xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีบูรพา”…สามัญชนผู้มั่นคงในอุดมการณ์!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อมรรัตน์ ล้อถิรธร...รายงาน

ไม่ว่าใครจะยกให้ “ศรีบูรพา” หรือ “กุหลาบ สายประดิษฐ์” เป็นอะไร? เป็นนักคิดนักเขียนฝีมือเอก เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย หรือเป็นนักหนังสือพิมพ์ระดับปรมาจารย์ของเมืองไทย ผู้จัดการออนไลน์ขอถือโอกาสนี้ (16 มิ.ย.) ที่ครบรอบ 31 ปีแห่งการจากไปของศรีบูรพา รำลึกถึงตัวตนของสามัญชนคนนี้ คนที่มั่นคงในอุดมการณ์และไม่เคยค้อมหัวให้ใครหรืออะไรก็ตามที่ไม่ถูกต้อง

คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อฟังเสียงบทความนี้


กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา เป็นบุตรของนายสุวรรณ และนางสมบุญ สายประดิษฐ์ มีพี่สาวชื่อ จำรัส นิมาภาส เกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2448 เป็นชาวกรุงเทพฯ เรียนจบ ม.8 ที่โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ มีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์อาวุโสของเมืองไทยหลายท่าน เช่น หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง ระพีพัฒน์ สด กูรมะโรหิต และโชติ แพร่พันธุ์ เจ้าของนามปากกา “ยาขอบ”

หลังจบ ม.8 จากโรงเรียนวัดเทพศิรินทร์แล้ว กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้ใช้ชีวิตเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ พร้อมกับเขียนเรื่อง ทั้งนิยายและบทกวีส่งไปหนังสือพิมพ์หลายฉบับ โดยใช้หลายนามปากกา แต่ที่โด่งดังที่สุด คือ “ศรีบูรพา” บทประพันธ์อมตะของศรีบูรพา ได้แก่ ข้างหลังภาพ แลไปข้างหน้า จนกว่าเราจะพบกันอีก ลูกผู้ชาย และสงครามชีวิต เป็นต้น

กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้ร่วมกับเพื่อนๆ นักเขียนออกหนังสือพิมพ์ “สุภาพบุรุษ” เมื่อปี 2472 โดยพิมพ์ที่โรงพิมพ์อักษรนิติ์ บางขุนพรหม ซึ่งเรียกกันในขณะนั้นว่า “ค่ายบางขุนพรหม” มีนักเขียนฝีมือดีๆ มารวมกันอยู่ที่ค่ายนี้จำนวนมาก เช่น พล.ต.หลวงวิจิตรวาทการ มาลัย ชูพินิจ และโชติ แพร่พันธุ์ เป็นต้น

นอกจากหนังสือพิมพ์สุภาพบุรุษแล้ว กุหลาบ สายประดิษฐ์ ยังออกหนังสือพิมพ์และรับจ้างคุมสต๊าฟ เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์รายวันและรายสัปดาห์อีกหลายฉบับ เช่น “บางกอกการเมือง” “ไทยใหม่รายวัน” รวมทั้งรับจ้างเขียนบทความให้แก่หนังสือพิมพ์ศรีกรุง และสยามราษฎร์รายวันพร้อมๆ กันไปด้วย

หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 พลตรีพระวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ทรงเล็งเห็นถึงความรู้ความสามารถของกุหลาบ สายประดิษฐ์ จึงได้ชักชวนให้มาเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ประชาชาติรายวันของพระองค์ ซึ่งนับว่าหาได้ยากยิ่งนักที่คนหนุ่มในวัยแค่ 27 ปี มีความรู้แค่ ม.8 จะได้รับความไว้วางใจจากเจ้านายชั้นสูงให้มารับผิดชอบคุมสต๊าฟกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์รายวันชั้นนำของเมืองไทย

