ไหน ?
จากการศึกษาทางระบาดวิทยาถึงสถิติของความชุกชุมของภาวะสมองเสื่อมในประชากรโลก พบว่าอยู่ในอัตราสูงถึง 5-8 เปอร์เซ็นต์ของผู้อายุเกิน 65 ปี และจะมีอัตราเป็นโรคสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และถ้าอายุเกิน 90 ปี จะพบถึงครึ่งหนึ่งที่มีภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้น
ในประเทศไทยพบว่ามีประชากรอายุเกิน 60 ปี ถึง 3 ล้าน 1 แสนคน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ร้อยละ 5.7 ของประชากรไทย (พ.ศ.2532) ดังนั้นกลุ่มประชากรกลุ่มนี้จึงมีความโน้มเอียงสูงที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมได้
ภาวะสมองเสื่อมนี้ไม่เฉพาะเกิดแต่ในผู้สูงอายุเท่านั้น ในประชากรที่อายุน้อยก็อาจเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน ซึ่งมักจะมีสาเหตุมาจากโรคพันธุกรรม โรคการติดเชื้อของสมอง (เช่นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบจากไวรัส) สารพิษ และโรคหลอดเลือดสมองเป็นต้น ซึ่งจะได้กล่าวโดยละเอียดในเรื่องสาเหตุของโรคต่อไป
3). พยาธิสภาพของภาวะสมองเสื่อมเป็นอย่างไร ?
เป็นที่ทราบกันดีว่าสมองของคนเรานั้นเป็นอวัยวะที่ได้พัฒนามาสูงสุดของร่างกายมนุษย์เรา และมีความสลับซับซ้อนในการทำงานมากที่สุด เซลล์สมองเป็นเซลล์ที่มีความจำเพาะมาก และเปราะบางที่สุด ในคนปรกติมีเซลล์สมองมากมายนับเป็นพันๆ ล้านตัว เซลล์เหล่านี้เมื่อตายไปจะไม่มีการงอกมาทดแทนได้เช่นอวัยวะอื่นๆ ดังนั้นปริมาณและจำนวนเซลล์สมองที่ทำหน้าที่ในคนปกติจะมีการลดจำนวนลงเรื่อยๆ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น
ขบวนการนี้ถือว่าเป็นธรรมชาติอันเกิดมาจากความชราภาพ บางคนมีเซลล์สมองตายไปวันละ 1,000 ตัว บางคน 10,000 ตัว ซึ่งไม่เท่ากันแล้วแต่เหตุปัจจัยที่มาส่งเสริมเช่น การดื่มเหล้า การอักเสบของสมอง สมองขาดเลือดหรือน้ำตาล ยาหรือพิษบางชนิด และภาวะชักต่างมีผลทำให้เกิดการสูญเสียของเซลล์สมองมากกว่าคนปกติทั่วไป
ในผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจะพบว่ามีปริมาณหรือจำนวนเซลล์ของสมองที่ทำงานลดลงมากมายอย่างเห็นได้ชัดเจนในกล้องจุลทรรศน์ จึงทำให้มีปัญหาด้านความจำ ความคิด อารมณ์และบุคลิกภาพของตนผิดไปจากเดิมอย่างมาก นอกจากนี้ยังอาจพบว่ามีใยของประสาทในสมองพันกันยุ่งเหยิงเต็มไปหมดอีกด้วย
4).มีภาวะอื่นๆ อะไรบ้างที่อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายกับภาวะสมองเสื่อม ?
ก่อนที่จะบ่งชี้ว่าคนใดเป็นภาวะสมองเสื่อม แพทย์หรือคนดูแลผู้ป่วยจำเป็นต้องแยกภาวะ 3 ภาวะต่อไปนี้ที่อาจมีอาการและอาการแสดงคล้ายคลึงกับภาวะสมองเสื่อมได้ อันได้แก่
ก). ผู้ป่วยที่สับสน เช่น เกิดขึ้นภายหลังชัก หมดสติหรือเป็นลม ได้รับยานอนหลับหรือยากล่อมประสาท หรือยากระตุ้นประสาทบางอย่าง ผู้สูงอายุที่มีไข้สูงหรือผู้ที่หอบเหนื่อย และมีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ ผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ป่วยที่ช็อกหรือเสียเลือดมากๆ หรือแม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันนานหลายๆ วัน
ข). ผู้ป่วยที่เพ้อคลั่ง เช่น เกิดจากโรคพิษสุราเรื้อรัง ติดยาเสพติด ติดยานอนหลับ โรคตับพิการ โรคไตพิการ โรคสมองอักเสบ หรือแม้แต่ได้รับสารพิษทางเคมีเข้าร่างกายเป็นต้น
ค). โรคท้อแท้หรือซึมเศร้า ในผู้ป่วยที่หมดหวังทอดอาลัยตายอยากในชีวิต ท้อแท้อยากฆ่าตัวตายจากความผิดหวังหรือปัญหาชีวิต ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยของโรคทางจิตเวชวิทยา ซึ่งจำเป็นต้องรีบแก้ไขและรักษาโดยด่วน มิเช่นนั้นจะมีโอกาสสูงในการทำลายตัวเองหรือผู้อื่น
5).สาเหตุของภาวะสมองเสื่อมเกิดจากอะไรบ้าง ?
