แพทย์ศิริราช วิจัยพบความสัมพันธ์ของภาวะหลอดเลือดดำที่ขาและแขนอุดตันทำให้บวมโตมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง เกือบร้อยละ 40 โดยลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำมีโอกาสอุดกั้นที่ปอดและหัวใจถึงขั้นเสียชีวิตทันที ระบุนำผลวิจัยตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับหลอดเลือดระดับโลก สร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติ ตอบสนองนโยบาย “เมดิคัล ฮับ” ศูนย์สุขภาพแห่งเอเชียของรัฐบาล
ศ.คลินิก น.พ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานแถลงผลการวิจัยหลอดเลือดดำของขาอุดตันในคนไทย พบร่วมกับโรคมะเร็งว่า คณาจารย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชและโรงพยาบาลศิริราช ได้วิจัยและพัฒนาหลายเรื่อง โดยโรคหลอดเลือดดำในแขนและขาอุดตัน ซึ่งพบไม่มากในประเทศไทย แต่เมื่อวิจัยเชิงลึกแล้ว พบว่าสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง หากค้นพบมะเร็งระยะเริ่มต้น หรือรักษาโรคหลอดเลือดดำอุดตัน จะช่วยรักษาชีวิตคนไข้ไว้ได้ นอกจากความสำเร็จในงานวิจัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขแล้ว ผลงานวิจัยนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ International Journal of Angiology ซึ่งเป็นวารสารทางหลอดเลือดที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์โรคหลอดเลือด เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2547 ที่ผ่านมา
รศ.นพ.กริช โพธิสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ กล่าวว่า หลอดเลือดดำอุดตันทำให้ขาบวมอาจเกิดข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ มีภาวะแทรกซ้อนทำให้เจ็บหน้าอก ไอ มีเสมหะเป็นเลือด ถึงขั้นเสียชีวิต เมื่อขาดเลือดมาเลี้ยงขาทำให้ขาดเลือด เกิดแผลเรื้อรังที่ข้อเท้าซึ่งรักษายาก ปกติโรคหลอดเลือดในแขนขาอุดตันพบมากในชาวตะวันตก เนื่องจากอากาศหนาว เลือดแข็งตัวง่าย รับประทานอาหารไขมันสูง อุบัติการณ์ของโรคจึงสูง อย่างไรก็ตาม โรคนี้พบได้น้อยในคนไทย ทำให้แพทย์ไทยให้ความสนใจไม่มากนัก เป็นผลให้เกิดความล่าช้าในการวินิจฉัยและอาจมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตจากโรคนี้ โดยที่แพทย์ผู้รักษาไม่ทราบถึงสาเหตุการตายของผู้ป่วยเหล่านี้อย่างแน่ชัด
รศ.นพ.ประมุข มุทิรางกูร ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมหลอดเลือด กล่าวว่า กลไกการเกิดโรคมาจากเลือดดำคั่ง เลือดแข็งตัวง่าย และเยื่อบุฉีกขาดจนเกิดการอุดตันในหลอดเลือดดำ ทาง รพ.ศิริราช ได้ทำการศึกษาทางระบาดวิทยาของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตันภายใน รพ.ศิริราช โดยพบผู้ป่วยที่มีอาการบวมบริเวณแขนและขามารับบริการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ชนิดพิเศษ คือ Duplex Ultrasonography หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Duplex Scan ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจพิเศษที่มีประสิทธิภาพสูงในการวินิจฉัยโรค พบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการบวมบริเวณแขนและขา รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,555 ราย ในการตรวจระหว่างปี 2538 - 2543 ผู้ป่วยที่มีการอุดตันของหลอดเลือดดำบริเวณแขนและขารวมทั้งสิ้น 514 ราย โดยเป็นการอุดตันของหลอดเลือดดำบริเวณขา พบ 506 ราย หรือร้อยละ 98 และบริเวณแขน 8 ราย ร้อยละ 2 โดยมีอุบัติการณ์ของโรคนี้ 8 ราย ในผู้ป่วย 10,000 ราย
