รหัสกรรมภาค 2 พระอาจารย์วัลลภชี้ กฎแห่งกรรมล้วนบันดาลให้เกิดขึ้น ใครทำกรรมใดได้รับผลเช่นนั้น ไม่มีใครรับกรรมแทน การสะเดาะเคราะห์ การตัดกรรม ตลอดถึงการล้างบาปไม่มีจริง ตัวกรรมยังอยู่และจะส่งผลในทุกเมื่อ แต่สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ โดยทำกรรมดีเพื่อให้บุญจากกรรมดีมาเบียบดเบียนกรรมชั่วให้อ่อนกำลังลง
วันที่ 27 มี.ค. โครงการผู้จัดการสุขภาพจัดงานกิจกรรมอุทยานรักษ์สุขภาพ ณ บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์(บางลำพู) โดยภายในงานมีการจัดสนทนาธรรม “รหัสกรรมภาค 2” โดยพระอาจารย์วัลลภ ชวนปัญโญ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
นายสนธิกล่าวว่า การเสวนาธรรมครั้งนี้เป็นการสนทนาต่อเนื่องจากการเสวนาธรรมในหัวข้อ “รหัสกรรม” ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สนใจกันมาก ในการจัดงานอุทยานรักษ์สุขภาสพขึ้นในครั้งนี้จึงได้จัดให้มีการเสวนาธรรมในหัวข้อ “รหัสกรรมภาค 2 “ ขึ้นอีก โดยในภาคแรก ขอสรุปเรื่องรหัสกรรมว่า ใครทำกรรมใดก็ได้อย่างนั้น กรรมเป็นตัวกำหนด เรียกว่ากรรมบันดาล และยังได้พูดคุยกันถึงเรื่องกรรมเป็นตัวกำหนดรูปร่างหน้าตาและเพศด้วย โดยในวันนี้จะมาสนทนากันต่อ
พระอาจารย์วัลลภ ชวนปัญญโญ กล่าวว่า ใครทำกรรมเช่นใดก็ให้ผลเช่นนั้น คำพูดที่ว่ามีการสะเดาะเคราะห์ ตัดกรรมได้นั้น ไม่เป็นความจริง เช่น การไปทำสังฆทานโดยหวังว่าจะสะเดาะห์เคราะห์หรือเป็นการตัดกรรมนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การทำสังฆทานเป็นการทำกรรมใหม่ ที่เรียกว่าการสะเดาะเคราะห์เป็นภาษาชาวบ้าน แต่การทำกรรมใหม่หากเป็นกรรมดี คือ เป็นบุญ ก็เท่ากับว่า ความดีที่ทำใหม่เป็นกรรมเบียดเบียนฝ่ายตรงข้ามให้อ่อนลง อุปมาอุปไมยว่า มีเกลือละลายน้ำอยู่ในภาชนะหนึ่ง บุรุษผู้ฉลาดหมั่นเติมน้ำลงไป เกลือนั้นยังอยู่ แต่ความเค็มจางลง ส่วนบุรุษผู้ไม่ฉลาดหมั่นเติมเกลือลงไป แทนที่ความเค็มจะลดลงก็กลับเพิ่มขึ้น อุปมาเกลือนั้นเป็นกรรมนั่นเอง
พระอาจารย์วัลลภกล่าวว่า หนทางที่จะบรรเทากรรมหนักที่จะส่งผลให้เป็นเบา ก็คือต้องทำกรรมดีให้ยิ่งขึ้นไว้ เพื่อมีอานุภาพเบียดเบียนฝ่ายตรงข้าม แต่กรรมที่ทำก็ยังมีผลอยู่ ไม่หายไปไหน ส่วนเรื่องของโหงวเฮ้งหรือหน้าตาใครออกมาในลักษณะใด ก็เป็นผลมาจากรหัสกรรมที่ถูกโปรแกรมเอาไว้ แต่คนคนนั้นจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผลของกรรมที่ทำไว้ แต่หน้าตาเป็นผลที่เกิดมาจากกรรม ทำให้วิชาโหงวเฮ้งรู้ว่าหน้าตาอย่างไรจะมีผลอย่างไร แต่ไม่ใช้หน้าตาบันดาล ไม่ใช่อวัยวะบันดาล แต่เป็นกรรมบันดาลส่วนการทำศัลยกรรมแก้กรรมไม่ได้ แต่เหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหน้าตาเกิดมาจากกรรม
