ปลัด พม.วางศิลาฤกษ์อาคารที่ทำการหลังใหม่ของบ้านบางแค แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมหลังใช้งานมา 52 ปี เตรียมขยายการจ่ายเบี้ยยังชีพ 300 บาท ให้ครอบคลุมผู้สูงอายุมากขึ้น ขณะที่ผู้ปกครองบ้านบางแค มีโครงการสร้างคอนโดมิเนียมรองรับผู้สูงอายุที่รอคิวจำนวนมาก
นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารที่ทำการสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค. เป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ปลูกสร้างแทนหลังเดิมที่รื้อถอนไปเพราะทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมายาวนานถึง 52 ปี และวัสดุเป็นไม้
ภายหลังพิธีวางศิลาฤกษ์ นายวัลลภ กล่าวว่า พม. เตรียมขยายเบี้ยยังชีพให้ครอบคลุมผู้สูงอายุมากที่สุด เพื่อให้ผู้สูงอายุได้อยู่กับครอบครัว โดยปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 520,000 คน ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 300 บาท ส่วนผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้ มีโครงการพัฒนาศักยภาพให้เข้มแข็งทุกด้าน ขณะที่กลุ่มที่ช่วยตนเองไม่ได้ ก็ให้การสงเคราะห์จัดหาที่พักและปัจจัยสี่ ในการดำรงชีพ
ด้านนางศิริรัตน์ อายุวัฒน์ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2496 บนพื้นที่ 21 ไร่ ให้การสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ประสบปัญหาทุกข์ยากเดือดร้อน ไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดผู้อุปการะ แล้ว 3,407 คน ปัจจุบันมีผู้สูงอายุอยู่ในความอุปการะจำนวน 219 คน แบ่งเป็นการสงเคราะห์ 3 ประเภท คือ 1.ประเภทสามัญ มี 3 หลัง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ พักอาศัยในห้องนอนรวม 2. ประเภทหอพัก 40 ห้อง เสียค่าเช่าหอพักเดือนละ 550 บาท มีห้องเป็นสัดส่วน 3.ประเภทบังกะโล 12 หลัง เป็นบังกะโลชั้นเดียวที่ผู้สูงอายุออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเอง เมื่อพักอาศัยจนถึงอายุขัยจึงตกเป็นทรัพย์สินของบ้านบางแค
นางอรพรรณ ปัทมินทร์ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค เล่าให้ฟังว่า ขณะนี้มีผู้สูงอายุรอคิวเข้าพักในบ้านบางแคประเภทหอพักจำนวนกว่า 500 คน ซึ่งหอพักแค่ 40 ห้อง ไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงมีโครงการว่า เมื่อบ้านบังกะโลทั้ง 12 หลัง ว่างลง จะนำพื้นที่ส่วนดังกล่าวมาสร้างเป็นคอนโดมิเนียม รองรับผู้สูงอายุที่ต้องการพักอาศัยที่บ้านบางแค อย่างไรก็ตามประเภทหอพัก ต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่ง
นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารที่ทำการสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค. เป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ปลูกสร้างแทนหลังเดิมที่รื้อถอนไปเพราะทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมายาวนานถึง 52 ปี และวัสดุเป็นไม้
ภายหลังพิธีวางศิลาฤกษ์ นายวัลลภ กล่าวว่า พม. เตรียมขยายเบี้ยยังชีพให้ครอบคลุมผู้สูงอายุมากที่สุด เพื่อให้ผู้สูงอายุได้อยู่กับครอบครัว โดยปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 520,000 คน ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 300 บาท ส่วนผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้ มีโครงการพัฒนาศักยภาพให้เข้มแข็งทุกด้าน ขณะที่กลุ่มที่ช่วยตนเองไม่ได้ ก็ให้การสงเคราะห์จัดหาที่พักและปัจจัยสี่ ในการดำรงชีพ
ด้านนางศิริรัตน์ อายุวัฒน์ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2496 บนพื้นที่ 21 ไร่ ให้การสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ประสบปัญหาทุกข์ยากเดือดร้อน ไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดผู้อุปการะ แล้ว 3,407 คน ปัจจุบันมีผู้สูงอายุอยู่ในความอุปการะจำนวน 219 คน แบ่งเป็นการสงเคราะห์ 3 ประเภท คือ 1.ประเภทสามัญ มี 3 หลัง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ พักอาศัยในห้องนอนรวม 2. ประเภทหอพัก 40 ห้อง เสียค่าเช่าหอพักเดือนละ 550 บาท มีห้องเป็นสัดส่วน 3.ประเภทบังกะโล 12 หลัง เป็นบังกะโลชั้นเดียวที่ผู้สูงอายุออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเอง เมื่อพักอาศัยจนถึงอายุขัยจึงตกเป็นทรัพย์สินของบ้านบางแค
นางอรพรรณ ปัทมินทร์ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค เล่าให้ฟังว่า ขณะนี้มีผู้สูงอายุรอคิวเข้าพักในบ้านบางแคประเภทหอพักจำนวนกว่า 500 คน ซึ่งหอพักแค่ 40 ห้อง ไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงมีโครงการว่า เมื่อบ้านบังกะโลทั้ง 12 หลัง ว่างลง จะนำพื้นที่ส่วนดังกล่าวมาสร้างเป็นคอนโดมิเนียม รองรับผู้สูงอายุที่ต้องการพักอาศัยที่บ้านบางแค อย่างไรก็ตามประเภทหอพัก ต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่ง