เลขาธิการอย.แจง ถุงยางอนามัยระบบสั่นไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ แต่เป็น sex toy วางจำหน่ายทั่วไปไม่ได้ พร้อมประสานสคบ.ควบคุมดูแลไม่ให้โฆษณาเกินจริง ส่วนจะจัดจำหน่ายช่องทางไหนหรือห้ามขายในประเทศอยู่ที่สคบ.จะอนุญาต
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญเครื่องมือแพทย์เมื่อวานนี้ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย โดยมีตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และศูนย์เฝ้าระวังด้านวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งการประชุมดังกล่าวได้พูดคุยเรื่องถุงยางอนามัยระบบสั่นสะเทือน ที่ผลิตจากประเทศจีน อ้างสรรพคุณว่าใช้กระตุ้นอวัยวะเพศชายให้แข็งตัวได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบถุงยางดังกล่าว พบว่าไม่ได้เป็นถุงยางอนามัยที่ใช้ป้องกันโรคจากเพศสัมพันธ์โดยทั่วแต่มีลักษณะเป็นวงแหวนใช้ระบบสั่นด้วยเครื่องกล ซึ่งจะต้องสวมถุงยางอนามัยก่อน จากนั้นก็สวมใส่อุปกรณ์ที่มีรูปวงแหวนเข้าที่อวัยวะเพศชาย เพื่อไปกระตุ้นให้อวัยวะเพศชายมีการสั่นและแข็งตัวด้วยระบบเครื่องกลที่เหมือนมอเตอร์
“แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ข่าวที่ออกไปเมื่อวานที่สรุปว่าเป็นเครื่องมือแพทย์นั้นไม่ใช่ มีความคลาดเคลื่อนอยู่นิดหน่อย คือ ผลการพิจารณาของในที่ประชุมสรุปว่า อุปกรณ์ลักษณะดังกล่าวไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ เพราะไม่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นอวัยวะเพศชายให้แข็งตัวได้ตามข้อบ่งใช้ที่ระบุ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้บอกว่าถึงไม่ใช่เครื่องมือแพทย์แล้วจะมีการวางจำหน่ายได้อย่างเสรี สรุปกันว่า เป็นสินค้าประเภท Sex Toy ไม่สามารถวางจำหน่ายได้อย่างเสรี หากจะมีการนำเข้ามาเพื่อจัดจำหน่าย ต้องให้ สคบ. เป็นผู้กำกับดูแลเกี่ยวกับฉลาก การโฆษณาเกินจริงและชวนเชื่อทางเพศ รวมทั้งมีช่องทางจัดจำหน่ายเฉพาะ หรืออาจจะถึงขั้นที่ไม่จำหน่ายในประเทศเลยก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับสคบ.จะพิจารณา ดังนั้น ทางอย.จะประสานงานกับ สคบ. เพื่อให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและกำหนดมาตรการควบคุมที่เหมาะสม ในระยะยาวหากมีการโฆษณาว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องมือแพทย์ ทางอย.จะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อเอาผิดกับบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายต่อไป”
ศ.ดร.ภักดี กล่าวต่อว่า ส่วนอีกกรณีที่มีการหารือคือ วงแหวนยางรัดอวัยวะเพศที่มีการวางขายในร้านสะดวกซื้อและเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้นั้น ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่า ถ้าใช้วงแหวนร่วมกับยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะช่วยเพิ่มระยะเวลาในการแข็งตัวขณะร่วมเพศ ดังนั้นอย.จะควบคุมโดยจัดอยู่ในเครื่องมือแพทย์ทั่วไป และจะไปดูในเรื่องความเหมาะสมของฉลาก และการโฆษณาเพื่อมิให้มีการอวดอ้างเกินความเป็นจริง
ด้านนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงเรื่องถุงยางอนามัยที่ในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศในกลุ่มชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศว่า อุปกรณ์ดังกล่าวต้องใช้ควบคู่ไปกับถุงยางอนามัยปกติด้วย จึงจะปลอดภัย เนื่องจากตัวอุปกรณ์ไม่ใช่ถุงยางอนามัยในการป้องกันและควบคุมโรค แต่เป็นห่วงรัดเพื่อช่วยให้เกิดอารมณ์ทางเพศ และอวัยวะเพศแข็งตัวเท่านั้น การใช้แม้ว่าจะเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็ต้องควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย โดยการสั่งซื้อนั้นควรได้รับการคำแนะนำจากแพทย์หรือมีใบสั่งซื้อในผู้ที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศจริงเท่านั้น
นอกจากนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเปิดขายอุปกรณ์ทางเพศตามร้านทั่วประเทศอาจเป็นอันตราย ฉะนั้นการเปิดรับและควบคุมจึงเป็นสิ่งที่ดีในการป้องกัน