“ในที่นี้จะขอพูดถึงเรื่อง รหัสสิ่งแวดล้อมที่เป็นวัตถุทางกายภาพ หมายความว่า การที่คนผู้ใดอยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นอยู่กับกรรมที่ได้ทำไว้แล้วส่งผล ยกตัวอย่างเช่น ใครที่ตีตั๋วขึ้นรถทัวร์ครั้งใดก็ได้แต่ที่นั่งหน้าห้องน้ำ แสดงว่ากรรมส่งผลอย่างนั้น ไม่ให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความสุขมีคุณภาพ คนบางคนอยู่ในที่ลำบาก อยู่ในสลัม ใกล้กองขยะ แต่คนบางคนก็อยู่ในที่สบาย อยู่คฤหาสน์ หมายความว่าใครที่อยู่ในวัตถุสิ่งแวดล้อมแบบไหน ให้ทราบเถอะว่า กรรมจัดสรรให้เราอยู่อย่างนั้นในวินาทีหนึ่งๆแต่ไม่ตลอดไป กรรมจะโปรแกรมความจำเป็น”
พระอาจารย์วัลลภ กล่าวเสริมว่า ขณะเดียวกันกรรมดีจะช่วยให้กรรมชั่วบรรเทาลง เรียกได้ว่า บุญที่ทำไม่อาจปล่อยให้เราเดียวดายได้ เช่น แม่ครัวคนหนึ่งทำงานในโรงานเคเดอร์ แล้วเกิดเหตุถล่มเมื่อหลายปีก่อน แต่ตรงจุดที่ถล่มแม่ครัวนี้อยู่ในช่องที่พอเหมาะ เศษซากทับถมกัน โดยที่แม่ครัวนี้ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน นอกจากนั้นตรงจุดที่แม่ครัวอยู่ยังมีหม้อข้าวที่หุงไว้อยู่ใกล้ ตลอด 3 วันที่อยู่ในซากตึก จึงไม่อดตาย แต่ก็ต้องทุกข์ทรมานติดอยู่ในตึก ดังนั้น วัตถุสิ่งแวดล้อม หมายถึง สิ่งของทุกอย่างที่แวดล้อมเราสามารถให้คุณ ให้สุข ให้ทุกข์ได้ ตลอดจนการไปพบเจอกับคน สัตว์ ตลอดถึงเชื้อจุลินทรีย์ใดก็เป็นเพราะกรรมบันดาล
พระอาจารย์วัลลภกล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำคือ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เราต้องพบเจอล้วนเป็นรหัสกรรม ดังนั้นเราจึงต้องมีกระบวนการโต้ตอบกลับที่ดี หมายถึงว่า ท่าทีที่มีต่อเขา อย่าทำการโต้ตอบให้เขาทุกข์เหมือนที่เขาทำกับเรา อย่าทำแบบร้ายมาร้ายตอบ เพราะกรรมจะไม่จบไม่สิ้น ให้หมดในชาตินี้ ให้ยุติในชาตินี้ภพนี้ไปเสีย ดังนั้น ท่าทีที่เรามีต่อเขาต้องอย่าให้เกิดบาปกับการกระทำที่เราโต้ตอบไป
“ต่อมาสิ่งที่อยากจะพูดถึงคือ รหัสสิ่งแวดล้อมทางด้านวัฒนธรรม วัฒนธรรมที่เราอาศัยด้วยอยู่ในลักษณะใด เป็นวัฒนธรรมทารุณหรือไม่ หรือเป็นวัฒนธรรมเอื้ออาทร วัฒนธรรมมีทั้งสุขและทุกข์ สมัยก่อนมีวัฒนธรรมทาส ถ้าเราไปเกิดในวัฒนธรรมแบบใดก็ขึ้นอยู่กับกรรม อยู่ในวัฒนธรรมล้าหลัง โหดร้าย ก็เป็นผลมาจากกรรมชั่ว เกิดในวัฒนธรรมกลางๆไม่ทารุณโหดร้าย เอื้ออำนวยให้ประกอบกรรมดี ก็เป็นผลมาจากกรรมดี”