“ศิริราชได้ศึกษาปัจจัยเสี่ยงทางคลินิกของโรคนี้จากผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดดำของขาอุดตัน 308 ราย ที่รับไว้รักษาภายใน รพ.ศิริราช พบว่า โรคมะเร็งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทางคลินิกสูงเป็นอันดับแรกถึง 123 ราย หรือร้อยละ 39.9 เกือบร้อยละ 40 ที่พบมะเร็งร่วมกับโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน พบว่ามะเร็งระบบสืบพันธุ์มากที่สุดถึงร้อยละ 50.3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมะเร็งระบบนรีเวชวิทยา ได้แก่ มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ รองลงมาเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหาร ร้อยละ 13.2 ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนัก ทั้งนี้ โรคมะเร็งทั้งหมดที่พบ ส่วนใหญ่เกิดภายในช่องท้อง ร้อยละ 75 ภายนอกช่องท้อง ร้อยละ 25” รศ.นพ.ประมุข กล่าว
รศ.นพ.ประมุข กล่าวต่อว่า การตรวจหลอดเลือดดำของขาอุดตันด้วยเครื่อง Duplex Scan สามารถวินิจฉัยว่ามีหลอดเลือดดำของขาอุดตันเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีเกิดระดับไหน และเป็นชนิดใด เมื่อพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคนี้ ควรค้นหามะเร็งซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทางคลินิกของโรคด้วย โดยซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พร้อมทั้งการตรวจพิเศษต่าง ๆ เช่น การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ในส่วนช่องท้อง การถ่ายภาพรังสีทรวงอก การเจาะเลือดตรวจหามะเร็งในผู้ป่วยทุกรายที่ไม่มีสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตันอย่างแน่ชัด เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยโรคมะเร็งที่อาจซ่อนอยู่ในผู้ป่วยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสามารถให้การรักษาได้ในระยะแรก และหากจำเป็นต้องรับการรักษามะเร็งโดยการผ่าตัดหรือให้ยาเคมีบำบัด แพทย์จะต้องระวังโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของการรักษาโรคมะเร็งนี้ นอกจากนี้ โรคหลอดเลือดดำของขาอุดตันที่พบในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งจะมีความรุนแรงของโรคมากกว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ไม่เป็นมะเร็ง ทำให้แพทย์ต้องรีบทำการค้นหามะเร็งร่วมด้วย
“การนั่งห้อยขาทั้งวัน หรือสวมรองเท้าแล้วเท้าบวม ไม่ต้องตกใจ เป็นภาวะบวมที่เกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดแขนและขาบวมอย่างเฉียบพลันมีอาการปวดร่วมด้วย ต้องรีบพบแพทย์ อาจมีภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน เกิดลิ่มเลือดหลุดไปอุดกั้นปอดหรือหัวใจถึงกับเสียชีวิต อยากให้แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปให้ความสำคัญกับการตรวจค้นหามะเร็งด้วย ผลการวิจัยครั้งนี้ยังพบว่า ผู้ที่แขนขาบวมทั้ง 2 ข้าง หากเป็นมะเร็งมีโอกาสหลอดเลือดดำอุดตันร้อยละ 17 ผู้ไม่เป็นมะเร็งมีโอกาสอุดตันร้อยละ 6.5 ผู้เป็นมะเร็งมีภาวะลิ่มเลือดหลุดไปที่ปอดร้อยละ 10.5 ไม่เป็นมะเร็งร้อยละ 5.9 อัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งร่วมด้วยสูงร้อยละ 20.3” รศ.นพ.ประมุข กล่าว
ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล กล่าวย้ำว่า ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารเหมาะสมครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย โรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน เป็นโรคที่พบได้บ่อยพอสมควรในคนไทย พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มอายุ 40 – 70 ปี จะมีความเสี่ยงสูง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในคนไทย ได้แก่ มะเร็ง โดยเกิดจากก้อนลิ่มเลือดแข็งตัวและอุดตันภายในหลอดเลือดดำที่อยู่ในชั้นลึก ทำให้ขาบวม ส่วนใหญ่เป็นการบวมของขาเพียงข้างเดียว และหากก้อนเลือดที่แข็งตัวนี้หลุดออกจากผนังหลอดเลือดดำ จะลอยไปตามกระแสเลือดเข้าไปยังปอด ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรงแก่ผู้ป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิต ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรตรวจค้นหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอในผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ เพราะอาจพบมะเร็งภายหลังได้
