ม็อบแม่ค้าตลาดจตุจักรพระราม 3 และตลาดสุขุมวิท 101 บุก กทม.ร้อง "อภิรักษ์" ถูกกลั่นแกล้งจากผู้มีอิทธิพล ขณะที่หล่อเล็กเด้งรับลูกขอเคลียร์ใน 2 อาทิตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มผู้ค้าตลาดจตุจักรพระราม 3 และตลาดสุขุมวิท 101 ได้รวมตัวกัน เรียกร้องความเป็นธรรมจากสัญญาที่เอารัดเอาเปรียบกับ บริษัท สิทธิราช จำกัด จากโครงการตลาดนัดติดแอร์ ในช่วงที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยโครงการตลาดนัดติดแอร์ ประกอบไปด้วยร้านค้าต่างๆ ลาดจอดรถ ร้านอาหาร ของตกแต่งบ้าน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร ต้นไม้ สัตว์เลี้ยงและสวนหย่อม ซึ่งประชาชนที่ยึดอาชีพค้าขายเห็นว่าเป็นโครงการของกรุงเทพมหานคร และคิดว่าคงจะทำมาค้าขายได้ดี จึงได้ตกลงทำสัญญาและได้จ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าเป็นเวลา 4 ปี ทั้งในสัญญายังระบุด้วยว่าสามารถหยุดขายได้เพียง 3 วันเท่านั้น และในแต่ละวันจะมีคนมาเดินเช็กชื่อซึ่งหากพบว่าใครไม่มาขายครบ 3 วันก็จะโดนยึดแผงทันที และหากผู้เช่าแผงเสียชีวิตกรรมสิทธิ์ในแผงนั้นก็จะต้องส่งคืนทันที หากจะโอนกรรมสิทธิ์ก็ต้องเสียค่าโอนอีก 10,000 บาทต่างหาก และอีก 5 เดือนต่อมาก็มีผู้ค้าส่วนหนึ่งถูกบอกเลิกสัญญา และโดนยึดแผงไปซึ่งทางบริษัทให้เหตุผลว่ามีการทำผิดสัญญาเนื่องจากไม่ได้เซ็นชื่อครบ 3 วัน
ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าในตลาดจตุจักรพระราม 3 และตลาดสุขุมวิท 101 รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนและเพื่อนๆ ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและถูกข่มขู่และกลั่นแกล้งและปัจจุบันนี้ตลาดนั้นก็ขายของไม่ได้แล้วเพราะว่าไม่มีคนเดิน และในช่วงกลางคืนเจ้าของบริษัท สิทธิราช ยังได้ปรับปรุงเป็นตลาดกลางคืนเป็นสถานบันเทิงซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการนี้
นางจงกลณี แสงประชากุล อดีตผู้ค้าขายในตลาดจตุจักรพระราม 3 กล่าวว่า ได้เข้าไปขายตั้งแต่มีโครงการแรกๆ แต่ตอนนี้ออกมาได้ปีกว่าแล้ว ซึ่งในช่วง 2-3 อาทิตย์แรกขายดี แต่หลังจากนั้นขายไม่ได้เลย ซึ่งทำให้แม่ค้าไม่ค่อยอยากมาขายของ ทางนั้นจึงได้ส่งคนมาเช็กชื่อทุกวัน หากขาดเกิน 3 วันก็จะยึดแผงทัน
“พอขายไม่ได้ก็จะโดยเขาบีบให้ออก โดยจริงๆ แล้วเขาต้องการทำเป็นสถานบันเทิงตอนกลางคืน และเราเองก็รวมกลุ่มกันเรียกร้องความยุติธรรม ทั้งทาง สคบ.ก็ไปมาแล้ว รัฐสภาก็ไปมาแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้เข้ามาร้องเรียนประมาณ 40 กว่าคนแล้ว โดยอยากให้ทางผู้ว่าฯเข้ามาดูแลหน่อยเพราะว่าอีกไม่นานก็บริษัทจะหมดสัญญากับ กทม.แล้ว ซึ่งเขาเองก็อยากจะต่อสัญญากับทาง กทม.อีก แต่เราเห็นว่าบริษัทนี้เอาเปรียบผู้อื่นที่หาเช้ากินค่ำไม่อยากให้คนอื่นๆ ต้องตกเป็นเหยื่อพวกเรา” นางจงกลณี กล่าว
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องแล้วและจะรีบเข้าไปตรวจสอบซึ่งคาดว่าคงประมาณอีก 2 สัปดาห์น่าจะได้เรื่อง ทั้งนี้ ต้องขอคุยกับทางบริษัท สิทธิราช ก่อน อย่างไรก็ตาม หากว่าในสัญญานั้นไม่เป็นธรรมจริงก็จะดำเนินการตามกฏหมาย นอกจากนี้จะได้นัดทุกคนมาคุยกันเพื่อแก้ปัญหาอีกครั้ง ส่วนข้อเรียกร้องทั้ง 7 ข้อนี้จะดูอีกทีว่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดหรือไม่