กุหลาบ สายประดิษฐ์ คุมกองบรรณาธิการประชาชาติรายวันอยู่ได้ประมาณ 5 ปี ระหว่างนี้ได้เรียนวิชากฎหมายเพิ่มเติมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนได้รับปริญญาธรรมศาสตร์บัณฑิต ต่อมาปี 2480 ได้ถูกภัยการเมืองในสมัยนั้นบีบให้ลาออก หลังจากนั้นในปี 2495 กุหลาบ สายประดิษฐ์ ไม่สามารถทนเห็นหนังสือพิมพ์ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพได้อีกต่อไป จึงได้ร่วมกับเพื่อนๆ หนังสือพิมพ์เรียกร้องให้รัฐบาลเลิกเซ็นเซอร์หนังสือพิมพ์และยกเลิก พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484

ในปีเดียวกัน กุหลาบ สายประดิษฐ์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการสันติภาพแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับมิตรสหายเรียกร้องสันติภาพคัดค้านการรุกรานเกาหลีของสหรัฐฯ กระทั่งถูกจับกุมในนาม "กบฏสันติภาพ" ศาลตัดสินจำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน แต่ติดคุกจริงเกือบๆ 5 ปี เพราะได้รับอานิสงส์จากงานฉลองครบ 25 พุทธศตวรรษ จึงได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดในปี พ.ศ.2500

และปีต่อมา กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้รับเชิญให้เป็นหัวหน้าคณะนำสื่อมวลชนไทยไปเยือนประเทศจีน และจำเป็นต้องตัดสินใจลี้ภัยการเมืองที่นั่น เพราะประเทศไทยขณะนั้นเกิดการปฏิวัติโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใครที่เดินทางกลับจากประเทศสังคมนิยมจะต้องถูกจับกุมคุมขัง และในที่สุด กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคปอดบวมที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2517 ขณะที่มีอายุ 69 ปี ท่ามกลางการจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติโดยรัฐบาลจีน

แม้กุหลาบ สายประดิษฐ์ จะจากไปนานแล้ว แต่เบื้องหลังยังมีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ชนิด สายประดิษฐ์ และบุตรสาว-บุตรชาย สุรภิณ และสุรพันธ์ แอบภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ เมื่อองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ประกาศยกย่องให้กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นบุคคลสำคัญด้าน "ศิลปวัฒนธรรมของโลก" เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2546 ในโอกาส 100 ปี ชาตกาล กุหลาบ สายประดิษฐ์ ในปี 2548 ตามที่สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และมูลนิธิเสฐียรโกเศศ นาคะประทีปเสนอ สุรพันธ์ สายประดิษฐ์ พูดถึงคุณพ่อกุหลาบว่า พ่อเป็นพ่อที่รักลูกรักครอบครัว เป็นคนใจเย็น และนุ่มนวล แต่งานเขียนจะมีความเป็นหัวก้าวหน้า จริงๆ แล้วพ่อเป็นคนที่ประนีประนอม แต่ถ้าเป็นเรื่องความถูกต้อง ความเป็นธรรม พ่อจะต้องรักษาความถูกต้องเป็นธรรมเป็นอันดับแรก

ด้าน วาณี พนมยงค์ ภรรยาคุณสุรพันธ์ กล่าวในฐานะลูกสะใภ้กุหลาบ สายประดิษฐ์ ว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง นอกจากความภูมิใจที่ได้มีบุคคลผู้บุกเบิกวรรณกรรมสมัยใหม่ของไทยได้รับการยอมรับจากยูเนสโกแล้ว ส่วนตัวยังมีความประทับใจในการดำเนินชีวิตของกุหลาบ สายประดิษฐ์ ด้วย