ในผู้สูงอายุสาเหตุสมองเสื่อมที่พบบ่อยๆ มีสาเหตุ 2 ประการ คือ
1. โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคอัมพาต ไม่ว่าจะเกิดจากชนิดหลอดเลือดตีบ หรืออุดตัน หรือแตกก็ตาม โรคนี้พบราว 20% ของผู้ป่วย
2. โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease) เป็นโรคสมองเสื่อมที่พบบ่อยที่สุด และจะมีอาการเลวลงเรื่อยๆ คือ ราว 70-80% ของผู้ที่มีสมองเสื่อม โรคนี้จะเป็นสาเหตุทำให้สมองฝ่ออย่างรวดเร็ว และมีปัญหาด้านความจำ การพูด ความคิด การกระทำ อารมณ์ การดำรงชีพ และบุคลิกภาพผิดไปอย่างชัดเจน ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของโรคนี้แน่นอนว่าเกิดจากสิ่งใด มีหลายคนสันนิษฐานว่าเกิดจากพันธุกรรม การติดเชื้อสารพิษตลอดจนระบบภูมิต้านทาน งานวิจัยเกี่ยวกับโรคนี้กำลังดำเนินรุดหน้าไปเรื่อยในปัจจุบัน ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
6). ภาวะสมองเสื่อมสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่ ?
ในปัจจุบันพบว่าภาวะสมองเสื่อมในผู้ป่วยทุกอายุ อาจจำแนกได้เป็น 3 ประเภท
ใหญ่ๆ คือ
1. ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลดี
2. ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลเพียงบางส่วน
3. ภาวะสมองเสื่อมที่ยังรักษาไม่หายในปัจจุบัน
ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลดี ซึ่งพบได้ราว 5-10% ของผู้ป่วยทั้งหมดสามารถจำแนกได้ตามสาเหตุดังนี้
1. ภาวะเลือดคั่งที่ผิวสมอง การผ่าตัดเอาเลือดออกก็จะหายจากโรคสมองเสื่อมได้
2. ภาวะโพรงสมองโต การผ่าตัดใส่ท่อให้โพรงสมองแฟบลงก็จะหายจากภาวะสมองเสื่อมได้
3.โรคลมชักที่ไม่ได้รับการควบคุมรักษาที่ดีและถูกต้อง เพราะการชักแต่ละครั้งจะทำให้เซลล์สมองตายไปเป็นจำนวนนับหมื่นๆ ตัว
4. โรคขาดวิตามินบี
5. โรคของต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนน้อย
6. โรคเยื่อสมองอักเสบ เช่น จากวัณโรคสมอง เชื้อรา พยาธิสมองเป็นต้น
7. โรคซิฟิลิสขึ้นสมอง
8. โรคเนื้องอกสมองบางชนิดที่ฐานสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงที่เกิดมาจากเยื่อหุ้มสมอง
9. โรคพิษสุรา หรือได้รับสารพิษต่อสมองต่างๆ
10. โรควิลสัน ซึ่งเกิดจากพันธุกรรมเนื่องจากมีสารตะกั่วคั่งในสมองและตับ
ภาวะสมองเสื่อมกลุ่มนี้ทั้งหมดจำเป็นจะต้องได้รับการวินิจฉัยโดยเร็ว เพื่อจะได้ให้การรักษาโดยตรงที่ถูกต้องได้อย่างทันท่วงที เพื่อสมองจะได้ไม่ถูกทำลายไปมาก เพราะถ้ารักษาได้ไวและถูกต้องผู้ป่วยจะกลับคืนมาสู่สภาพปกติได้ ถ้ารักษาช้าอาจจะมีความพิการของสมองหลงเหลืออยู่ได้
ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาได้ผลเพียงบางส่วน ในกลุ่มนี้อาจมีสาเหตุจาก
1. โรคเนื้อสมองตายหลายตำแหน่งจากการอุดตันของหลอดเลือดแดงในสมอง
2. สมองขาดออกซิเจน หรือกลูโคส
3. โรคเมาหมัดในนักมวย หรือผู้ที่มีอุบัติเหตุทางสมองโดนกระทบกระแทก
หรือกระเทือนสมองบ่อยๆ
4. โรคสมองอักเสบจากไวรัส
5. โรคเนื้องอกสมองที่กระจายมาจากมะเร็งที่อื่นของร่างกาย
6. โรคปลอกหุ้มใยสมองเสื่อม โรคกลุ่มนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่นอนในคนไทยพบน้อย แต่ในประเทศหนาวพบมาก เป็นสาเหตุทำให้คนหนุ่มสาวในต่างประเทศพิการกันมาก
ภาวะสมองเสื่อมที่ยังรักษาไม่หายในปัจจุบัน โรคกลุ่มนี้พบบ่อยเช่นกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ สาเหตุของโรคกลุ่มนี้ได้แก่
1. โรคอัลไซเมอร์
2.โรคพิคส์ คล้ายๆ กับโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุและทำให้สมองฝ่อได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ผิดกันที่พยาธิสภาพในสมองแตกต่างกัน
3.โรคสมองถูกทำลายจากเชื้อไวรัสชนิดเจริญช้า โรคนี้พบได้น้อยในบ้านเรา และผู้ป่วยมักจะเกิดอาการชักแบบกระตุก สมองเสื่อมและมักเสียชีวิตหมดภายในเวลาเพียง 1-2 ปี
4. โรคเอดส์เข้าสู่สมอง
5. โรคพันธุกรรม เช่น โรคฮันติงตัน โรคสมองน้อยและไขสันหลังฝ่อในระยะท้ายๆ จะมีอาการสมองเสื่อมได้