ศ.คลินิก น.พ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานแถลงผลการวิจัยหลอดเลือดดำของขาอุดตันในคนไทย พบร่วมกับโรคมะเร็งว่า คณาจารย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชและโรงพยาบาลศิริราช ได้วิจัยและพัฒนาหลายเรื่อง โดยโรคหลอดเลือดดำในแขนและขาอุดตัน ซึ่งพบไม่มากในประเทศไทย แต่เมื่อวิจัยเชิงลึกแล้ว พบว่าสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง หากค้นพบมะเร็งระยะเริ่มต้น หรือรักษาโรคหลอดเลือดดำอุดตัน จะช่วยรักษาชีวิตคนไข้ไว้ได้ นอกจากความสำเร็จในงานวิจัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขแล้ว ผลงานวิจัยนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ International Journal of Angiology ซึ่งเป็นวารสารทางหลอดเลือดที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์โรคหลอดเลือด เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2547 ที่ผ่านมา
รศ.นพ.กริช โพธิสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ กล่าวว่า หลอดเลือดดำอุดตันทำให้ขาบวมอาจเกิดข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ มีภาวะแทรกซ้อนทำให้เจ็บหน้าอก ไอ มีเสมหะเป็นเลือด ถึงขั้นเสียชีวิต เมื่อขาดเลือดมาเลี้ยงขาทำให้ขาดเลือด เกิดแผลเรื้อรังที่ข้อเท้าซึ่งรักษายาก ปกติโรคหลอดเลือดในแขนขาอุดตันพบมากในชาวตะวันตก เนื่องจากอากาศหนาว เลือดแข็งตัวง่าย รับประทานอาหารไขมันสูง อุบัติการณ์ของโรคจึงสูง อย่างไรก็ตาม โรคนี้พบได้น้อยในคนไทย ทำให้แพทย์ไทยให้ความสนใจไม่มากนัก เป็นผลให้เกิดความล่าช้าในการวินิจฉัยและอาจมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตจากโรคนี้ โดยที่แพทย์ผู้รักษาไม่ทราบถึงสาเหตุการตายของผู้ป่วยเหล่านี้อย่างแน่ชัด
รศ.นพ.ประมุข มุทิรางกูร ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมหลอดเลือด กล่าวว่า กลไกการเกิดโรคมาจากเลือดดำคั่ง เลือดแข็งตัวง่าย และเยื่อบุฉีกขาดจนเกิดการอุดตันในหลอดเลือดดำ ทาง รพ.ศิริราช ได้ทำการศึกษาทางระบาดวิทยาของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตันภายใน รพ.ศิริราช โดยพบผู้ป่วยที่มีอาการบวมบริเวณแขนและขามารับบริการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ชนิดพิเศษ คือ Duplex Ultrasonography หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Duplex Scan ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจพิเศษที่มีประสิทธิภาพสูงในการวินิจฉัยโรค พบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการบวมบริเวณแขนและขา รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,555 ราย ในการตรวจระหว่างปี 2538 - 2543 ผู้ป่วยที่มีการอุดตันของหลอดเลือดดำบริเวณแขนและขารวมทั้งสิ้น 514 ราย โดยเป็นการอุดตันของหลอดเลือดดำบริเวณขา พบ 506 ราย หรือร้อยละ 98 และบริเวณแขน 8 ราย ร้อยละ 2 โดยมีอุบัติการณ์ของโรคนี้ 8 ราย ในผู้ป่วย 10,000 ราย
“ศิริราชได้ศึกษาปัจจัยเสี่ยงทางคลินิกของโรคนี้จากผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดดำของขาอุดตัน 308 ราย ที่รับไว้รักษาภายใน รพ.ศิริราช พบว่า โรคมะเร็งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทางคลินิกสูงเป็นอันดับแรกถึง 123 ราย หรือร้อยละ 39.9 เกือบร้อยละ 40 ที่พบมะเร็งร่วมกับโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน พบว่ามะเร็งระบบสืบพันธุ์มากที่สุดถึงร้อยละ 50.3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมะเร็งระบบนรีเวชวิทยา ได้แก่ มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ รองลงมาเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหาร ร้อยละ 13.2 ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนัก ทั้งนี้ โรคมะเร็งทั้งหมดที่พบ ส่วนใหญ่เกิดภายในช่องท้อง ร้อยละ 75 ภายนอกช่องท้อง ร้อยละ 25” รศ.นพ.ประมุข กล่าว