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
เสวนาธรรม ‘รหัสกรรม’ ครั้งที่ 1
วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสตร์ ไม่สามารถแยกจากกันได้
วันที่ 27 มี.ค. โครงการผู้จัดการสุขภาพจัดงานกิจกรรมอุทยานรักษ์สุขภาพ ณ บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์(บางลำพู) โดยภายในงานมีการจัดสนทนาธรรม “รหัสกรรมภาค 2” โดยพระอาจารย์วัลลภ ชวนปัญโญ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
นายสนธิกล่าวว่า การเสวนาธรรมครั้งนี้เป็นการสนทนาต่อเนื่องจากการเสวนาธรรมในหัวข้อ “รหัสกรรม” ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สนใจกันมาก ในการจัดงานอุทยานรักษ์สุขภาสพขึ้นในครั้งนี้จึงได้จัดให้มีการเสวนาธรรมในหัวข้อ “รหัสกรรมภาค 2 “ ขึ้นอีก โดยในภาคแรก ขอสรุปเรื่องรหัสกรรมว่า ใครทำกรรมใดก็ได้อย่างนั้น กรรมเป็นตัวกำหนด เรียกว่ากรรมบันดาล และยังได้พูดคุยกันถึงเรื่องกรรมเป็นตัวกำหนดรูปร่างหน้าตาและเพศด้วย โดยในวันนี้จะมาสนทนากันต่อ
พระอาจารย์วัลลภ ชวนปัญญโญ กล่าวว่า ใครทำกรรมเช่นใดก็ให้ผลเช่นนั้น คำพูดที่ว่ามีการสะเดาะเคราะห์ ตัดกรรมได้นั้น ไม่เป็นความจริง เช่น การไปทำสังฆทานโดยหวังว่าจะสะเดาะห์เคราะห์หรือเป็นการตัดกรรมนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การทำสังฆทานเป็นการทำกรรมใหม่ ที่เรียกว่าการสะเดาะเคราะห์เป็นภาษาชาวบ้าน แต่การทำกรรมใหม่หากเป็นกรรมดี คือ เป็นบุญ ก็เท่ากับว่า ความดีที่ทำใหม่เป็นกรรมเบียดเบียนฝ่ายตรงข้ามให้อ่อนลง อุปมาอุปไมยว่า มีเกลือละลายน้ำอยู่ในภาชนะหนึ่ง บุรุษผู้ฉลาดหมั่นเติมน้ำลงไป เกลือนั้นยังอยู่ แต่ความเค็มจางลง ส่วนบุรุษผู้ไม่ฉลาดหมั่นเติมเกลือลงไป แทนที่ความเค็มจะลดลงก็กลับเพิ่มขึ้น อุปมาเกลือนั้นเป็นกรรมนั่นเอง
พระอาจารย์วัลลภกล่าวว่า หนทางที่จะบรรเทากรรมหนักที่จะส่งผลให้เป็นเบา ก็คือต้องทำกรรมดีให้ยิ่งขึ้นไว้ เพื่อมีอานุภาพเบียดเบียนฝ่ายตรงข้าม แต่กรรมที่ทำก็ยังมีผลอยู่ ไม่หายไปไหน ส่วนเรื่องของโหงวเฮ้งหรือหน้าตาใครออกมาในลักษณะใด ก็เป็นผลมาจากรหัสกรรมที่ถูกโปรแกรมเอาไว้ แต่คนคนนั้นจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผลของกรรมที่ทำไว้ แต่หน้าตาเป็นผลที่เกิดมาจากกรรม ทำให้วิชาโหงวเฮ้งรู้ว่าหน้าตาอย่างไรจะมีผลอย่างไร แต่ไม่ใช้หน้าตาบันดาล ไม่ใช่อวัยวะบันดาล แต่เป็นกรรมบันดาลส่วนการทำศัลยกรรมแก้กรรมไม่ได้ แต่เหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหน้าตาเกิดมาจากกรรม
