รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ชี้พฤติกรรมลูกฆ่าแม่ เกิดขึ้นมีน้อย ระบุหากผู้กระทำจิตปกติจะอยู่ในจำพวกบุคลิกต่อต้านสังคม ส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่ในห้องขัง เตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองเลี้ยงดูบุตร หลีกเลี่ยงผลักเด็กไปอยู่ในกลุ่มต่อต้านสังคม สังเกตพฤติกรรมแล้วพยายามให้เด็กอยู่ในระบบการศึกษาให้ได้ เพราะโรงเรียนจะอบรมบ่มนิสัยให้เด็กเข้าสังคมได้
สืบเนื่องจากกรณีลูกสาววางแผนพาแม่บังเกิดเกล้าไปฆ่า หลังจากแม่ทราบว่ายักยอกเงินของแม่ไปเกือบหมด แต่ชาวบ้านมาพบเห็นเหตุการณ์ก่อนจึงรอด
น.พ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปกติพฤติกรรมลูกฆ่าแม่เกิดน้อยมาก ถ้ามีพฤติกรรมเช่นนี้ สาเหตุของการกระทำที่จะมาจากเรื่องของความมึนเมาและโรคจิตชนิดหวาดระแวงก็น้อยลง คนเราเวลาจะทำอะไรไม่ดี เช่นกรณีใช้เงิน ยักยอกเงิน บางครั้งมีปัญหาสุขภาพจิตอยู่เบื้องหลัง ทำให้เป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งรายนี้ยังไม่มีการตรวจสุขภาพจิตของผู้กระทำ จึงยังไม่ทราบได้ว่ามีปัญหาสุขภาพจิตหรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตก็จะไม่ฆ่าแม่ เพราะปัญหาสุขภาพจิตส่วนใหญ่จะทำให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีอารมณ์หงุดหงิดโมโหง่าย แต่จะไม่ฆ่าแม่ หากถึงขั้นฆ่าแม่ ต้องเป็นประเภทคนที่มีบุคลิกต่อต้านสังคม คนเหล่านี้อาจจะมีมาตรฐานดำรงชีวิตไม่เหมือนสังคมปกติแล้ว สิ่งที่สังคมเห็นว่าเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ คนประเภทนี้จะชั่งน้ำหนักแล้วเห็นว่าทำได้
“มีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้นที่คนไม่ได้ดื่มของมึนเมาหรือมีปัญหาโรคจิตจะก่อเหตุฆ่าแม่ได้ จะเป็นคนที่มีบุคลิกต่อต้านสังคม เพราะคนที่เจ็บป่วยสุขภาพจิตเล็กๆ น้อยๆ ไม่น่ามีผลถึงขั้นฆ่าแม่ ยกเว้นหวาดระแวงมากหรือเมามาก ผมเคยเป็นผู้อำนวยการ รพ.นิติจิตเวช พบว่ากว่าร้อยละ 90 จะต้องดื่มเหล้าย้อมใจก่อนทำในสิ่งที่ไม่ดี แสดงว่ามโนธรรมคอยขวางไว้ว่าไม่ควรทำ อย่างที่บอกว่าเหล้าเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย สำหรับรายนี้ไม่ดื่มเหล้า ก็เหลืออันเดียวว่าเป็นคนมีบุคลิกต่อต้านสังคม หรืออันธพาล ซึ่งคนพวกนี้สุดท้ายก็มักจะอยู่ในเรือนจำ เพราะทำในสิ่งที่สังคมห้ามทำ” น.พ.อภิชัยกล่าว
น.พ.อภิชัยกล่าวต่อว่า ผู้ที่คิดแผนฆ่าคนถ้าคนที่จิตปกติจะวางแผนฆ่าได้แนบเนียนจนจับไม่ได้ แต่หากคนที่วางแผนอย่างสับสนและไม่รอบคอบจนไม่สำเร็จตามแผน เป็นพฤติกรรมที่แปลกและอาจตั้งข้อสงสัยได้ว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างในจิตใจได้ในช่วงนั้น ตำรวจก็จะต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปที่โรงพยาบาลจิตเวชให้ความเห็นได้ อย่างที่จังหวัดน่านก็จะมีโรงพยาบาลสวนปรุง จะทำให้ทราบแรงจูงใจของผู้กระทำผิดได้ ส่วนผู้ที่มีบุคลิกต่อต้านสังคม อาจจะเกิดมาตั้งแต่เล็ก ที่อาจจะมีปัญหาในการเรียน เรียนไม่ค่อยเก่ง เรียนไม่ได้ไม่เข้าใจ จะถูกกีดกันออกจากระบบปกติ ทำให้ไปคบหากับคนกลุ่มเดียวกันที่ต้องแสวงหาความภาคภูมิใจความดีความเด่น เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจและมีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เป็นการรวมกลุ่มของคนที่สังคมกีดกันออกจากการเรียนปกติ
