ขึ้นชื่อว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ นับตั้งแต่ชิ้นเล็กจิ๋วจนถึงชิ้นใหญ่และสลับซับซ้อนนำไปใช้กับคนไข้นับตั้งแต่ตรวจโรคพื้นๆ จนถึงใช้ยื้อชีวิตตั้งแต่วินาทีต่อวินาที สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีราคาที่แสนแพงและส่วนมากก็มักจะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศแทบทั้งสิ้น และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บ้านเราเกิดปัญหาอุปกรณ์สำหรับรักษาพยาบาลไม่พร้อมอยู่เสมอ ๆ
ดังนั้นเพื่อลดการนำเข้าและช่วยลดภาระการทำงานของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ มีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้คิดประดิษฐ์เครื่องวัดและติดตามความดันโลหิตระบบออสโลเมตริก ขึ้น นักวิจัยกลุ่มนี้ประกอบด้วย สมใจ อารยวัฒน์ พีรพัฒน์ พิสุทธิพงษ์ และวิทยา ชำนาญไพร จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
โดยผู้วิจัยกลุ่มนี้ เล่าให้ฟังว่า โดยปกติ การตรวจวัดระดับค่าความดันโลหิตของคนทั่วไปจะนิยมใช้เครื่องตรวจวัดชนิดปั๊มลมด้วยมือร่วมกับหูฟังหรือสเตรทโตสโคป(stethoscope) เพื่อฟังเสียงและวิเคราะห์ระดับค่าของโลหิต แต่บางครั้งค่าความดันโลหิตที่วัดได้อาจเกิดผิดพลาดและคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากใช้ประสาทสัมผัสที่เป็นความรู้สึกของแพทย์เป็นตัวชี้วัดค่าความดันโลหิต ซึ่งแต่ละคนจะมีความรู้สึกสัมผัสที่แตกต่างกันและตำแหน่งที่วางสเตทโตสโคปก็มีผลต่อการได้ยินเสียงที่แตกต่างกันด้วย
อีกประการหนึ่งในการผ่าตัดจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจติดตามค่าความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจของคนไข้อยู่ตลอดเวลาซึ่งไม่เป็นการสะดวกในการที่เจ้าหน้าที่จะคอยวัดและบันทึกติดตามอาการของผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา
จากปัญหาดังกล่าว เครื่องวัดความดันโลหิตระบบออสซิโมเมตริก จึงได้พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเครื่องวัดนี้จะอาศัยการทำงานและสั่งการจากชุดคอมพิวเตอร์มอดูล (computer module) วงจรจะสั่งให้ตัวปั๊มลมขนาดเล็ก (Micropump) ซึ่งอยู่ใน บี.พี.มอดูล (blood pressure module:BP module) นั้นจะปั๊มลมเข้าที่ปลอกแขนจนหลอดเลือดถูกปิดการไหลเวียนชั่วขณะในขึ้นตอนการปั๊มลมเข้าจะต้องวัดระดับความดันอากาศสูงสุดในปลอกแขนให้ได้ค่าประมาณ 230-300 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งขึ้นอยู่กับการสั่งการจากวงจรไมโครคอนโทรเลอร์
ดังนั้นต้องทำการติดตั้งตรวจจับความดันที่ท่อลมเพื่อวัดค่าความดันของหลอดเลือดตลอดเวลา จากนั้นระบบจะทำการปล่อยลมออกทีละครั้งด้วยขนาดปริมาณที่พอเหมาะ โดยมีตัวลิ้นเปิดปิดชนิดเข็ม (Needle valve) ทำหน้าที่เปิดปิดหรือเป็นตัวควบคุมปริมาณการปล่อยลม ซึ่งถูกควบคุมจากคำสั่งหรือโปรแกรมของอุปกรณ์ไมโครคอนโทรเลอร์อีกที ตัวตรวจจับความดันจะทำหน้าที่ตรวจสอบความดันโลหิตที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อหาค่าความดัน โลหิตค่าบนสุดและค่าความดันโลหิตต่ำสุด แล้วส่งข้อมูลไปยังตัวอุปกรณ์ไมโครคอนโทรเลอร์ประมวลและแสดงผลออกมาเป็นตัวเลขบนหน้าปัดต่อไป ซึ่งข้อมูลจากการตรวจวัดความดันโลหิตที่ตรวจได้ถูกนำไปเก็บในระบบความจำในเครื่องคอมพิวเตอร์ ในการรับส่งสัญญาณข้อมูลจะถูกส่งผ่านทางช่องแบบอนุกรมหรือช่อง RS-232 ซึ่งเราสามารถนำออกมาดูซ้ำกี่ครั้งก็ได้ในภายหลัง
ส่วนค่าความแม่นยำในการวัดความดันโลหิตนี้ จากการตรวจสอบความแม่นยำของเครื่องมาตรฐาน ณ ห้องทดสอบ เอ็มไอซี ซีสเต็ม ปรากฏว่าการวัดความดันโลหิตในช่วงของการใช้งานปกติค่าของคนปกติ คือ 120/80 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ค่าผิดพลาดจะมีค่าเท่ากับ 0/+1 มิลลิเมตรปรอท ค่าผิดพลาดจะมีค่าเท่ากับ -8/-2 มิลลิเมตรซึ่งอยู่นอกเหนือค่ามาตรฐาน
นับว่าเป็นประโยชน์ไม่น้อยนอกจากเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่จะสามารถลดการนำเข้าเครื่องมือวัดทางการแพทย์สำเร็จรูปจากต่างประเทศแล้ว ขณะเดียวกันยังช่วยลดภาระการทำงานของแพทย์และเจ้าหน้าที่อีกด้วย