พบแก๊งโกงสอบเข้า ร.ร.นายสิบทหารบกชุดใหญ่ มีนักเรียนตกเป็นเหยื่อขบวนการทำมาหากินถึง 46 คน เผยมีการซุกซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ในรองเท้าเพื่อส่งสัญญาณคำตอบไว้ด้านใน กรมยุทธศึกษาทหารบกประกาศเด็กทั้งหมดที่ทุจริตจะถูกขึ้นบัญชีดำ พิมพ์ลายนิ้วมือส่งเข้าคอมพิวเตอร์ ห้ามสอบเข้าในหน่วยงานทหารทุกสังกัดตลอดไป ด้านหนึ่งในผู้ต้องหาเผยจ่ายเงินไปแล้ว 10,00 บาทจากราคาที่ตกลงกันไว้ 1.5 แสนบาท
วานนี้( 27 ก.พ.) ในการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ ทหารบก ขึ้นที่มหาวิทยาลัย รามคำแหง 2 ซึ่งมีผู้สมัครสอบทั้งสิ้นประมาณ 28,000 คนนั้น เครื่องสแกนได้ส่งสัญญาณเตือนว่าพบสิ่งผิดปกติจากนักเรียนที่เข้าสอบหลายสิบคน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการเตรียมการโกงข้อสอบอย่างแยบยล ซุกซ่อนโทรศัพท์มือถือ ไว้ในรองเท้า โดยเจาะพื้นรองเท้าผ้าใบ แล้วฝังโทรศัพท์ที่ดัดแปลงระบบสั่นเพื่อส่งสัญญาณคำตอบไว้ด้านใน มีแผ่นเหล็กรองรับป้องกันน้ำหนักซึ่งจัดทำไว้พิเศษสำหรับทุจริตโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ เมื่อพบว่ามีการทุจริตจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ควบคุมการสอบได้สั่งระงับการสอบชั่วคราว เพื่อตรวจค้นผู้เข้าสอบอย่างละเอียดทีละคน โดยให้ผู้เข้าสอบถอดรองเท้าและเข็มขัดออกก่อนเข้าห้องสอบ และการตรวจค้นพบว่ามีผู้เข้าสอบซุกซ่อนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์การโกง ประเภทโทรศัพท์มือถือและเพจเจอร์ในรองเท้าและกางเกงในรวมทั้งสิ้น 46 คน จึงควบคุมตัวไปสอบสวน พร้อม รายงานให้ พล.ท.อาทร โลหิตกุล เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และ พล.ต.ไกรเลิศ ขันทองธรรม เสนาธิการยุทธการ กรมยุทธการศึกษาทหารบกทราบ
จากนั้น ในเวลาต่อมา พล.ท.อาทรเปิดเผยว่า จากการสอบสวนเด็กที่เตรียมการทุจริตมีทั้งสิ้น 46 คน พร้อมอุปกรณ์การส่งสัญญาณ ถือว่ายังโชคดีที่พบการทุจริตก่อนการสอบ ซึ่งกลุ่มที่กระทำผิดจะใส่ รองเท้ายี่ห้อเบรกเกอร์ สีขาว น้ำตาลและดำ ขนาดใหญ่กว่าเท้าปกติ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ชัดเจนมาก รองเท้าดังกล่าวทำพิเศษเจาะพื้นรองเท้าฝังโทรศัพท์มือถือ ส่วนเพจเจอร์ยัดซุกกางเกงใน
เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกกล่าวว่า เด็กส่วนใหญ่ได้รับการติดต่อในช่วงไปซื้อใบสมัครที่ค่ายทหาร จะมีนายหน้าเข้าไปสอบถาม อยากสอบผ่านก็ให้เตรียมเงินไว้ 10,000-150,000 บาท แล้วแต่นายหน้าจะโก่งราคา ทำงานกันเป็นทีม กระจายไปตามสถานที่ขายใบสมัครทั่วประเทศ โดยรับประกันว่าสามารถสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบได้แน่นอน เรียกเก็บเงินเป็นงวดๆ เป็นค่าเก็งข้อสอบ ค่าอุปกรณ์ซึ่งจัดหาไว้ให้พร้อมสรรพ มัดจำล่วงหน้าก่อน 5,000-10,000 บาท