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวอีกว่า อยากแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตร ว่าต้องพยายามให้ลูกได้อยู่ในระบบการศึกษาให้ได้ บางครั้งลูกอาจจะมีความยากลำบากในการเรียน มีหลายสาเหตุที่นักสุขภาพจิตหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขช่วยได้ เช่น อาจมีปัญหาบ้าง เรียนไม่ทันเพื่อน พยายามอย่าโกรธ หรืออย่าด่าว่าลูกโง่ หรือลงโทษลูกรุนแรง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะยิ่งทำให้ลูกที่มีความทุกข์อยู่แล้ว คือ พ่อแม่บางคนบันดาลโทสะ ด่าว่าลูก กลายเป็นทุกข์ซ้ำเติม ลูกยิ่งเกลียดการไปเรียนหนังสือ แล้วมีความรู้สึกต่อต้านไม่อยากไปโรงเรียน ทั้งๆ ที่โรงเรียนเป็นสถานที่อบรมบ่มนิสัยเด็กให้เข้าสู่สังคมได้ ในที่สุดจะยิ่งเป็นปัญหาของครอบครัว แล้วเด็กอาจจะหนีออกจากบ้านและเกาะกลุ่มเด็กที่มีปัญหาเหมือนกัน
“พ่อแม่จึงต้องใช้สติให้ดีว่า ถ้าลูกมีปัญหาในการเรียน ต้องให้ความช่วยเหลือประคับประคองเป็นเพื่อนเขา และพยายามหาทางช่วยให้เขาอยู่ในระบบปกติให้ได้มากเท่าที่ทำได้ สถิติลูกฆ่าพ่อหรือแม่มีน้อยมาก เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องน่าตกใจ เมื่อเกิดขึ้นทีไร เรามักจะได้รับรายงานข่าวจากสื่อมวลชนทันที สถิติไม่เยอะ บ่อยครั้งมักเกี่ยวพันกับเรื่องสารเสพติดและการเจ็บป่วยทางจิตเป็นส่วนใหญ่ เราเข้าใจได้และอธิบายได้ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก คนเราถึงจะเมามากหรือป่วยทางจิตมาก ก็มักจะมีมโนธรรมที่ฉุกคิดว่าใครคือพ่อคือแม่ ถึงขั้นไม่รู้ตัวว่าเป็นพ่อแม่ของตนแล้วไปทำการใดที่เป็นผลร้ายต่อตนอย่างไรลืมคิดไปมีไม่มาก เพราะคนไม่สบายก็ไม่ใช่ไม่สบายทั้งหมด สติส่วนดียังมีอยู่” รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวทิ้งท้าย
สืบเนื่องจากกรณีลูกสาววางแผนพาแม่บังเกิดเกล้าไปฆ่า หลังจากแม่ทราบว่ายักยอกเงินของแม่ไปเกือบหมด แต่ชาวบ้านมาพบเห็นเหตุการณ์ก่อนจึงรอด
น.พ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปกติพฤติกรรมลูกฆ่าแม่เกิดน้อยมาก ถ้ามีพฤติกรรมเช่นนี้ สาเหตุของการกระทำที่จะมาจากเรื่องของความมึนเมาและโรคจิตชนิดหวาดระแวงก็น้อยลง คนเราเวลาจะทำอะไรไม่ดี เช่นกรณีใช้เงิน ยักยอกเงิน บางครั้งมีปัญหาสุขภาพจิตอยู่เบื้องหลัง ทำให้เป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งรายนี้ยังไม่มีการตรวจสุขภาพจิตของผู้กระทำ จึงยังไม่ทราบได้ว่ามีปัญหาสุขภาพจิตหรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตก็จะไม่ฆ่าแม่ เพราะปัญหาสุขภาพจิตส่วนใหญ่จะทำให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีอารมณ์หงุดหงิดโมโหง่าย แต่จะไม่ฆ่าแม่ หากถึงขั้นฆ่าแม่ ต้องเป็นประเภทคนที่มีบุคลิกต่อต้านสังคม คนเหล่านี้อาจจะมีมาตรฐานดำรงชีวิตไม่เหมือนสังคมปกติแล้ว สิ่งที่สังคมเห็นว่าเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ คนประเภทนี้จะชั่งน้ำหนักแล้วเห็นว่าทำได้
“มีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้นที่คนไม่ได้ดื่มของมึนเมาหรือมีปัญหาโรคจิตจะก่อเหตุฆ่าแม่ได้ จะเป็นคนที่มีบุคลิกต่อต้านสังคม เพราะคนที่เจ็บป่วยสุขภาพจิตเล็กๆ น้อยๆ ไม่น่ามีผลถึงขั้นฆ่าแม่ ยกเว้นหวาดระแวงมากหรือเมามาก ผมเคยเป็นผู้อำนวยการ รพ.นิติจิตเวช พบว่ากว่าร้อยละ 90 จะต้องดื่มเหล้าย้อมใจก่อนทำในสิ่งที่ไม่ดี แสดงว่ามโนธรรมคอยขวางไว้ว่าไม่ควรทำ อย่างที่บอกว่าเหล้าเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย สำหรับรายนี้ไม่ดื่มเหล้า ก็เหลืออันเดียวว่าเป็นคนมีบุคลิกต่อต้านสังคม หรืออันธพาล ซึ่งคนพวกนี้สุดท้ายก็มักจะอยู่ในเรือนจำ เพราะทำในสิ่งที่สังคมห้ามทำ” น.พ.อภิชัยกล่าว
น.พ.อภิชัยกล่าวต่อว่า ผู้ที่คิดแผนฆ่าคนถ้าคนที่จิตปกติจะวางแผนฆ่าได้แนบเนียนจนจับไม่ได้ แต่หากคนที่วางแผนอย่างสับสนและไม่รอบคอบจนไม่สำเร็จตามแผน เป็นพฤติกรรมที่แปลกและอาจตั้งข้อสงสัยได้ว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างในจิตใจได้ในช่วงนั้น ตำรวจก็จะต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปที่โรงพยาบาลจิตเวชให้ความเห็นได้ อย่างที่จังหวัดน่านก็จะมีโรงพยาบาลสวนปรุง จะทำให้ทราบแรงจูงใจของผู้กระทำผิดได้ ส่วนผู้ที่มีบุคลิกต่อต้านสังคม อาจจะเกิดมาตั้งแต่เล็ก ที่อาจจะมีปัญหาในการเรียน เรียนไม่ค่อยเก่ง เรียนไม่ได้ไม่เข้าใจ จะถูกกีดกันออกจากระบบปกติ ทำให้ไปคบหากับคนกลุ่มเดียวกันที่ต้องแสวงหาความภาคภูมิใจความดีความเด่น เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจและมีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เป็นการรวมกลุ่มของคนที่สังคมกีดกันออกจากการเรียนปกติ
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวอีกว่า อยากแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตร ว่าต้องพยายามให้ลูกได้อยู่ในระบบการศึกษาให้ได้ บางครั้งลูกอาจจะมีความยากลำบากในการเรียน มีหลายสาเหตุที่นักสุขภาพจิตหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขช่วยได้ เช่น อาจมีปัญหาบ้าง เรียนไม่ทันเพื่อน พยายามอย่าโกรธ หรืออย่าด่าว่าลูกโง่ หรือลงโทษลูกรุนแรง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะยิ่งทำให้ลูกที่มีความทุกข์อยู่แล้ว คือ พ่อแม่บางคนบันดาลโทสะ ด่าว่าลูก กลายเป็นทุกข์ซ้ำเติม ลูกยิ่งเกลียดการไปเรียนหนังสือ แล้วมีความรู้สึกต่อต้านไม่อยากไปโรงเรียน ทั้งๆ ที่โรงเรียนเป็นสถานที่อบรมบ่มนิสัยเด็กให้เข้าสู่สังคมได้ ในที่สุดจะยิ่งเป็นปัญหาของครอบครัว แล้วเด็กอาจจะหนีออกจากบ้านและเกาะกลุ่มเด็กที่มีปัญหาเหมือนกัน
“พ่อแม่จึงต้องใช้สติให้ดีว่า ถ้าลูกมีปัญหาในการเรียน ต้องให้ความช่วยเหลือประคับประคองเป็นเพื่อนเขา และพยายามหาทางช่วยให้เขาอยู่ในระบบปกติให้ได้มากเท่าที่ทำได้ สถิติลูกฆ่าพ่อหรือแม่มีน้อยมาก เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องน่าตกใจ เมื่อเกิดขึ้นทีไร เรามักจะได้รับรายงานข่าวจากสื่อมวลชนทันที สถิติไม่เยอะ บ่อยครั้งมักเกี่ยวพันกับเรื่องสารเสพติดและการเจ็บป่วยทางจิตเป็นส่วนใหญ่ เราเข้าใจได้และอธิบายได้ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก คนเราถึงจะเมามากหรือป่วยทางจิตมาก ก็มักจะมีมโนธรรมที่ฉุกคิดว่าใครคือพ่อคือแม่ ถึงขั้นไม่รู้ตัวว่าเป็นพ่อแม่ของตนแล้วไปทำการใดที่เป็นผลร้ายต่อตนอย่างไรลืมคิดไปมีไม่มาก เพราะคนไม่สบายก็ไม่ใช่ไม่สบายทั้งหมด สติส่วนดียังมีอยู่” รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวทิ้งท้าย