รัตนาละเลงบ้านเป็นสีดำทั้งหลังพ้อแม้แต่ทักษิณยังไม่เหลียวแล

รัตนา รวมพล คนเดือดร้อนเรื่องบ้านในนามเครือข่ายบ้านไม่สมหวัง ทาสีบ้านสีดำทั้งหลังไว้ทุกข์ให้กลไกรัฐ เจ้าหน้าที่ และสังคมแห่งความอยุติธรรม เผยร้องเรียนมากว่า 10 ปี แต่ถูกกลั่นแกล้งตลอด แม้เรื่องถึงมือนายกทักษิณแต่ไม่ได้รับการเหลียวแล ลั่นเดินหน้าเข้าพบ "นายกฯ" อีกครั้งแน่

นางรัตนา สัจจเทพ ผู้เดือดร้อนจากกรณีเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าของโครงการร่วมกันทุจริตนำบ้านสร้างในที่ดินผิดกฎหมายมาขายให้กับผู้บริโภค ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา นางรัตนาได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานต่างๆกว่า 20 แห่ง ตั้งแต่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตำรวจกองปราบ กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีมติครม.เมื่อวันที่ 8 ส.ค.47 ให้เยียวแก้ไขปัญหาของนางรัตนา โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ล่าสุดวันนี้(20 เม.ย.) นางรัตนาร่วมกับเครือข่ายหมู่บ้านไม่สมหวังได้ร่วมกันทาสีบ้านทั้งหลังให้เป็นสีดำ เพื่อไว้ทุกข์ให้กับกลไกและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้ซื้อบ้าน โดยนางรัตนา และตัวแทนผู้บริโภคที่ซื้อบ้านแล้วประสบปัญหาได้ทาสีบ้าน กำแพง และแนวรั้วเป็นสีดำทั้งหมด พร้อมทั้งมีป้ายผ้าสีดำติดหน้าบ้านโดยเขียนข้อความว่า บ้านนี้เจ้าหน้าที่ทุจริต โยนความผิดให้ประชาชน

ต่อจากนั้นนางรัตนาและตัวแทนเครือข่ายหมู่บ้านไม่สมหวัง ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนางรัตนา กล่าวว่า พวกเราละเมิดสิทธิจากการซื้อบ้านแล้วไม่ได้บ้าน บ้านที่ซื้อไม่มีคุณภาพและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเมื่อเข้าไปอยู่อาศัย บ้านที่โครงการไม่รับผิดชอบดำเนินการสร้างสาธารณูปโภคให้ตามที่โฆษณา และบ้านที่ผู้ประกอบการนำพื้นที่ส่วนกลางของโครงการไปหาผลประโยชน์ ปัญหานิติบุคคลบ้านจัดสรร นิติบุคคลอาคารชุดเอารัดเอาเปรียบลูกบ้านทำให้เดือดร้อนไม่อาจอยู่เย็นเป็นสุข ปัญหาต่างๆเหล่านี้ได้สร้างความทุกข์อย่างมากมายกับพวกเรา แม้พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้สิทธิของเราได้รับการชดเชยเยียวยา เรากลับยิ่งพบกับหนทางที่ตีบตันจากการใช้สิทธิในฐานะผู้บริโภคของเรา

"ปัญหาที่เกิดขึ้นหมักหมมมานานไม่เคยได้รับความสนใจมาทุกยุคทุกสมัย ทุกรัฐบาลมีแต่มาตรการในการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยเงินกู้ การลดภาษีการโอน กองทุนซื้อบ้านของข้าราชการ โครงการบ้านเอื้ออาทร แต่ยังไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่เข้ามาดูแลบ้านและจัดการเรื่องการซื้อบ้านแล้วไม่สมหวัง หรือความทุกข์จากการใช้สิทธิเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ พวกเราจึงต้องออกมาเรียกร้องต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนได้รับทราบความทุกข์ยากของเรา และร่วมกันไว้อาลัยแด่ระบบ”บ้านไม่สมหวัง”ไว้ ณ ที่นี้” นางรัตนา กล่าวอย่างเหลืออด

และว่า อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับความเจ็บช้ำจากระบบที่ไม่ยุติธรรมสักเพียงไหน ก็ไม่เคยท้อเนื่องจากต้องการให้สังคมนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี และแม้เวทีนี้จะเป็นปากเสียงสำหรับผู้บริโภคนั้นมีอย่างจำกัดก็ตาม

นางรัตนา กล่าวต่อว่า การที่ทาสีบ้านเป็นสีดำในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการไว้ทุกข์ให้กับกลไกและเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมทั้งกฎหมายในสังคมไทยที่ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความอยุติธรรมจากข้าราชการ หน่วยงาน และเจ้าของบริษัทที่เอาเปรียบได้ กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนนั้น แม้จะมีมติครม.ออกมาว่าปัญหาของตนต้องได้รับการเยียวยาแก้ไข แต่จนบัดนี้เวลาล่วงเลยมากว่า 8 เดือนแล้ว ปัญหาก็ยังคาราคาซังและกรุงเทพมหานครยังเร่งรัดให้มารื้อบ้านของตนอีกด้วย

“ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้นั้นจะเข้าไปร้องทุกข์กับนายกรัฐมนตรีทักษิณอีกครั้ง อยากรู้ว่าทำไมรัฐบาลถึงได้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐรังแกประชาชนได้ถึงขนาดนี้ ดิฉันขอประกาศว่าในบ้านเมืองนี้ความยุติธรรมไม่มี มีแต่ความอยุติธรรม กว่า 10 ปีของการต่อสู้ เป็น 10 ปี ที่โหดร้ายมากกับครอบครัวของดิฉัน ครอบครัวถูกไล่ออกจากบ้านของตัวเองที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกำหมาย เกิดอะไรขึ้นในสังคมนี้” นางรัตนากล่าวทั้งน้ำตา ก่อนจะขอตัวไปทาสีกำแพงบ้านพร้อมกับลูกชายและลูกสาวให้แล้วเสร็จ

ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง กรรมการผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า กรณีตัวอย่างการต่อสู้ของผู้บริโภคในสังคมไทย กรณีซื้อบ้านแล้วไม่ได้บ้าน ซื้อบ้านแล้วประสบปัญหาเดือดร้อนนานัปการ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลต้องมีการออกกฎหมายจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยต้องมีผู้บริโภคเป็นแกนกลางที่สำคัญ กลไกของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐต้องเอื้ออำนวยกับประชาชนไม่ใช่เจ้าของบริษัท แล้วมาข่มเหงชาวบ้าน การมีองค์การอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ใช่เอาไปอยู่ภายใต้รัฐบาล

“อยากฝากไปถึงผู้บริโภคว่า เราต้องเข้มแข็งและลุกขึ้นมาคุ้มครองตัวเองให้ได้ ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ ทางมูลนิธิขอเชิญชวนผู้บริโภคที่ทุกข์ร้อนจากการบริโภคสินค้าและบริการ ซึ่งไม่ได้จำกัดแต่เฉพาะเรื่องบ้าน ทั้งกรณีที่ทุกข์ร้อนจากบริการสุขภาพ เดือดร้อนจากการกู้เงิน หนี้สิน และปัญหาอื่นๆ มาร่วมแสดงพลังของท่านได้ในเวทีแห่งนี้ คือ วันเปิดสภาผู้บริโภค วันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย.นี้ ณ หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตั้งแต่ 09.00-16.00 น. ซึ่งจะได้พบการให้คำแนะนำในการแก้ปัญหา นิทรรศการ และงานอื่นๆที่น่าสนใจ” นางสาวสารีกล่าว