xs
xsm
sm
md
lg

SIIT สถาบันการศึกษาของเด็กไทยหัวใจอินเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หากใครคิดว่า อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศเจ้าของภาษา อยากเป็นวิศวกรต้องไปเรียนยังประเทศที่มีการผลิตงานและพัฒนาอุตสาหกรรมสูง คงต้องหันมาปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่เพราะการศึกษาในยุคที่ก้าวล้ำนำสมัยอย่างยุคนี้ ดูเหมือนจะมีสถาบันการศึกษาในแบบนานาชาติหรือที่เรียกว่า สถาบันอินเตอร์นั้นผุดขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้เข้าไปเป็นเฟรชชี่มากมาย แต่สถานศึกษาใดที่จะครองใจเด็กแนวได้คงต้องมาดูกันอีกที

ศ.ดร.สวัสดิ์ ตันตระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงความเป็นมาของสถาบันว่า กำเนิดจากความร่วมมือของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับสหพันธ์เศรษฐกิจแห่งประเทศญี่ปุ่น (KEIDANREN) โดยทั้งสองหน่วยงานจะมีการประชุมพบปะหารือกันมาโดยตลอด

จากนั้น ในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู จึงได้เข้าเจรจากับทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีภาคภาษาอังกฤษขึ้น โดยได้รับงบประมาณจากทางสหพันธ์ฯญี่ปุ่นเพื่อนำไปก่อสร้างอาคารเรียนและห้องแล็บในปี พ.ศ.2535 และต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2539 ก็ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเป็น “สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร” โดยเปิดรับนักศึกษาจากทั้งคนไทยและต่างชาติ

ส่วนระบบการบริหารงานของสถาบันจะไม่ขึ้นกับระบบราชการมีอิสระในการทำงานและงบประมาณที่ใช้ภายในสถาบันทั้งหมดเป็นงบที่ได้มาจากค่าบำรุงการศึกษา งานวิจัยและจากการบริจาคทั้งสิ้น โดยคณาจารย์จะต้องจบในระดับปริญญาเอกทุกคนมีทั้งอาจารย์ชาวไทยและต่างชาติประมาณ 25 % และทุกคนต้องใช้วิธีรูดบัตรเข้าออกทุกครั้งที่มาทำการสอนเพื่อจะได้มีเวลาให้กับนักศึกษาอย่างเต็มที่ รวมทั้งยังมีข้อบังคับว่าอาจารย์จะต้องทำงานวิจัยเพื่อพัฒนาความรู้ให้ทันเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา หากไม่ทำตามข้อบังคับทางสถาบันจะไม่ต่อสัญญาให้ เพราะมีการประเมินผลงานของอาจารย์ด้วย

“ทางสถาบันของเราถือว่า เป็นสถาบันนานาชาติที่ดีที่สุดในไทยก็ว่าได้ จากการที่เราได้อยู่ในสังกัดของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือว่าเป็นเครื่องรับประกันคุณภาพได้ดีระดับหนึ่งและมีอีกที่หนึ่งคือที่วิทยาเขตบางกระดี่ เหตุที่ไปสร้างตรงนั้นเพราะเป็นพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากทำให้นักศึกษาได้ใกล้ชิดกับสถานที่ทำงานจริง อีกทั้งผลงานวิจัยของคณาจารย์ในสถาบันก็ได้รับการตีพิมพ์เป็นบทความทั้งในหนังสือวารสารวิชาการระดับประเทศและต่างประเทศคิดเป็นสองเท่าถ้าเทียบกับมหาวิทยาลัยนานาชาติที่อื่นคือทางสถาบันเราจะมีการตีพิมพ์ 1 เรื่องต่อ1 ปี ส่วนที่อื่นจะประมาณ 0.1-0.2 เรื่องต่อปีหมายความว่าปีหรือสองปีถึงจะได้รับการตีพิมพ์เป็นสักเรื่อง”

ศ.ดร.สวัสดิ์ ยังเล่าว่า หลักสูตรการเรียนการสอนมีตั้งแต่ระดับปริญญาตรี โทและเอก โดยในช่วงแรกที่พึ่งเปิดสถาบันยอมรับว่ามีนักศึกษามาเรียนน้อย แต่ต่อจากนั้นอีกไม่นานก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันจะรับนักศึกษา 2 ภาคการศึกษา ในปีหนึ่งประมาณ 500 คน

ส่วนความแตกต่างจากสถาบันนานาชาติที่อื่นคือ จะไม่รับนักศึกษาแบบครึ่งๆกลางๆ ไม่ใช่ว่าอยากเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะรับเป็นเทอมๆไปเพราะถ้ารับแบบที่อื่นเดี๋ยวจะเกิดปัญหาว่านักศึกษาจะเรียนไม่ทันคนอื่น

เมื่อเข้ามาเป็นศึกษาที่นี่ในปีแรกทางสถาบันฯจะจัดแคมป์สำหรับนักศึกษาที่ยังอ่อนในเรื่องของภาษาอยู่บ้างเพราะการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษหมดทุกวิชา ซึ่งจะจัดให้สองสัปดาห์โดยให้เรียนภาษาทั้งวัน และเนื่องจากเปิดสอนหลักสูตรที่ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยี ฉะนั้น นักศึกษาที่จบมาจากโรงเรียนนานาชาติส่วนใหญ่ถ้าเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์อาจจะยังไม่ดีพอ ส่วนนี้ก็มีการจัดติวให้ด้วย

สำหรับค่าเล่าเรียนระหว่างที่ศึกษาอยู่ในสถาบันฯประมาณ 130,000 บาทต่อปีโดยเฉลี่ย แต่ยังไม่รวมค่าตำราที่ใช้ในการเรียนการสอนซึ่งเป็นเล่มเดียวกับที่ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป ส่วนทุนการศึกษาไม่ว่าจะเป็นทุนขาดแคลนหรือทุนอื่นๆ ก็มีให้ตลอด

“หากผู้ที่ต้องการจะไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทหรือเอกที่ต่างประเทศ อยากจะแนะนำให้มาเรียนที่สถาบันของเราจะเป็นการเตรียมภาษาที่ดีมาก เพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อนเมื่อสมัยไปเรียนที่ต่างประเทศตอนนั้นคิดว่าภาษาอังกฤษของตัวเองก็อยู่ในระดับที่ดี แต่พอไปเรียนจริงๆ ยังต้องได้ปรับอีกเยอะ และในอนาคตสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธรจะพยายามพัฒนาและผลักดันตัวเองให้ทัดเทียมจนกระทั่งกลายเป็นสถาบันที่มีการเรียนการสอนชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีระดับภูมิภาคเอเชียต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น