สำหรับข้อเรียกร้องที่กลุ่มตัวแทนผู้ค้าในตลาดจตุจักรพระราม 3 และตลาดสุขุมวิท 101 ได้ยื่นข้อเรียกร้องแก่นายอภิรักษ์มีทั้งหมด 7 ข้อ คือ (1.ต้องการให้ กทม.ดำเนินการควบคุมสัญญาเช่าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม (2.ให้ กทม.เป็นผู้ดูแล บริหาร ตลาดจตุจักรพระราม 3 เอง และเป็นไปอย่างโปร่งใส (3.กทม.ต้องเจรจากับบริษัท สิทธิราช จำกัด ให้ถูกต้อง และให้ทางบริษัทฯ คืนเงินสิทธิการเช่าแก่ผู้ค้าในตลาดด้วย
(4.ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า บริษัท สิทธิราช นั้นประพฤติผิดสัญญาหรือเงื่อนไขในการบริหารจัดการตลาดให้กับ กทม. หรือไม่ (5.ต้องดูแลคุ้มครองผู้ค้าที่ยังค้าขายอยู่ในปัจจุบันให้มีอนาคต รายได้ที่ดี (6.ให้ กทม.จัดการให้สำนักงานตลาด และบริษัท สิทธิราช ปฏิบัติตามคำที่ได้โฆษณาด้วย และ (7.กทม.กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่ชัดเจนในการเอาสัญลักษณ์ของ กทม.ที่ไปเผยแพร่ เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิด
อนึ่ง บริษัท สิทธิราช จำกัด ได้รับมอบสิทธิจากสำนักการตลาด กทม.ดำเนินการก่อสร้างและให้เช่าตลาดพระราม 3 (ตลาด กทม.15) และดำเนินการบริหารจัดการตลาดดังกล่าวแทน กทม.ตั้งแต่ยุคนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯกทม. โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง ประกวดราคาหาผู้ลงทุนและพัฒนาที่ดินตลาดพระราม 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มผู้ค้าตลาดจตุจักรพระราม 3 และตลาดสุขุมวิท 101 ได้รวมตัวกัน เรียกร้องความเป็นธรรมจากสัญญาที่เอารัดเอาเปรียบกับ บริษัท สิทธิราช จำกัด จากโครงการตลาดนัดติดแอร์ ในช่วงที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยโครงการตลาดนัดติดแอร์ ประกอบไปด้วยร้านค้าต่างๆ ลาดจอดรถ ร้านอาหาร ของตกแต่งบ้าน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร ต้นไม้ สัตว์เลี้ยงและสวนหย่อม ซึ่งประชาชนที่ยึดอาชีพค้าขายเห็นว่าเป็นโครงการของกรุงเทพมหานคร และคิดว่าคงจะทำมาค้าขายได้ดี จึงได้ตกลงทำสัญญาและได้จ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าเป็นเวลา 4 ปี ทั้งในสัญญายังระบุด้วยว่าสามารถหยุดขายได้เพียง 3 วันเท่านั้น และในแต่ละวันจะมีคนมาเดินเช็กชื่อซึ่งหากพบว่าใครไม่มาขายครบ 3 วันก็จะโดนยึดแผงทันที และหากผู้เช่าแผงเสียชีวิตกรรมสิทธิ์ในแผงนั้นก็จะต้องส่งคืนทันที หากจะโอนกรรมสิทธิ์ก็ต้องเสียค่าโอนอีก 10,000 บาทต่างหาก และอีก 5 เดือนต่อมาก็มีผู้ค้าส่วนหนึ่งถูกบอกเลิกสัญญา และโดนยึดแผงไปซึ่งทางบริษัทให้เหตุผลว่ามีการทำผิดสัญญาเนื่องจากไม่ได้เซ็นชื่อครบ 3 วัน
ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าในตลาดจตุจักรพระราม 3 และตลาดสุขุมวิท 101 รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนและเพื่อนๆ ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและถูกข่มขู่และกลั่นแกล้งและปัจจุบันนี้ตลาดนั้นก็ขายของไม่ได้แล้วเพราะว่าไม่มีคนเดิน และในช่วงกลางคืนเจ้าของบริษัท สิทธิราช ยังได้ปรับปรุงเป็นตลาดกลางคืนเป็นสถานบันเทิงซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการนี้
นางจงกลณี แสงประชากุล อดีตผู้ค้าขายในตลาดจตุจักรพระราม 3 กล่าวว่า ได้เข้าไปขายตั้งแต่มีโครงการแรกๆ แต่ตอนนี้ออกมาได้ปีกว่าแล้ว ซึ่งในช่วง 2-3 อาทิตย์แรกขายดี แต่หลังจากนั้นขายไม่ได้เลย ซึ่งทำให้แม่ค้าไม่ค่อยอยากมาขายของ ทางนั้นจึงได้ส่งคนมาเช็กชื่อทุกวัน หากขาดเกิน 3 วันก็จะยึดแผงทัน
“พอขายไม่ได้ก็จะโดยเขาบีบให้ออก โดยจริงๆ แล้วเขาต้องการทำเป็นสถานบันเทิงตอนกลางคืน และเราเองก็รวมกลุ่มกันเรียกร้องความยุติธรรม ทั้งทาง สคบ.ก็ไปมาแล้ว รัฐสภาก็ไปมาแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้เข้ามาร้องเรียนประมาณ 40 กว่าคนแล้ว โดยอยากให้ทางผู้ว่าฯเข้ามาดูแลหน่อยเพราะว่าอีกไม่นานก็บริษัทจะหมดสัญญากับ กทม.แล้ว ซึ่งเขาเองก็อยากจะต่อสัญญากับทาง กทม.อีก แต่เราเห็นว่าบริษัทนี้เอาเปรียบผู้อื่นที่หาเช้ากินค่ำไม่อยากให้คนอื่นๆ ต้องตกเป็นเหยื่อพวกเรา” นางจงกลณี กล่าว
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องแล้วและจะรีบเข้าไปตรวจสอบซึ่งคาดว่าคงประมาณอีก 2 สัปดาห์น่าจะได้เรื่อง ทั้งนี้ ต้องขอคุยกับทางบริษัท สิทธิราช ก่อน อย่างไรก็ตาม หากว่าในสัญญานั้นไม่เป็นธรรมจริงก็จะดำเนินการตามกฏหมาย นอกจากนี้จะได้นัดทุกคนมาคุยกันเพื่อแก้ปัญหาอีกครั้ง ส่วนข้อเรียกร้องทั้ง 7 ข้อนี้จะดูอีกทีว่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดหรือไม่
สำหรับข้อเรียกร้องที่กลุ่มตัวแทนผู้ค้าในตลาดจตุจักรพระราม 3 และตลาดสุขุมวิท 101 ได้ยื่นข้อเรียกร้องแก่นายอภิรักษ์มีทั้งหมด 7 ข้อ คือ (1.ต้องการให้ กทม.ดำเนินการควบคุมสัญญาเช่าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม (2.ให้ กทม.เป็นผู้ดูแล บริหาร ตลาดจตุจักรพระราม 3 เอง และเป็นไปอย่างโปร่งใส (3.กทม.ต้องเจรจากับบริษัท สิทธิราช จำกัด ให้ถูกต้อง และให้ทางบริษัทฯ คืนเงินสิทธิการเช่าแก่ผู้ค้าในตลาดด้วย
(4.ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า บริษัท สิทธิราช นั้นประพฤติผิดสัญญาหรือเงื่อนไขในการบริหารจัดการตลาดให้กับ กทม. หรือไม่ (5.ต้องดูแลคุ้มครองผู้ค้าที่ยังค้าขายอยู่ในปัจจุบันให้มีอนาคต รายได้ที่ดี (6.ให้ กทม.จัดการให้สำนักงานตลาด และบริษัท สิทธิราช ปฏิบัติตามคำที่ได้โฆษณาด้วย และ (7.กทม.กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่ชัดเจนในการเอาสัญลักษณ์ของ กทม.ที่ไปเผยแพร่ เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิด
อนึ่ง บริษัท สิทธิราช จำกัด ได้รับมอบสิทธิจากสำนักการตลาด กทม.ดำเนินการก่อสร้างและให้เช่าตลาดพระราม 3 (ตลาด กทม.15) และดำเนินการบริหารจัดการตลาดดังกล่าวแทน กทม.ตั้งแต่ยุคนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯกทม. โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง ประกวดราคาหาผู้ลงทุนและพัฒนาที่ดินตลาดพระราม 3