จากนั้นจะนัดติวตามโรงแรมต่างจังหวัด เพื่อทดสอบการส่งสัญญาณคำตอบด้วยระบบการสั่น โดยจะนำรถไปรับถึงบ้านและพามาสอบ ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการสอบจับทุจริตได้ แก๊งโกงต่างไหวตัวแยกย้ายกันหลบหนี เชื่อว่าน่าจะเป็นการกระทำหลายกลุ่ม แต่ใช้วิธีใกล้เคียงกัน สุดแล้วแต่จะเรียกร้องเงินมากน้อยแค่ไหน โดยจะกำหนดสัญญาณสั่นเป็นที่รู้กัน ว่าข้อ ก. สั่นกี่ครั้ง ข้อ ข. สั่นกี่ครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดิม ที่เคยหากินแต่พลิกแพลงวิธีการ
ส่วนการดำเนินคดี จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.อุดมสุขดำเนินการ สำหรับเด็กทั้งหมดที่ทุจริตจะถูกขึ้นบัญชีดำ พิมพ์ลายนิ้วมือส่งเข้าคอมพิวเตอร์ ห้ามสอบเข้าในหน่วยงานทหารทุกสังกัดตลอดไป
ด้านนายดนัย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนจาก จ.ชัยภูมิ 1 ในผู้ต้องหา ให้การว่า ไปซื้อใบสมัครที่ค่ายทหาร ใน จ.นครราชสีมา กับแม่ มีนายหน้าแต่งกายคล้ายทหารเข้าไปทาบทามติดต่อบอกว่าหากอยากสอบได้ ให้เตรียมเงินไว้ 150,000 บาท เป็นค่าใช้จ่าย รับประกันว่าสอบได้แน่นอน หากสอบไม่ได้ยินดีคืนเงิน เมื่อเห็นเพื่อนตกลงจ่ายเงิน และดูท่าทางน่าเชื่อถือจึงตัดสินใจไปติวกับเพื่อนด้วย โดยจ่ายเงินไปแล้ว 10,000 บาท รู้สึกเสียใจ เนื่องจากอยากเป็นทหารมาก
ส่วนพ.ต.ท.สุชาติ เจริญสุข สวส.สน.อุดมสุข เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทางกรมยุทธศึกษาได้มอบอุปกรณ์ของกลาง และตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยเบื้องต้นสอบปากคำ ทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือนักเรียนทั้งหมดแล้วลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานไปยังกรมไปรษณีย์โทรเลข เพื่อตรวจสอบข้อหาความผิดให้ชัดเจน พร้อมกันนี้ได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบถึงขบวนการโกงข้อสอบ เพื่อติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีแล้ว
วานนี้( 27 ก.พ.) ในการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ ทหารบก ขึ้นที่มหาวิทยาลัย รามคำแหง 2 ซึ่งมีผู้สมัครสอบทั้งสิ้นประมาณ 28,000 คนนั้น เครื่องสแกนได้ส่งสัญญาณเตือนว่าพบสิ่งผิดปกติจากนักเรียนที่เข้าสอบหลายสิบคน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการเตรียมการโกงข้อสอบอย่างแยบยล ซุกซ่อนโทรศัพท์มือถือ ไว้ในรองเท้า โดยเจาะพื้นรองเท้าผ้าใบ แล้วฝังโทรศัพท์ที่ดัดแปลงระบบสั่นเพื่อส่งสัญญาณคำตอบไว้ด้านใน มีแผ่นเหล็กรองรับป้องกันน้ำหนักซึ่งจัดทำไว้พิเศษสำหรับทุจริตโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ เมื่อพบว่ามีการทุจริตจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ควบคุมการสอบได้สั่งระงับการสอบชั่วคราว เพื่อตรวจค้นผู้เข้าสอบอย่างละเอียดทีละคน โดยให้ผู้เข้าสอบถอดรองเท้าและเข็มขัดออกก่อนเข้าห้องสอบ และการตรวจค้นพบว่ามีผู้เข้าสอบซุกซ่อนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์การโกง ประเภทโทรศัพท์มือถือและเพจเจอร์ในรองเท้าและกางเกงในรวมทั้งสิ้น 46 คน จึงควบคุมตัวไปสอบสวน พร้อม รายงานให้ พล.ท.อาทร โลหิตกุล เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และ พล.ต.ไกรเลิศ ขันทองธรรม เสนาธิการยุทธการ กรมยุทธการศึกษาทหารบกทราบ