รศ.นพ.ประมุข กล่าวต่อว่า การตรวจหลอดเลือดดำของขาอุดตันด้วยเครื่อง Duplex Scan สามารถวินิจฉัยว่ามีหลอดเลือดดำของขาอุดตันเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีเกิดระดับไหน และเป็นชนิดใด เมื่อพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคนี้ ควรค้นหามะเร็งซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทางคลินิกของโรคด้วย โดยซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พร้อมทั้งการตรวจพิเศษต่าง ๆ เช่น การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ในส่วนช่องท้อง การถ่ายภาพรังสีทรวงอก การเจาะเลือดตรวจหามะเร็งในผู้ป่วยทุกรายที่ไม่มีสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตันอย่างแน่ชัด เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยโรคมะเร็งที่อาจซ่อนอยู่ในผู้ป่วยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสามารถให้การรักษาได้ในระยะแรก และหากจำเป็นต้องรับการรักษามะเร็งโดยการผ่าตัดหรือให้ยาเคมีบำบัด แพทย์จะต้องระวังโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของการรักษาโรคมะเร็งนี้ นอกจากนี้ โรคหลอดเลือดดำของขาอุดตันที่พบในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งจะมีความรุนแรงของโรคมากกว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ไม่เป็นมะเร็ง ทำให้แพทย์ต้องรีบทำการค้นหามะเร็งร่วมด้วย
“การนั่งห้อยขาทั้งวัน หรือสวมรองเท้าแล้วเท้าบวม ไม่ต้องตกใจ เป็นภาวะบวมที่เกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดแขนและขาบวมอย่างเฉียบพลันมีอาการปวดร่วมด้วย ต้องรีบพบแพทย์ อาจมีภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน เกิดลิ่มเลือดหลุดไปอุดกั้นปอดหรือหัวใจถึงกับเสียชีวิต อยากให้แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปให้ความสำคัญกับการตรวจค้นหามะเร็งด้วย ผลการวิจัยครั้งนี้ยังพบว่า ผู้ที่แขนขาบวมทั้ง 2 ข้าง หากเป็นมะเร็งมีโอกาสหลอดเลือดดำอุดตันร้อยละ 17 ผู้ไม่เป็นมะเร็งมีโอกาสอุดตันร้อยละ 6.5 ผู้เป็นมะเร็งมีภาวะลิ่มเลือดหลุดไปที่ปอดร้อยละ 10.5 ไม่เป็นมะเร็งร้อยละ 5.9 อัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งร่วมด้วยสูงร้อยละ 20.3” รศ.นพ.ประมุข กล่าว
ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล กล่าวย้ำว่า ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารเหมาะสมครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย โรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน เป็นโรคที่พบได้บ่อยพอสมควรในคนไทย พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มอายุ 40 – 70 ปี จะมีความเสี่ยงสูง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในคนไทย ได้แก่ มะเร็ง โดยเกิดจากก้อนลิ่มเลือดแข็งตัวและอุดตันภายในหลอดเลือดดำที่อยู่ในชั้นลึก ทำให้ขาบวม ส่วนใหญ่เป็นการบวมของขาเพียงข้างเดียว และหากก้อนเลือดที่แข็งตัวนี้หลุดออกจากผนังหลอดเลือดดำ จะลอยไปตามกระแสเลือดเข้าไปยังปอด ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรงแก่ผู้ป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิต ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดดำของขาอุดตัน ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรตรวจค้นหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอในผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ เพราะอาจพบมะเร็งภายหลังได้