“ในที่นี้จะขอพูดถึงเรื่อง รหัสสิ่งแวดล้อมที่เป็นวัตถุทางกายภาพ หมายความว่า การที่คนผู้ใดอยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นอยู่กับกรรมที่ได้ทำไว้แล้วส่งผล ยกตัวอย่างเช่น ใครที่ตีตั๋วขึ้นรถทัวร์ครั้งใดก็ได้แต่ที่นั่งหน้าห้องน้ำ แสดงว่ากรรมส่งผลอย่างนั้น ไม่ให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความสุขมีคุณภาพ คนบางคนอยู่ในที่ลำบาก อยู่ในสลัม ใกล้กองขยะ แต่คนบางคนก็อยู่ในที่สบาย อยู่คฤหาสน์ หมายความว่าใครที่อยู่ในวัตถุสิ่งแวดล้อมแบบไหน ให้ทราบเถอะว่า กรรมจัดสรรให้เราอยู่อย่างนั้นในวินาทีหนึ่งๆแต่ไม่ตลอดไป กรรมจะโปรแกรมความจำเป็น”
พระอาจารย์วัลลภ กล่าวเสริมว่า ขณะเดียวกันกรรมดีจะช่วยให้กรรมชั่วบรรเทาลง เรียกได้ว่า บุญที่ทำไม่อาจปล่อยให้เราเดียวดายได้ เช่น แม่ครัวคนหนึ่งทำงานในโรงานเคเดอร์ แล้วเกิดเหตุถล่มเมื่อหลายปีก่อน แต่ตรงจุดที่ถล่มแม่ครัวนี้อยู่ในช่องที่พอเหมาะ เศษซากทับถมกัน โดยที่แม่ครัวนี้ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน นอกจากนั้นตรงจุดที่แม่ครัวอยู่ยังมีหม้อข้าวที่หุงไว้อยู่ใกล้ ตลอด 3 วันที่อยู่ในซากตึก จึงไม่อดตาย แต่ก็ต้องทุกข์ทรมานติดอยู่ในตึก ดังนั้น วัตถุสิ่งแวดล้อม หมายถึง สิ่งของทุกอย่างที่แวดล้อมเราสามารถให้คุณ ให้สุข ให้ทุกข์ได้ ตลอดจนการไปพบเจอกับคน สัตว์ ตลอดถึงเชื้อจุลินทรีย์ใดก็เป็นเพราะกรรมบันดาล
พระอาจารย์วัลลภกล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำคือ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เราต้องพบเจอล้วนเป็นรหัสกรรม ดังนั้นเราจึงต้องมีกระบวนการโต้ตอบกลับที่ดี หมายถึงว่า ท่าทีที่มีต่อเขา อย่าทำการโต้ตอบให้เขาทุกข์เหมือนที่เขาทำกับเรา อย่าทำแบบร้ายมาร้ายตอบ เพราะกรรมจะไม่จบไม่สิ้น ให้หมดในชาตินี้ ให้ยุติในชาตินี้ภพนี้ไปเสีย ดังนั้น ท่าทีที่เรามีต่อเขาต้องอย่าให้เกิดบาปกับการกระทำที่เราโต้ตอบไป
“ต่อมาสิ่งที่อยากจะพูดถึงคือ รหัสสิ่งแวดล้อมทางด้านวัฒนธรรม วัฒนธรรมที่เราอาศัยด้วยอยู่ในลักษณะใด เป็นวัฒนธรรมทารุณหรือไม่ หรือเป็นวัฒนธรรมเอื้ออาทร วัฒนธรรมมีทั้งสุขและทุกข์ สมัยก่อนมีวัฒนธรรมทาส ถ้าเราไปเกิดในวัฒนธรรมแบบใดก็ขึ้นอยู่กับกรรม อยู่ในวัฒนธรรมล้าหลัง โหดร้าย ก็เป็นผลมาจากกรรมชั่ว เกิดในวัฒนธรรมกลางๆไม่ทารุณโหดร้าย เอื้ออำนวยให้ประกอบกรรมดี ก็เป็นผลมาจากกรรมดี”
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
เสวนาธรรม ‘รหัสกรรม’ ครั้งที่ 1
วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสตร์ ไม่สามารถแยกจากกันได้