“หลังจากที่ดิฉันได้เป็นสะใภ้ท่าน ก็ได้มีการศึกษาประวัติของท่าน โดยเฉพาะในเยาว์วัยที่ท่านกำลังเป็นเยาวชนหรือหนุ่มอยู่ ท่านเป็นคนที่ใฝ่ความก้าวหน้า ใฝ่การเรียน หาความรู้อย่างมากเลย คือท่านจะมีโครงการสำหรับตัวเองตลอดเวลาว่าจะต้องเรียนภาษาอังกฤษให้ดี จะต้องดูแลสุขภาพให้ดี จะต้องลดความทิฐิในตัวเอง และมีการตรวจสอบ พอถึงปลายปีก็มีการตรวจสอบว่าโครงการที่ตัวเองได้วางไว้นั้นทำไปได้ถึงไหน ทำได้ดีมาก หรือดีปานกลาง หรือพอใช้ได้ จะต้องปรับปรุงยังไง ซึ่งดิฉันคิดว่าสำหรับท่านแล้วเป็นคนที่มีความพยายามที่จะปรับปรุงตัวเองให้พัฒนา ไม่ว่าความคิดหรือการกระทำของตัวเอง”

ขณะที่ ทองใบ ทองเปาด์ สมาชิกวุฒิสภา จ.มหาสารคาม ในฐานะรุ่นน้องที่เคยเดินทางร่วมไปกับคณะของกุหลาบ สายประดิษฐ์ ในการเยือนประเทศจีน บอกว่ากุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นคนดี มีความคิดก้าวหน้า และต่อสู้เพื่อชาติเพื่อสันติภาพมาตลอด

“เป็นคนดี มีความคิดก้าวหน้า มีความคิดที่รักในมนุษยชาติ มีความรักในสันติภาพ เพราะท่านต่อสู้เพื่อชาติเพื่อสันติภาพมาตลอด และที่ถูกจับคดีเป็นกบฏ 2495 ก็เหมือนกัน ..ตอนที่ท่านถูกจับ ตอนนั้นผมจบใหม่ๆ ผมเป็นทนายความอยู่ด้วย แต่ไม่ได้เป็นทนายความให้ท่าน คือเป็นทนายความให้เพื่อนที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยชุดเดียวกัน เพราะเพื่อนผมถูกจับด้วย .. ท่านถูกจับ 2495 ได้รับการปลดปล่อยเมื่อนิรโทษกรรม 2500 พอ 2501 เราก็เดินทางไปเมืองจีนด้วยกัน เสร็จแล้วพอจอมพลสฤษดิ์ยึดอำนาจ ท่านก็บอกท่านไม่กลับ จะอยู่ที่เมืองจีน ท่านบอกท่านไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ในคุก ท่านก็เลยอยู่ที่เมืองจีน แล้วท่านก็เสียชีวิตที่เมืองจีน”

อาจารย์ทองใบยังบอกด้วยว่า กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นคนสมถะ และเคร่งในพุทธศาสนาคนหนึ่ง โดยระหว่างที่ติดคุกเมื่อปี 2495 ก็ได้ร่ำเรียนวิชาพุทธศาสนา และนำคำสอนของพระพุทธองค์มาเผยแพร่

ไม่ว่ากุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา จะเป็นนักหนังสือพิมพ์ระดับปรมาจารย์ของเมืองไทย หรือเป็นนักประพันธ์ฝีมือเอกที่เขียนได้ทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย บทกวี เรื่องแปล ปรัชญา และศาสนา แต่ในความเป็นตัวตนของศรีบูรพา วาณี พนมยงค์ ในฐานะลูกสะใภ้ ยืนยันว่าศรีบูรพาเป็นสามัญชนคนหนึ่งที่กำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเยาว์ มีเพียงแม่และพี่สาวเลี้ยงดู แม้จะพบกับอุปสรรคก็ไม่เคยย่อท้อ ที่สำคัญกุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นมนุษย์อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมก้มหัวให้กับอิทธิพล และไม่ยอมให้สิ่งใดมาทำให้ความคิดอ่านหรืออุดมการณ์ของตนต้องสูญเสียไปไม่ว่าทางใดก็ตาม

ไม่เพียงแค่นั้น ท่านยังเป็นบุคคลตัวอย่างที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เพื่อสันติภาพ และสันติสุข!!




กำลังโหลดความคิดเห็น