จากนั้น ในเวลาต่อมา พล.ท.อาทรเปิดเผยว่า จากการสอบสวนเด็กที่เตรียมการทุจริตมีทั้งสิ้น 46 คน พร้อมอุปกรณ์การส่งสัญญาณ ถือว่ายังโชคดีที่พบการทุจริตก่อนการสอบ ซึ่งกลุ่มที่กระทำผิดจะใส่ รองเท้ายี่ห้อเบรกเกอร์ สีขาว น้ำตาลและดำ ขนาดใหญ่กว่าเท้าปกติ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ชัดเจนมาก รองเท้าดังกล่าวทำพิเศษเจาะพื้นรองเท้าฝังโทรศัพท์มือถือ ส่วนเพจเจอร์ยัดซุกกางเกงใน
เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกกล่าวว่า เด็กส่วนใหญ่ได้รับการติดต่อในช่วงไปซื้อใบสมัครที่ค่ายทหาร จะมีนายหน้าเข้าไปสอบถาม อยากสอบผ่านก็ให้เตรียมเงินไว้ 10,000-150,000 บาท แล้วแต่นายหน้าจะโก่งราคา ทำงานกันเป็นทีม กระจายไปตามสถานที่ขายใบสมัครทั่วประเทศ โดยรับประกันว่าสามารถสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบได้แน่นอน เรียกเก็บเงินเป็นงวดๆ เป็นค่าเก็งข้อสอบ ค่าอุปกรณ์ซึ่งจัดหาไว้ให้พร้อมสรรพ มัดจำล่วงหน้าก่อน 5,000-10,000 บาท
จากนั้นจะนัดติวตามโรงแรมต่างจังหวัด เพื่อทดสอบการส่งสัญญาณคำตอบด้วยระบบการสั่น โดยจะนำรถไปรับถึงบ้านและพามาสอบ ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการสอบจับทุจริตได้ แก๊งโกงต่างไหวตัวแยกย้ายกันหลบหนี เชื่อว่าน่าจะเป็นการกระทำหลายกลุ่ม แต่ใช้วิธีใกล้เคียงกัน สุดแล้วแต่จะเรียกร้องเงินมากน้อยแค่ไหน โดยจะกำหนดสัญญาณสั่นเป็นที่รู้กัน ว่าข้อ ก. สั่นกี่ครั้ง ข้อ ข. สั่นกี่ครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดิม ที่เคยหากินแต่พลิกแพลงวิธีการ
ส่วนการดำเนินคดี จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.อุดมสุขดำเนินการ สำหรับเด็กทั้งหมดที่ทุจริตจะถูกขึ้นบัญชีดำ พิมพ์ลายนิ้วมือส่งเข้าคอมพิวเตอร์ ห้ามสอบเข้าในหน่วยงานทหารทุกสังกัดตลอดไป
ด้านนายดนัย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนจาก จ.ชัยภูมิ 1 ในผู้ต้องหา ให้การว่า ไปซื้อใบสมัครที่ค่ายทหาร ใน จ.นครราชสีมา กับแม่ มีนายหน้าแต่งกายคล้ายทหารเข้าไปทาบทามติดต่อบอกว่าหากอยากสอบได้ ให้เตรียมเงินไว้ 150,000 บาท เป็นค่าใช้จ่าย รับประกันว่าสอบได้แน่นอน หากสอบไม่ได้ยินดีคืนเงิน เมื่อเห็นเพื่อนตกลงจ่ายเงิน และดูท่าทางน่าเชื่อถือจึงตัดสินใจไปติวกับเพื่อนด้วย โดยจ่ายเงินไปแล้ว 10,000 บาท รู้สึกเสียใจ เนื่องจากอยากเป็นทหารมาก
ส่วนพ.ต.ท.สุชาติ เจริญสุข สวส.สน.อุดมสุข เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทางกรมยุทธศึกษาได้มอบอุปกรณ์ของกลาง และตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยเบื้องต้นสอบปากคำ ทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือนักเรียนทั้งหมดแล้วลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานไปยังกรมไปรษณีย์โทรเลข เพื่อตรวจสอบข้อหาความผิดให้ชัดเจน พร้อมกันนี้ได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบถึงขบวนการโกงข้อสอบ เพื่อติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีแล้ว